|
Edinburgh, Scotland |
ความเดิมตอนที่แล้ว เรามาลอนดอน แล้วจากลอนดอนก็เดินทางมาที่ สก๊อตแลนด์ แล้วก็เที่ยวในตัวเมือง Edinburgh อยู่หนึ่งวันครับ ตาม link เหล่านี้
ไหนๆ ก็จะจบแล้ว จะรวบให้จบเลยใน บทความนี้นะครับ สามตอนพอ ตอนนี้ก็จะไปเที่ยว Highland แล้วกลับมาเที่ยวลอนดอนต่อ ก่อนจะบินกลับไทย
http://phongthon.blogspot.com/2017/03/day-1-2.html
http://phongthon.blogspot.com/2017/03/day-3-4.html
พอตื่นเช้ามา ก็เรียก Taxi ไปที่ Rabbies cafe ครับ ซึ่งเป็นคาเฟ่ และเป็นคล้ายๆ Terminal ของผู้ที่จะมาเที่ยวทัวร์ของ Rabbie's เขาเรียกที่นี่ว่า Rabbies's Cafe bar
https://www.cafe.rabbies.com/
|
Rabbies's Cafe bar |
จุดสังเกตุ คือ มันอยู่ใกล้ๆ กับ Calton Hill ที่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ Edinburgh ครับ และตรงหลังเขานี้ก็มี ที่ทำการรัฐบาล สก๊อตตั้งอยู่
Nelson Monument ตั้งอยู่บน Calton Hill เหมือนกัน แต่วันที่ไปนั้นปิดอยู่ เป็นอนุสรณ์แก่การชนะสงครามทางเรือของสหราชอาณาจักร ต่อกองเรือฝรั่งเศสและสเปน โดยวาทะสำคัญของท่าน Nelson คือ คำที่ว่า
"England expects that every man will do his duty
"
|
Nelson Monument, Calton Hill |
เห็นปืนใหญ่ กับ Dugald Steward monument สร้างเป็นอนุสรณ์แก่ อาจารย์ท่านนี้ที่มหาวิทยาลัย Edinburgh จะเห็นว่าสถาปัตยกรรมบน Calton Hill นี้สร้างแบบศิลปะกรีก โรมัน อย่างรูปเปิดของบทความนี้ หน้าตาเหมือนวิหารพาร์เธนอน
|
Calton Hill, Edinburgh |
บริเวณถนนแถวๆ ที่รอขึ้นรถทัวร์ ไปเที่ยวที่ Highland คือตรงที่อยู่ที่ Edinburgh นี่เรียกว่า Low land ถ้าไปทางเหนือๆ จะมีภูมิประเทศเป็นภูเขา และมีทะเลสาบชื่อดัง ที่มีตำนานสัตว์ประหลาด เนสซี่อยู่ คือทะเลสาบ Loch Nes
|
Edinburgh |
มีเวลาเดินดูไม่มากครับ เพราะไม่ได้ตัั้งใจจะขึ้นไปหรอก แค่เวลาเหลือ ดูแปปเดียวก็ต้องกลับมา รอขึ้นรถที่ Rabbie's Cafe แล้วครับ ตรงนี้จะมีป้ายเรียกขึ้นรถด้วย แต่ก็มีอาหารกับน้ำ ให้กินในระหว่างที่รอ (แต่ต้องเสียตังค์นะครับ)
|
Rabbies's Cafe bar |
ผมเข้าใจว่าทัวร์ที่ผมไป เรียกว่า Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour คือเป็นทัวร์ที่ จะขับรถผ่าน Glencoe และไป Loch Ness ไปตรงทะเลสาบ ใช้เวลาหนึ่งวัน ราคา 42 ปอนด์ ขอบอกว่าทัวร์นี้นั่งรถยอะมาก คือไปกลับ เกือบสี่ร้อยไมล์ ได้
และเป็นสี่ร้อยไมล์ ที่ผ่านภูเขา คือต้องเตรียมใจนั่งรถกันเลย และขอบอกว่า ระหว่างทาง มีสัญญาณอินเตอร์เนต น้อย จนแทบไม่มี และไม่อาจรู้ได้ว่าจะเจอสภาพอากาศดีหรือไม่ดีในวันที่เราไป เพราะอากาศที่ Scotland เปลี่ยนแปลงเร็วมาก
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
คนขับรถจะทำหน้าที่เป็นไกด์ไปด้วย คือเขาก็จะพูด เล่าเรื่อง ไปเรื่อยๆ พร้อมกับขับรถไป
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
และระหว่างทางก็จะแวะ ให้เข้าห้องน้ำ กินขนม ไปเรื่อยๆ โดยจุดแรกที่แวะคือ ที่ Callender ซึ่งก็เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่าง highland กับ lowland
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
พอขับไปถึง Glencoe อ้าว เมฆหมอกปกคลุมเช่นนี้เลย ก็ถ่ายรูปได้ไม่สวยมากครับ ตรง Glencoe นี่ถ้าไปดูรูปใน เนต จะค่อนข้างสวยกว่ารูปผมเยอะ
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
นั่งรถไปสุดสายที่ Loch Ness ทำให้ผมเรียนรู้ว่า Loch แปลว่า Lake
ทัวร์ Rabbie ก็ให้เรามาทานข้าวกันตรงนี้ ที่ Loch Ness ซึ่งวันนั้นฝนตกใหญ่เลย
คนที่มา Loch Ness น่าจะต้องรู้จัก Nessie ไม่งั้นจะมาทำไม
|
Loch Ness |
|
Loch Ness |
วันนั้นเราไม่พบ Nessie ก็เลยทานข้าว เพราะเขาให้แวะทานข้าวตรงนั้น
|
Loch Ness |
ร้านข้าวแถวนั้นไม่มีให้เลือกมาก เราก็เลยเลือกร้านนี้ แถมเข้าไปร้านมี wifi แหละ แต่ wifi ไม่มี อินเตอร์เนต
|
Loch Ness |
|
Loch Ness |
จะว่าไป อาหารก็พอทานได้ครับ
|
Loch Ness |
ขากลับ ก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ขับกลับมาเรื่อยๆ มีจุดพักคือ น้ำตก เล็กๆ
|
Loch Ness, Glencoe & Highlands 1 day tour |
สรุป ทัวร์นี้ เป็นทัวร์ที่สำหรับคนที่มีเวลาแค่วันเดียว แล้วต้องการ นั่งรถดู Highland ให้ทั่วครับ ซึ่งเนื่องจาก Highland มันใหญ่ ถ้าเลือก ทัวร์นี้ก็ต้องนั่งรถกันทั้งวันเลยทีเดียว
กลับมาหมดพลัง สลบ นอนที่ The Howard hotel เหมือนเดิม
|
The Howard hotel |
ตอนเช้าเชคเอ้า แล้วเดินชมเมืองอีกสักหน่อย
|
Edinburgh, United Kingdom |
|
Edinburgh, United Kingdom |
|
Edinburgh, United Kingdom |
แล้วก็ขึ้นรถไฟเหมือนเดิม ใช้เวลาอีกครึ่งวันก็มาถึงที่ลอนดอนครับ ครั้งนี้เปลี่ยนโรงแรมแล้ว ไปนอน Best Western อันนี้ติด Hyde Park อันนี้เลย Best Western Morndington hotel
http://www.morningtonhotel.co.uk/
ค่อนข้างผิดหวังมาก กับโรงแรมนี้ ตั้งแต่เข้ามาแล้ว คือมันคล้ายๆ กับเป็น apartment เก่า มารีโนเวต ผังของโรงแรมก็ค่อนข้างซับซ้อน ทางเดินก็แคบ
แถมห้องที่เราอยู่มันไปอยู่ใต้ดิน แล้วเราก็มีกระเป๋าใหญ่ๆ มาจากรถไฟ ไม่มีพนักงานมาช่วยขนไป ต้องขนไปเอง
พอเข้าไปที่ห้อง ห้องก็ยังไม่เรียบร้อยอีก แถมห้องก็เล็ก และราคาห้องแพงมาก คือสองคืนจ่ายไปเกือบสามหมื่น และทำเลก็ไม่ได้ดีมาก
แถมพอคืนที่สอง ออกไป กลับมา ห้องไม่ได้ทำ เขาบอกว่า เราออกจากห้องเก้าโมงเช้า แม่บ้านมาเร็ว ก็เลย ไม่ได้ทำ อ้าว แล้วทำไมไม่กลับมาทำ
ข้อดีของโรงแรมนี้ มีอยู่อย่างเดียว คือ ตรงแผนกอาหารเช้า เขาบริการดีมาก และตั้งใจ ส่วนแผนกต้อนรับ แย่ มากๆ
พอเขียน complain ไปเสร็จ สรุป เขาบอกว่าจะลด 20% ให้ในการมาครั้งหน้า เราก็บอกว่าไม่กลับไปแล้ว ทีนี้เขาก็เลย บอกว่าจะคืนเงินให้ 20% ของที่หักไป ในบัตรเครดิตเรา ก็ต้องดูว่าที่พูดน่ะจริงมากแค่ไหนนะครับ แต่ยังไง ไม่กลับไปแล้วนะที่นี่
|
Best Western Morndington Hotel |
|
Best Western Morndington Hotel |
|
Best Western Morndington Hotel |
โรงแรมนี้อยู่ไม่ไกลจากย่านคนจีน คนอินเดียมากนัก ก็มีซอยร้านอาหารจีนอยู่ ที่มี Four Seasons นั่นเองครับ
ผมคิดว่าร้านที่ลอนดอน อร่อยกว่าร้านที่ไทยครับ แม้จะแต่งร้านหรูไม่เท่าก็ตาม
|
Four Seasons Restaurant, London |
|
Four Seasons Restaurant, London |
|
Four Seasons Restaurant, London |
วันรุ่งขึ้นอีกวัน ก็เป็นวันไปดูพิพิธภัณฑ์ British Museum ครับ
http://www.britishmuseum.org/
เนื่องจากโรงแรมเราอยู่ติด Hyde park ก็เลยเดินผ่าน Hyde park ไป
|
Hyde Park, London |
เขามีเรียนขี่ม้ากัน
|
Hyde Park, London |
Marble arch
|
Marble arch |
Marble arch มีโต๊ะปิงปอง เพื่อประชาชน อยู่หลายโต๊ะเลย มีไม้ด้วย
|
Marble arch |
รอบนี้ซื้อ Oyster card แล้ว ค่าซื้อ ห้าปอนด์ เติมเงินอีกหกปอนด์ คือ ถ้าทำแบบนี้จะถูกกว่า ซื้อ one day pass ในกรณีที่อยู่ลอนดอน หลายๆวันนะครับ
|
Oyster card |
ถึง British Museum แล้ว ตอนนี้เขามีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาขึ้นมาก เนื่องจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดบ่อยๆ
|
British Museum, London |
ค่าเข้าที่นี่เขาฟรี แต่เขาก็อยากให้เราบริจาคเหมือนกัน ผมชอบ British museum มากเลยครับ ถ้าคนที่ชอบดู คงต้องมาอยู่หลายๆ วันเลย เพราะห้องเยอะมาก
|
British Museum, London |
มีไกด์บุค ที่แจกฟรีของพิพิทธภัณฑ์ มันเป็น route สำหรับคนที่จะเลือกดูของต่างๆ Guide book จะบอกเลยว่า ให้ไปดูห้องไหนบ้าง และเล่าเรื่องต่อเป็นเรื่องราว
|
British Museum, London |
Rosetta stone เป็นพระเอก ของ British museum ทีเดียว ใครก็ก็มาดูหินก้อนนี้ครับ
http://www.rosettastone.com/
|
Rosetta stone |
ของจากอียิปต์ เยอะอยู่
|
British Museum, London |
|
British Museum, London |
จากนั้นก็เป็นเวลา ซื้อของและเดินเล่นแล้วครับ วันที่ไปนั้นเป็นวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งเป็น วัน St. Patrick's day ผู้คนก็จะใส่ชุดสีเขียวๆ กัน และต้องกิน Beer Guinness
ส่วนผมก็แวะไปกินมาสองร้านคือร้าน Shake Shack
|
Shake Shack |
เป็นร้านเบอเกอร์ ที่มี Beer และ Wine
เบียร์ร้านนี้เป็น Ale ที่เป็นของชื่อร้านตัวเอง ด้วยครับ อร่อยดี
https://www.shakeshack.com/
|
Shake Shack |
|
Shake Shack |
|
Shake Shack |
อีกร้านคือร้าน Crown and Anchor ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ Covent garden
|
Crown and anchor |
ผมชอบ สหราชอาณาจักร อย่างหนึ่งตรงที่ เบียร์หาซื้อใน super market ได้ยาก แต่ถ้าจะมาทานในร้าน ก็มาทานได้ตลอดเวลา และก็มีหลายแบบให้เลือกด้วยครับ นอกจากนั้นภายในร้านพวกนี้เขางดสูบบุหรี่ทั้งร้านเลยนะ ทุกร้านด้วยครับ
|
Crown and anchor |
รุ่งเช้า ก็ check out แล้วไปขึ้นรถไฟ Heathrow express ที่ สถานี Paddington ครับ
จองก่อนได้ครับ Heathrow express ออกทุกสิบห้านาที
https://www.heathrowexpress.com/
จอง online ได้ครับ ข้อดี คือเร็วกว่าเยอะ และราคาก็ถูกกว่านั่ง taxi เยอะ ถ้าไปคนเดียว แต่ถ้าไปสี่ห้าคน ก็เริ่มจะเท่าๆ กับ taxi เวลารถไม่ติดแล้วครับ
|
Paddington Station |
หาไม่ยากครับ ไปถึง Paddington ก็จะมีลายอยู่บนพื้น บอกทางไปสู่ Heathrow express ได้อย่างง่ายดาย
|
Heathrow express |
ผมคิดว่า เป็นวิธีการไปสนามบินที่ดีมากครับ Heathrow express นี่
|
Heathrow express |
สนามบิน Heathrow,London ก็มีหลายๆ อย่างน่าสนุกครับ แต่สนามบินใหญ่นะครับ ดังนั้นต้องเผื่อเวลาในการเดินทางไปที่ Gate ครับ
|
Heathrow ,London |
ผมก็ขอจบการเดินทางไปลอนดอน เอดินเบริ์ก ล็อคเนส ของผมแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามเสมอมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น