วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รูปจากทัวร์ สิบสองปันนา จากเชียงของ ถึง เชียงรุ้ง ประเทศจีน , ครบ 100 posts ที่ บทความนี้ครับ

Lucky Buddha
เขียนบทความใน blog นี้ มาครบ 100 บทความที่ บทความอันนี้แล้วครับ บทความนี้ผมคงแค่เอารูปจาก ทริป สิบสองปันนา ที่เชียงรุ่ง เชียงรุ้ง หรือชื่ออื่นๆ แล้วแต่จะเรียกครับ  blog ของผมที่เขียนมานี่จะพบว่า มีทั้งบทความที่ฮิตมาก และบทความที่ไม่ฮิตเลย แต่ผมก็อยากจะเขียน  บทความที่เป็นพวกห้างจะมีคนดูมากที่สุด ส่วนที่เป็นท่องเที่ยวแบบ บทความอันนี้ ก็จะไม่ค่อยมีคนดูครับ

ผมเริ่มเขียนจากการที่หวังจะเอาเงินจาก ad sense ครับ ยอมรับเลยว่าทีแรกก็ตั้งใจจะเขียนเอาเงินเหมือนกัน และคิดว่ามีคนเข้าแค่เดือนละหมื่น view ผมก็ดีใจมากแล้วครับ  แต่พอทำๆไป มันกลับไม่ใช่แล้วครับ  มันกลายเป็นว่า ผมชอบทำ  ผมชอบเขียนโน่นเขียนนี่จริงๆแหละ ทำแล้วมีความสุข กลายเป็นผมไม่ได้ทำเพื่ออะไรเลย ผมทำเพื่อตัวผมเองมีความสุขเท่านั้นเองครับ สรุปผมก็ยังไม่เคยได้เงินจากการทำ blog สักบาทเดียว

ถึงวันนี้ blog มีผู้เข้ามาเยี่ยมวันละ สามพันกว่าครั้งทีเดียว ก็คงต้องขอบคุณ ห้างร้านต่างๆ ที่ผมไปรีวิวมา  ร้านเขาดัง คนก็เลยมาดู web ผมที่เขียนถึงร้านเขาครับ  ไม่ใช่ผมเขียนแล้วมีคนไปร้านเขาหรอกครับ  อันนั้นรู้ตัวดี

เขียน blog ไป เหมือนกับว่าผมก็ตั้งตัวเป็นคน "ตัดสินคนอื่น" ซะอย่างนั้นนะครับ จริงๆ ก็แค่อยากเขียนเล่าประสบการณ์นั่นแหละ ผมว่าผู้คน มักจะ "ตัดสินคนอื่น" อยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ ตัวเอง ก็ไม่ชอบให้คนอื่นมาตัดสิน  ผู้คน มีแนวโน้มที่จะเชื่อ จะทำตามๆ กัน เชื่อในสิ่งที่คนที่เขาเชื่อถือ บอกมา และด่วนตัดสินผู้อื่นไปก่อน ตามคำสาดใส่สีของสิ่งที่ได้ฟังๆกันมา โดยมิได้เคยใช้ชีวิตหรือสัมผัส กับสิ่งนั้นๆ อย่างแท้จริงครับ และที่สำคัญเหนืออื่นใด ผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าตัวเอง ดี ตัวเอง เด่น ตัวเอง เก่งกาจกว่าคนอื่น ผมว่าสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้ ผู้คน ไม่มีที่ว่างให้คนอื่น เพราะตัวตนของพวกเขานั้นใหญ่เกินไป ใหญ่กว่า สิ่งที่เขาเป็นจริงๆ  ใหญ่จนเบียดตัวตนและพื่้นที่ของผู้อยู่ร่วมกับเขาคนอื่นๆครับ

เขียนอะไรไม่รู้ไปเยอะเลย มาเริ่มดูรูปจาก ทริปละกันครับ  ผมอยากให้อ่านเนื้อหาของ web ที่ท่านนี้เขียนไว้ครับ ผมว่าเป็นการ รีวิวทริปที่ดีมาก http://sci.feu.ac.th/articles_detail.php?id=140

ทริปนี้ เราเริ่มจากนั่งเครื่องบินไปลงเชียงราย แล้วนั่งรถจากสนามบินเชียงรายอีกสองชั่วโมง ไปที่เชียงของครับ  ผมชักอยากมาอยู่เชียงรายเสียแล้วครับ

เชียงของ

ริมโขงที่เชียงของ

ริมโขงที่เชียงของ

เมืองเชียงของ
หลังจากนั้น ตื่นเช้ามา เราไปขึ้นเรือที่ราเรือบั๊ค ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ เพื่อข้ามโขงไปฝั่งลาว ข่าวดีคือ อีกไม่นาน เราจะมีสะพานข้ามโขงตรงแถวๆ ที่เชียงของนี่ด้วยครับ เราจะไม่ต้องข้ามเรือกันแล้ว  แต่ผมว่าข้ามเรือก็สนุกดีนะครับ

ท่าเรือบั๊คเมืองเชียงของ

ท่าเรือบั๊คเมืองเชียงของ

ท่าเรือบั๊คเมืองเชียงของ

ข้ามมาฝั่งลาว จะมาที่เมืองห้วยทราย ประเทศลาว ตรงนี้เราต้องใช้ passport แล้ว จากตรงลาวนี่เราใช้เส้นทาง R3A ที่เชื่อมไทย ลาว จีน  เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวโดย รถ และรถไฟที่สำคัญในภูมิภาค ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ  ถ้าการผ่านเข้าเมืองไม่ยุ่งยาก เราจะเดินทางเข้าออกประเทศเหล่านี้โดยรถ ได้อย่างสะดวก และสนุกสนานมาก   เส้นทาง R3A ในช่วงของลาวนี้ โค้งเยอะมากๆ ในขณะที่พอเข้าฝั่งมณฑลยูนานประเทศจีนไปแล้ว จะโค้งไม่เยอะ เพราะว่าจีนเขาเจาะอุโมงค์ผ่านภูเขาไปเลย  ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการทำอุโมงค์ครับ ถ้ามีเงินควรทำ

เดินทางจากเช้าที่ลาว จะไปถึง เชียงรุ้ง สิบสองปันนา ที่ตอนหัวค่ำเลยครับ เลยตื่นเช้าอีกวันมาเที่ยวเลย นับเป็นการนั่งรถที่ยาวนานมากๆครับ

รูปชุดแรกเป็นรูปที่วัดหลวงเมืองลื้อ ครับ แห่งเมืองเชียงรุ้ง (จิ่งหง) ยูนาน จีนนี่เขาใช้วิธีชี้เอาเลยว่าจะสร้างอะไรตรงไหนครับ  ประวัติศาสตร์บางอย่างทำผิดไปแล้ว ยากจะแก้ไข ไม่รู้จะทำยังไง ก็สร้างใหม่เอาแล้วกัน  วัดหลวงเมืองลื้อแห่งนี้ก็สร้างขึ้นมาใหม่เหมือนกัน

วัดหลวงเมืองลื้อ

วัดหลวงเมืองลื้อ
เบื้องหน้าขององค์พระพุทธรูปปางขอฝน  ที่สูง 49 เมตร นี้คือเมืองเชียงรุ้งครับ เรียกว่าเมืองใหม่ละกัน ที่เชียงรุ้งปกติฝนจะไม่ตก ชาวบ้านเขาชอบมากที่ให้ฝนตก เพราะว่าต้นยางที่ปลูกไว้มากมายจะได้กรีดยางได้  วันที่เราไปกัน ฝนก็ตกพอดี

พระพุทธรูป

วัดหลวงเมืองลื้อ
ศิลปะสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้เมืองนี้มีศิลปะหลายแบบผสมผสานกัน  และมันก็เป็นแบบสมัยใหม่ รวมถึงยักษ์เฝ้าประตู ที่หลับ ก็พบเห็นได้ที่นี่
วัดหลวงเมืองลื้อ
ที่หน้าวัด มีร้านขายของฝาก และร้านตีหัวนักท่องเที่ยวอยู่ด้านหน้าประตูวัดเลย แบบว่าทัวร์ต้องเกณฑ์ให้เข้าไปดู เป็นร้านขายพลอย ส่วนของฝากที่เห็นในรูปด้านล่าง ถ้าตาดีๆ จะเห็นว่า เสื้อพวกนั้น screen ว่า Thailand รวมทั้ง และมีเสื้อแบบนี้ ในหลายที่ท่องเที่ยวเลยครับ

ของฝาก
อย่า serious กับการที่ทัวร์ต้องพาเราไปซื้้อของตามร้านหลายร้านเหลือเกิน ทั้งร้านชา ร้านหยก ร้านยา และร้านของที่ระลึก  ยังดีที่ที่เชียงรุ้งเขามีโชว์ แห่งเมืองพาราณสี สิบสองปันนา

โชว์ เมืองพาราณสี
โชว์เป่าปี่ ต้องมีทุกที่
โชว์ เมืองพาราณสี
พอถึงสงกรานต์ น้องๆเขาก็มาเล่นน้ำ
โชว์ เมืองพาราณสี
ดูรูปน้องๆไปก่อน
โชว์ เมืองพาราณสี
โชว์ เมืองพาราณสี
เช้าอีกวันไปดู หมู่บ้านชาวไทลื้อ แวะไปดูตลาดเสียหน่อยครับ ชาวบ้านชินกับนักท่องเที่ยวมาก

ตลาดเช้า ไทลื้อ

ตลาดเช้า ไทลื้อ
ตลาดเช้า ไทลื้อ

ตลาดเช้า ไทลื้อ
 คุณยายคนนี้ มีเข็มขัดคาด แสดงว่า แต่งงานแล้ว แต่เอ๊ะ ดู คุณยายคนอื่นก็ไม่เห็นใส่เข็มขัดนะครับ ยาย
ตลาดเช้า ไทลื้อ

ตลาดเช้า ไทลื้อ
ต่อไปดูวัดต่อ  ถ้าย้อนนึกไปสมัยปฎิวัติวัฒนธรรม พวก red guard เขาทำลายวัฒนธรรมพวกนี้ไป ทำให้ส่วนใหญ่ สร้างมาใหม่ทั้งนั้น

วัด

วัด
 เจดีย์ขาว นี่สัญลักษณ์ของที่นี่เลย

เจดีย์ขาว
วิหารใหม่ของวัดป่าเชต์ ยิ่งใหญ่อลังการ คาดว่าปีนี้คงจะเสร็จ และคาดเหมือนกันว่า จะเป็น landmark ใหม่ที่ใครๆก็ต้องไปครับ  งานฝีมือเยี่ยม ด้านล่างเป็นปูน ด้านบนทำด้วยไม้ ไม้แต่ละต้นใหญ่ๆทั้งนั้น

วิหารใหม่วัดป่าเชต์ สิบสองปันนา

หอระฆังใหม่วัดป่าเชต์ สิบสองปันนา

วิหารใหม่วัดป่าเชต์ สิบสองปันนา

วิหารใหม่วัดป่าเชต์ สิบสองปันนา
ปฎิวัติวัฒนธรรมไปได้ เราก็ขุด อดีตขึ้นมาสร้างใหม่ขายได้เหมือนกัน 

วิหารใหม่วัดป่าเชต์ สิบสองปันนา
ดูน้องเขารำอีกรูป ผมว่าสาวๆที่นี่หน้าตาน่ารักดีนะครับ ไม่หมวยซะทีเดียว 

รำ
แล้วเราก็ใช้เวลานั่งรถกลับมาอีก วันเต็มๆครับ ออกมาจากสิบสองปันนา ตอนเช้า มาถึงเชียงรายเย็นพอดี กลับทางเดิมนั่นแหละ  ผมหวังว่าวันหลังมีรถไฟความเร็วสูง จากคุนหมิง ผ่านมาถึงกรุงเทพ พี่น้องไทยลื้อ ไทยใหญ่ ไทยน้อย เราจะใกล้ชิดกันมากกว่านี้

กลับเข้าไทยที่ท่าเรือบั๊คเหมือนเดิม คนรุ่นหลังจะไม่ได้ข้ามท่าเรือนี้แล้ว เพราะเราจะได้ใช้สะพานเร็วๆนี้ครับ

ท่าเรือบั๊ค
 รูปพวกนี้ ไม่ได้ edit โดยคอม ผมใช้ lens wide เล่นกับ circular polarizing filter  ครับ ฟ้าสวยดี

ท่าเรือบั๊ค

ท่าเรือบั๊ค
 ไปเมืองจีน ทีไรมีปัญหาหนักๆเรื่อง ห้องสุขา ทุกทีครับ ไม่ว่าเมืองจะพัฒนายังไง สุขาก็ยังสกปรกเหมือนเดิม และเมืองก็ยังสกปรกมากเลยครับ

หมายเหตุ:


หลายคนได้ยินคำว่า ไทยลื้อ ไทยจ้วง ก็เหมารวมว่าเป็นคนไทย  ตามความหมายของความคิดของคนไทยในปัจจุบัน ไปหมด  จริงๆ  ไทยลื้อ ไทยจ้วงก็ไม่ใช่คนไทย ครับ

ไต ไท เป็นคำเรียกกลุ่มชนเผ่า กระจัดกระจายไปในภูมิภาคอุษาคเนย์ โดยเฉพาะพวกท่านที่อยู่ตอนใต้ของจีน

ไทยไม่ใช่เชื้อชาติ และเชื้อชาติบริสุทธิ์ก็ไม่มีในโลก  "คนไทย" จำนวนไม่น้อยที่พูดไทยไม่ได้ แต่ถูกรับเป็น "คนไทย" ผ่านกระบวนการของ "สัญชาติ"

1 ความคิดเห็น: