วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

รีวิว The Speakeasy at Hotel Muse Bangkok Langsuan , สปีกอีซซี่ โฮเต็ลมิวส์บางคอคหลังสวน

Hotel Muse Langsuan
โรงแรม Hotel Muse Bangkok Langsuan หรือ โฮเต็ลมิวส์ บางคอคหลังสวนแห่งนี้ ทำให้ผมเกิดความลำบากใจมาก ว่าจะเขียนชื่อโรงแรมด้วยภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยดีนะครับ โรงแรมนี้อยู่ในซอยหลังสวน กลางๆซอยน่ะครับ โรงแรมนี้มี 25 ชั้นกับห้องพักจำนวน 174 ห้อง เป็นโรงแรมในเครือของ Accor group ภายใต้ Brand M-Gallery collection ซึ่งเป็น Brand โรงแรมแนวศิลปะ (มั้ง) ครับของเครือนี้ ในกรุงเทพนี่มีโรงแรมภายใต้ M-Gallery collection อยู่สองแห่ง คือ ที่ Hotel Muse แห่งนี้ และอีกที่่คือที่ Vie Hotel Bangkok ตรงแถวๆ ราชเทวีครับ

อันนี้ website ของโรงแรมแห่งนี้ http://www.hotelmusebangkok.com/
อันนี้ facebook ครับ http://www.facebook.com/hotelmusebkk

ผมไม่ได้มาพักที่โรงแรมนี้ แม้ว่าอยากจะพักก็ตามนะครับ น่าพักมากเลย ครั้งนี้เรามาทดลองร้านอาหารบนชั้นบนสุดของ Hotel Muse ที่ชื่อว่า The Speakeasy ครับ

 Hotel Muse Bangkok Langsuan
โรงแรมนี้ตกแต่งสวยงามจริงๆนะครับ ชอบมากมายครับ  เดินผ่านตรงนี้ชั้น 1 จะได้ยินเสียงผู้คนมากมายนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ ร้าน Medici  (Kitchen & Bar) ที่อยู่ชั้นใต้ดินครับ ร้าน Medici นี่ผมก็อยากไปเหมือนกันครับ

 Hotel Muse Bangkok Langsuan
 บรรยากาศใน Hotel Muse นี่เขาบอกว่าเป็นแบบสมัยรัชกาลที่ 5 ผสมกับแนว Modern นะครับ ก็คงเป็นอย่างในรูปนี่นะครับ

 Hotel Muse Bangkok Langsuan
กด Lift โลด ไปชั้น 24 ครับ ร้าน The Speakeasy มันครอบคลุมบริเวณทั้งชั้น 24 และชั้น 25  ซึ่งร้าน The Speakeasy ประกอบด้วยห้องที่เป็นส่วนตัว มากมายหลายห้องเลยครับ 

The Speakeasy
ด้วยความที่ไปตอนกลางคืนแล้วครับ รูปที่ได้ ก็แค่ประมาณนี้นะครับ ซึ่งผมว่าก็เป็นเอกลักษณ์ของ blog ผมเหมือนกัน คือรูปไม่ตรง และไม่ชัดนะครับ :D 

ชั้น 24 นี่ มีระเบียงอยู่หน่อยนึง เป็นเก้าอี้สูงๆ นั่งยากหน่อย ส่วนอีกด้านเข้าใจว่าเป็นห้องส่วนตัว

The Speakeasy
The Speakeasy

The Speakeasy
จะไปชั้น 25 นี่ต้องเดินขึ้นบันไดไปครับ  ชั้น 25 เป็นชั้นดาดฟ้า

The Speakeasy

The Speakeasy
The Speakeasy
ชั้นหลังคา นี่นั่งกินอยู่บนพื้นหญ้าเทียมครับ และก็ที่นี่ก็มีห้อง Private room ถึงสามห้องทีเดียวคือ ห้อง It's personal , ห้อง Private Affair และห้อง Never Tell

เมนูเป็นเหมือนหนังสือพิมพ์เล่มเล็กๆครับ อ่านยากอยู่  เมนูอาหารกับเมนูเครื่องดื่มอยู่เล่มเดียวกัน แต่กลับหน้ากลับหลังกัน

The Speakeasy
เนื่องจากแสงอันจำกัดครับ รูปอาหารและรูปเครื่องดื่มที่ถ่ายมา ก็ได้ไม่ดีนัก 


ที่ร้าน The Speakeasy นี่เขาคงไม่ค่อยมานั่งทานอะไรมากนักนะครับ น่าจะมานั่งดื่ม ชมวิวสวยๆ สวีทกันมากกว่า  เพราะก็ค่อนข้างมืดด้วยแหละ


ผมชอบโรงแรมนี้และร้านนี้ครับ อาจเป็นเพราะผมชอบอะไรแบบนี้ก็ได้นะครับ  ร้านนี้จะมาสวีทส่วนตัว หรือมา สนุกสนานเป็นหมู่คณะก็น่าจะได้นะครับ เท่าที่เห็นก็มีทั้งสองแบบครับ ส่วนด้านราคา ผมว่าเตรียมใจมาเจอราคาระดับ หรู ได้เหมือนกันครับที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

รีวิวร้าน ไวน์ผับ โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ , WP Wine Pub at Pullman Bangkok

Wine Pub
ช่วงนี้ขยัน เขียนบทความมากครับ ผมพยายามจะทำให้จำนวนบทความของผมนั้น มีไม่น้อยกว่า 4 บทความต่อเดือน ซึ่งช่วงที่ผ่านมานี้ บทความหายเกลี้ยง ต่างจากช่วงน้ำท่วมในปีที่แล้วที่ทำให้ผมมีเวลาเขียน โน่นนี่มากมายนะครับ

วันนี้เราจะไปทดลอง Wine Pub ที่โรงแรมพูลแมน คิงพาวเวอร์ กันครับ โรงแรมอยู่ในบริเวณเดียวกับที่ตั้งของร้าน King Power ในเมืองครับ คืออยู่ระหว่างซอยรางน้ำกับถนนราชเทวี จะเข้าทางด้านไหนก็ได้  โรงแรมนี้น่าจะตั้งมาได้ราว 5 ปี พอๆ กับการปฎิวัติ นั่นแหละครับ  ช่วงที่ปฎิวัติใหม่ๆ โรงแรมนี้ดังมาก เพราะมีทั้งข่าวท่านเน และข่าวระเบิด กันแถวๆนี้นะครับ

ให้นิยามกันอย่างเร็วสำหรับ ร้านนี้ผมอยากจะให้คำนิยามมันว่า มันเป็น "ความหรูที่สัมผัสได้"  ร้านนี้เป็นร้านในโรงแรม เป็นร้านไวน์ บรรยากาศดี และที่สำคัญเหนืออื่นใด คือมันไม่แพงเลยนะครับ ราคาเฉลี่ยต่อหัว รวมราคา ไวน์คนละขวดด้วยเนี่ยอยู่ราวๆ 1000 บาท ต่อคนท่านครับ และทุกๆสัปดาห์ ที่ Wine Pub ของ Pullman เขามีโปรโมชั่น อาหาร all you can eat ของแต่ละวันแตกต่างกันไป ราคาอยู่ที่ 990 Net นะครับ โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง   "990 Net ครับ"   ราคานี้ รวมอาหารและรวมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็คือ wine นั่นแหละครับ รวมไปแล้วนะ อย่างตอนนี้ วันพฤหัส มีชีส 5 อย่างกับ cold cut 5 อย่าง กับ ไวน์ขวดนึง 990 บาทครับ หรือวันเสาร์ก็เป็น Tapas กินไม่อั้น กับ ไวน์ขวดนึง ราคาเท่ากัน ส่วนวันอื่นไปดูใน web ของโรงแรมเอาแล้วกันนะครับ  http://www.pullmanbangkokkingpower.com/restaurants-bars/wp-wine-pub/

อันนี้รูปที่ด้านนอกโรงแรมครับ ด้านหนึ่งเป็น Kingpower ทำให้มีผู้คนขวักไขว่ มากๆครับ ส่วนการจอดรถก็ไปจอดใต้ดินนะครับ

Pullman Bangkok KingPower

KingPower
ก้าวสู่ปีที่ 5 แล้วครับ
5 th year celebration
ภายในร้าน Wine Pub ครับ ร้านหรู บรรยากาศเยี่ยม เพลงแบบแนวทันสมัย บริการดี พนักงานรู้เรื่อง พาสาวไปทานร้านนี้ ไม่อายครับ แต่พาเด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าไม่ได้ครับ เขาถือว่าเป็นสถานบันเทิง หรือร้านเหล้า อะไรอย่างนี้มั้งครับ ผมว่า

WP Wine Pub

WP Wine Pub 

WP Wine Pub 

WP Wine Pub 
และอีกครั้งที่ผมได้พิสูจน์ว่า wine ดี ฝาคอร์ก ราคาไม่ถึงพันนั้นสามารถหาทานได้ แม้ในกรณีในครั้งนี้จะใช้วิธีพิเศษ ก็คือสั่งอาหารชุด แล้วสั่ง wine เพิ่มก็ตามนะครับ  วันที่ไปชุดอาหารที่สั่งก็คือชุด โกต เดอ เบิฟ ซึ่งในชุดจะรวม house wine อยู่แล้ว ขวดนึง แต่หากใส่ตังค์เพิ่มอีก 890 net ก็จะได้ wine premium ครับ ซึ่งในกรณีนี้ คือ Les Boissieres ปี 2005 ของ ฝรั่งเศส wine Vintage ขวดหนึ่ง

wine

wine

wine
อาหารวันนี้เราได้สั่งอาหารพิเศษของช่วงนี้ที่ WP wine pub มาครับ นั่นคือ โกต เดอ เบิฟ ( Cote De Beouf) เนื้อส่วนติดซี่โครงครับ ซึ่งชาวฝรั่งเศสยกให้เนื้อส่วนนี้เป็นเนื้อที่ดีที่สุด อร่อยที่สุด เนื้อของร้านนี้ เป็นเนื้อ Wakyu  วากิว (เนื้อวัวพันธุ์ญี่ปุ่น) ที่ไปเลี้ยงที่ ออสเตรเลีย  บางครั้งผมก็สงสัยเหมือนกันว่าเรียก วากิว วากิว แต่ไปโตที่ประเทศอื่น เรายังจะเรียกวากิว อยู่หรือเปล่า  แต่นั่นก็แค่ความสงสัยของผมเฉยๆครับ

อาหารออกตามลำดับครับ ขนมบัง Baguette ออกมาก็รู้ได้แล้วว่า ร้านนี้เป็นร้านชั้นนำครับ
Baguette
 ชุด โกต เดอ เบิฟ นี่เป็นชุดใหญ่ครับ เหมาะกับมาทานกันสี่คน ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีชุดนี้ อยู่นานถึงแค่ไหนเหมือนกันครับ  อันนี้เป็นซุปเห็ด

ซุปเห็ด
เนื้อส่วนซี่โครงนี้ วัวตัวหนึ่งทำได้แค่ 12 ชิ้นเท่านั้นครับ ทำให้เป็นชิ้นส่วนที่มีราคาสูงทีเดียว เนื้อโกต เดอ เบิฟนั้น ราคาแพงทำให้ เมนูที่เหมาะที่สุดในการรับประทานจึงเป็น Steak 

โกต เดอ เบิฟ
ชุด โกต เดอ เบิฟ ใหญ่มากครับ น้ำหนักเนื้อวัว 1.5 กิโลกรัม กับอาหารใน set นี้ทั้ง set 4990 บาทครับ net ครับ รวม wine ขวดนึงเป็น house wine ครับ ไม่ใช่ขวดข้างบนในรูปนะครับ แต่ก็นับว่าไม่แพงเลย เพราะว่ามันทานได้ 4 คนสบายๆครับ 

Cote de Boeuf
 น้ำซอสมีสามแบบครับ เดมิกราซอส ไปจนถึง จิ้มแจ่ว
น้ำซอส
ตบท้ายด้วยแอปเปิล ทาร์ต ครับ จานยักษ์อีกเหมือนกัน

แอปเปิล ทาร์ต
ร้านนี้เป็นร้านที่คนเยอะครับ ผมว่าอะไรที่เป็นความ "หรู ที่สัมผัสได้" เนี่ยมันจะทำให้คนเยอะตลอดเลยครับ  ดูอย่าง Starbucks สิครับ ราคาสุดจะแพง แต่คนก็ไปทาน เพราะถึงแพง แต่ก็ยังเป็น "แพงระดับที่ คนสามัญเอื้อมถึง ความหรู " นี้ครับ

ผมชอบครับ ราคาไม่แพงเลย ผมเตรียมใจไปกระเป๋าฉีกมากกว่านี้ตั้งเยอะ ดีใจกินเสร็จมีของห่อกลับบ้านด้วยนะครับ เพราะกินไม่หมดครับ เยอะมาก :D 

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

รีวิวร้านอาหาร เลิศรสไก่ย่าง ซอยอารีย์สัมพันธ์ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง

เลิศรสไก่ย่าง
 วันนี้มาแนวแปลกว่าปกติบ้างครับ จะไปรีวิวร้านเลิศรสไก่ย่าง ในซอยอารีย์สัมพันธ์  ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกระทรวงการคลังครับ  ร้านไม่ใหม่เลย เปิดมาได้ 30 ปีแล้วมั้งครับ  ร้านของครอบครัวของเพื่อนรุ่นน้องสมัยเรียนครับ  กินร้านนี้ครั้งสุดท้ายน่าจะราว 20 ปีได้แล้ว ผมไปคุยงานด้วยแล้วก็ถือโอกาสถ่ายรูปร้านเอาร้านมาลงเสียเลยครับ มันคงไม่แปลกอะไรที่ผมจะเขียนรีวิวร้านของเพื่อนนะครับ :D

อันนี้ fanpage ของร้านนะครับ http://www.facebook.com/lertros

ผมว่าร้านนี้อยู่มานานมาก คนรู้จักเยอะครับ อาจารย์วิษณุเคยไปรีวิว ร้านนี้มาแล้วนะครับ ท่านบอกว่า คนทานร้านนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการแถวนั้น และพอถึงบ่ายๆ อาหารก็จะหมดแล้วละ เพราะขายดีมาก ซึ่งคงจะเป็นเช่นนั้นจริงครับ

รูปนี้เป็นวิธีการสั่งอาหาร กับรายการอาหารครับ อาหารที่นี่เป็นพวกส้มตำไก่ย่าง น้ำตก อ้อแล้วก็ขนมจีนก็ขึ้นชื่อเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้สั่ง

ส่วนไก่ที่ขายที่ร้านนี้ ถ้าเรียกให้เข้ายุคสมัย เขาคงเรียกว่าไก่ Organic มั้งครับ แต่สำหรับร้านนี้ใช้ไก่ Organic มาตั้งนานแล้วล่ะครับ  ไก่แบบนี้มันจะผอมๆ เนื้อไม่เยอะเหมือนไก่ขุน

ไก่ Organic
 การย่างไก่ ย่างกันหน้าร้านเลย แบบนี้เรียกครัวเปิดได้หรือเปล่าครับ ผมว่าหลายอย่างที่เรามาใช้ชื่อเรียกใหม่ในยุคสมัยนี้ ล้วนเป็นของที่มีอยู่แต่เดิมมานานแล้ว เพียงแค่เปลี่ยนชื่อให้มันเท่านั้นเอง
เลิศรสไก่ย่าง
ร้านไม่มีแอร์ และก็ไม่ค่อยมีที่จอดรถนะครับ เพราะต้องจอดริมถนนเอา
ภายในร้านเลิศรสไก่ย่าง

น้ำจิ้มหลายแบบ
อาหารอร่อยทุกอย่างนะครับที่นี่ อร่อยชัวร์
ยำผักบุ้งทอดกรอบ

ส้มตำไทย

คอหมูย่าง

ไก่ย่างเลิศรส
 ผมชอบจานนี้เป็นพิเศษอะครับ ชอบทานแหนม
แหนมสดข้าวทอด
 คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมากสำหรับร้านนี้ครับ จุดสำคัญของการที่ร้านอาหารจะอยู่ได้นานหรือไม่ หลักๆ คือ ความอร่อยของอาหารครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นในความคิดของผม และร้านนี้ก็อร่อยครับ อร่อยมานานแล้ว  วันนี้ขอเขียนแค่สั้นๆนะครับ

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555

รีวิวร้านอาหาร Sometime's เวลา + มนต์ตรา

Sometime's
คุณเคยมีความตั้งใจอะไรบางอย่าง แล้วมันล้มเลิกไปกลางคันไหมครับ  ผมมีนะ ผมเคย  บางครั้งเราก็สัญญาเอาไว้ เราฝันไว้ ว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างโน้น  เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เราก็พบว่ามันไม่มีทางที่จะเดินต่อ และทางที่ดีที่สุดคือเดินไปแค่นั้น บางทีมันก็ยังดีที่มีทางออก กรณีที่ร้ายๆ คือมันไม่มีทางออกนี่สิที่ร้ายกว่า

ร้าน Sometime's นี้ ผมเคยไปรีวิว มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อนานมาก น่าจะ สี่ปีก่อนครับ ที่สาขาเอกมัย  (ตอนนี้ web เก่าผมก็พังไปแล้ว และสาขาเอกมัยก็ รีโนเวตไปแล้วด้วย) ครั้งนี้ทีแรกผมก็คิดว่าจะรอไปถ่ายรูปที่สาขาเอกมัยเสียก่อน แล้วจึงจะมาเขียนรีวิวพร้อมกัน แต่ตอนนี้ผมล้มเลิกความคิดนั้นไปแล้ว ไม่ใช่เพราะร้านไม่ดีหรือมีปัญหาอะไรนะครับ เพียงแค่เดือนมีนาคมนี้ ผมยังไม่ได้มี รีวิวอะไรสักรีวิวเดียวเลยนะ เดือนนี้ ชีวิตค่อนข้างยุ่งนิดหน่อยครับ

อันนี้ website ของร้านครับ http://www.sometimecoffee.com/home.html

ร้านที่เราไปดูกันวันนี้คือร้าน Sometime's สาขา ABAC สอง บางนาครับ ร้านอยู่ตรงใกล้ๆ จะถึง ABAC เลยนะครับ คือเข้าซอยไปลึกพอควร  ผมว่าลูกค้าหลักของสาขานี้ คงจะเป็นชาว ABAC ที่อยู่ Campus นี้นี่แหละ เพราะกำลังซื้อของพวกเขาเยอะเหลือเกินครับ

Sometime's Snowowl
ร้าน Sometimes's สาขานี้ มาคู่กับร้าน ไอครีม Snow Owl เลยครับ ผมก็ไม่ทราบว่าร้านต้องใช้สัญลักษณ์เป็นรูปนกฮูกเพราะอะไร อาจเพราะว่า ดื่มกาแฟ เลยตาค้างเป็นนกฮูก กระมังครับ

ภายในร้าน Sometime's
ร้านนี้เป็นร้านที่มีขายกาแฟ ขายของหวาน ขายเค้ก ขายไอศครีม ขายอาหาร และขาย wine ไปด้วยพร้อมๆกัน  ที่สาขาเอกมัยก็คล้ายๆกันครับ wine ของที่นี่เขาคัดมาไม่กี่ชนิด เลือกเอาตามใจของท่านเจ้าของร้าน ผมชอบ wine ที่เลือกมาขายครับ ตั้งแต่ร้านก่อนแล้วละ  ถ้าไม่ชอบผมจะกลับมา รีวิว สาขานี้ ทำไมละครับ

ภายในร้าน Sometime's
อย่างที่เห็น ภายในร้านเต็มไปด้วยนกฮูก
ผลิตภัณฑ์นกฮูก
 Message in a bottle อันนี้เป็นขวดเปล่า กับกระดาษรูปนกฮูก ไว้เขียนข้อความใส่ขวด ไว้ลอยน้ำ :D
Message in a bottle
ด้านนี้เป็นบรรยากาศในร้าน Snow Owl
Snow Owl

Snow Owl
ผมว่าสิ่งที่ต่างไปจากร้านแรกที่เอกมัย คือร้านนี้ กว้างกว่าเดิม ร้านเก่าดูอบอุ่นสบาย และเป็นส่วนตัว เหมือนอยู่ใน "บ้าน"มากกว่าร้านสาขาบางนา ร้านนี้ดูเหมือนเป็น "ร้าน" ไม่รู้จะอธิบายยังไง  

ส่วนสิ่งที่ขาดหายไปเลยในร้านนี้คือพวกของเก่า ของรักของเจ้าของร้าน ดูเหมือนว่าจะอยู่ร้านที่เอกมัยเป็นส่วนใหญ่ ที่ผมคิดถึงมากๆ คือถังของ "ปลอกกระสุนปืน" ร้านนี้ไม่มีปลอกกระสุนปืนสักอันเดียว

Sometime's

Sometime's
ได้เวลาอาหารแล้วครับ  ผมว่าอาหารที่นี้อร่อยนะครับ แต่เสียดาย วันที่ไป แฮมซี่โครง อาหารเด็ดของที่นี่ หมดพอดี เลยอดทาน
เมนู



ลาบทอด


วันที่เราไปทานกัน เราได้พูดกันถึงเรื่อง การพยายามอยากจะช่วยคนอื่น ที่ว่า หากเราเห็นว่าเขามีความเห็นที่ "ต่างจาก" "ความเห็นส่วนใหญ่" เราก็ควรจะไปช่วยเหลือโดยการ แก้ไขเขา อธิบายให้เขา เข้าใจถูกหรือไม่   ผมตอบว่า ไม่มีความจำเป็นต้องไปแก้ไขเขา 

เพราะข้อแรก  ที่ว่า ความเห็นส่วนใหญ่ ผมอยากจะถามว่า รู้ได้อย่างไรว่า "ความเห็นของเรานั้น เป็นความเห็นส่วนใหญ่" และรู้ได้อย่างไรว่า "ความเห็นที่ว่าเป็นความเห็นส่วนใหญ่นั้น มันเป็น ความเห็นที่ถูก"

ส่วนข้อที่สอง การที่เราจะไปช่วยเหลือเขานั้น สมมติว่า เราเป็นความเห็นที่ถูกแล้ว และก็เป็นความเห็นส่วนใหญ่ ด้วยอีกนะครับ  ผมขอถามว่า "เขามาขอให้เราช่วยเหรอ?" ถึงได้ ไปพยายาม "ช่วย" เขา   เขาอาจไม่คิดว่าเราช่วยเขาอยู่ก็เป็นได้ และเขาก็ไม่ได้อยากให้ช่วย  เราไม่ได้พยายามจะ "ช่วย" เขาหรอก เราพยายามจะ "เอาชนะ"เขา หรือเปล่า นั่นเป็นสิ่งที่ตัวเราควรถามตัวเรามากกว่าครับ

นอกจากนั้น คนทุกคนล้วนมีความ "ภูมิใจ" ในตัวเอง ในความคิดของตัวเอง และในสิ่งที่ตัวเองเป็น ดังนั้น การที่เรายิ่งพยายามจะแก้ไขเขา พยายามจะชนะเขามากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งต่อต้านเรามากเท่านั้น และทะเลาะกันเปล่าๆ ครับ  ในเรื่องของความชอบ หรือความเห็น เราไม่จำเป็นต้องบังคับให้ทุกคน เห็นหรือชอบเหมือนๆกันนะครับ  เหมือนคนชอบกินอาหารไทย กับคนชอบกินอาหารฝรั่ง ก็ต่างคนต่างชอบครับ จะมาทะเลาะกันเรื่องความชอบทำไม

Macaron
และแล้ว ผมก็หาเรื่อง เอาเรื่องที่อยากจะเขียน มายัดลงไปใน บทความรีวิวจนได้ แบบ ไม่ค่อยเข้ากัน ไม่ถูกที่ถูกทางนักครับ เพราะยังไงเรื่องนี้ก็คงยัดไปที่อื่นไม่เข้าอยู่ดีแหละครับ

Sometime's เวลา มนตรา
อย่าลืมหาเวลาไป ทดลองดูนะครับ ผมแนะนำสาขาเอกมัย มากกว่า เพราะว่าใกล้ กว่า และสวยกว่า จะไปตอนเย็นหรือตอนบ่ายก็ได้ ไปได้ทั้งวัน  เสียดายอย่างเดียวคือตอนเย็นไม่มีดนตรี เล่นให้ฟังนะครับ ผมว่า จะดีมาก