วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รีวิวโรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ , dusitD2 Chiang Mai

dusitD2
มาเชียงใหม่อีกแล้วครับ ผมชอบมาเชียงใหม่มากเลยครับ เพียงแต่ว่ามันไกลไปนิด ทำให้ไม่ได้มาได้บ่อยๆเหมือนไปหัวหิน มาครั้งนี้มาแค่วันเดียว เพราะมาในกิจการงานค้า ทำให้มาด้วยงบประมาณและเวลาอันจำกัด

ด้วยวงเงินถูกจำกัดทำให้ไม่มีตัวเลือกอะไรได้มากนัก (มั้ง) ผมก็เลยเลือกมาที่ dusitD2 แห่งนี้ครับ ด้วยเหตุผลว่ามันอยู่ในเมืองดี และราคาก็อยู่ในงบ ผมพยายามเปิดดูรีวิวของโรงแรมแห่งนี้จากใน web แล้วละ ได้รับการให้คะแนนที่สูงเหมือนกัน แต่ดูจากรูปแล้ว ดูเหมือนถ้ามองจากภายนอกโรงแรมจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะครับ  เพราะที่นี่ถูกรีโนเวตมาจาก โรงแรมเก่าครับและภายนอกก็ไม่ได้ถูกปรับปรุงอะไรใหม่มากนัก ทั้งๆที่น่าจะทำได้  ทีแรกผมก็มีความคิดเช่นนั้น ว่าทำไมไม่ทำให้ข้างนอกสวยๆหน่อยนะ แต่ความคิดของผมนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากได้มานอนอยู่ที่แค่คืนเดียวเท่านั้นเองครับ

Brand ดุสิต ดีทู นี่จัดว่าเป็น brand ที่ค่อนข้างใหม่สำหรับเครือดุสิต ครับคือเริ่มมีเมื่อปลายปี 2549 นี่เอง และโรงแรมภายใต้ brand D2 แห่งแรก ก็คือโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่นี่เอง ก่อนจะเปิดโรงแรม ดุสิต ดีทูที่พัทยา ในอีกสองปีต่อมาครับ

ดุสิต ดีทู เชียงใหม่

เมื่อพลิกประวัติดูจะพบว่า โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่แห่งนี้ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ เช่น รางวัลโรงแรมฮอตฮิต จาก นิตยสาร Conde Nast Traveler จากการจัดอันดับโรงแรมสุดยอดประจำปีครั้งที่ 10  , รางวัล 40 สุดยอดโรงแรมในเอเชีย ประจำปี 2552 จากนิตยสาร Travel and Leisure  และเร็วๆนี้ ได้รับรางวัล Silver benchmark status จาก EarthCheck ในฐานะโรงแรมรักษ์โลก (ชื่อนี้ผมเรียกมั่วเองนะครับ)

รูปภายนอกของโรงแรม ตอนกลางวันและตอนกลางคืนครับ โรงแรมนี้เน้นโทนสีเป็นสีส้ม  ถ้าดูรูปภายนอกจะเห็นว่า มันดูโบราณทีเดียวครับ ดูแตกต่างจากภายในราวกับเป็นคนละโรงแรมกันทีเดียว  เราอย่าด่วนตัดสินอะไรจากรูปลักษณ์ภายนอกครับ :D

dusitD2 Chiang Mai
ด้านทางเข้า

เมื่อเข้ามารอบแรกจะได้พบกับ welcome drink มาในแก้วทรงเอียงๆ เหมือนจะล้มครับ แต่มันไม่ล้มหรอก ทรงตัวดีกว่าแก้วที่ดูตรงๆ เสียด้วยซ้ำไป เหมือนจะเป็นการตอกย้ำว่า อย่าตัดสินอะไรจากเพียงรูปลักษณ์ภายนอก เครื่องดื่มนี้รสชาติดีทีเดียว

welcome drink

 ส่วนของ lobby ที่ถือว่าโอ่โถง สวยงาม แต่ติดตรงมีเสาต้นที่เห็นในรูป นะครับ ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่แห่งนี้ถูกดัดแปลงมาจากของเดิม มันจึงมีข้อจำกัดทางเทคนิค

Lobby
เมื่อเข้ามาที่นี่จะพบกับบรรยากาศที่ค่อนข้างทันสมัยมากครับ เพลงที่เปิดที่ lobby โรงแรมนี่จังหวะ ทันสมัย พบนึกไม่ออกว่ามันคล้ายอะไร เหมือนเพลงเปิดในร้านพวก club 21 อะไรงี้มั้งครับ ผมไม่มีความรู้เหมือนกัน
Lobby
 มองไปทางขวาของ lobby ที่ check-in จะพบกับ Mixba กับที่นั่งสวยๆ ซึ่งตอนกลางคืนก็มีคนมานั่งพอสมควรครับ
Mixba
 อันนี้มุมกว้างของ ส่วนหน้าของโรงแรม

มุมกว้างของ lobby
ห้องอยู่ชั้น 3 ครับ เป็นชั้นที่มีสปา ทำให้ชั้นนี้หอมมากๆเลยนะครับ ผมว่าชั้น 3 นี่อาจเป็นห้องราคาไม่แพง ก็เป็นได้ (ผมเดาเอา เพราะผมจำกัดงบไง) แต่ผมว่าถึงอยู่ชั้นสูงก็ไม่มีประโยชน์มองออกนอกหน้าต่าง ก็ไม่มีอะไรให้ดูมากนักครับ

เทวารัณย์ สปา

ลิฟท์
ที่หน้าทางเข้าแต่ละชั้น ต้องเสียบคีย์การ์ด ถึงจะเปิดประตูได้ครับ พนักงานที่ front ต้อนรับดีมาก คือเดินมาส่งผมถึงห้องเลย แล้วก็มาอธิบายเครื่องใช้ภายในห้อง ส่วนที่อยู่ในกล่องนั้นคือ welcome gift เป็นของขวัญต้อนรับเข้าห้อง

welcome gift
ภายในห้องครับ ห้องเล็กๆ ผมว่าเหมาะกับคนมาไม่เกิน 2 คนครับ กำลังดี ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 131 ห้อง ผมเดาว่า ห้องที่ผมพักนี่คงเป็นห้อง deluxe ครับ แต่ deluxe อะไรไม่รู้ เพราะมี deluxe หลายแบบเหลือเกินนะครับ แต่ขนาดเท่ากันหมดคือ 32 ตารางเมตร

ห้อง Deluxe

ห้อง Deluxe

ห้อง Deluxe
 เตียงนอนมีไฟอ่านหนังสือด้วยครับ ชอบมาก ผมว่าต้องมีเลยนะ

ห้อง Deluxe
ต่อไปเป็นในห้องน้ำครับ  ดูข้าวของเครื่องใช้ของที่นี่ ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ  เพราะรายละเอียดนั้นทำให้ ของธรรมดากลายเป็นของพิเศษ :)

dusitD2

dusitD2

dusitD2

dusitD2
วางลูกปัด ไว้บนเตียงหากท่านต้องการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่

 การ turn bed บ่งบอกว่านี่คือโรงแรม 5 ดาว การ turn bed มาพร้อมกับขนม fortune cookie

การ turn bed
แม้โรงแรมดุสิต ดีทู จะตั้งอยู่ที่ถนนช้างคลาน บริเวณที่เป็นไนท์ บาร์ซ่า ของเชียงใหม่ ผมก็ตัดสินใจว่าจะทานอาหารในโรงแรมครับ ครั้งนี้ไม่อยากไปไหนเลย ขึ้เกียจไป และผมคิดว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ทดลองไปให้ครบทุกอย่างไปเลย

ร้านอาหาร Moxie ครับ ที่นี่ใช้เป็นที่ Dinner และที่ทาน breakfast ด้วย

Moxie @ dusitD2
2011 Thailand Best restaurants จาก Thailand Tatler Magazine ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ลอง
Thailand Tatler award
การจัดแสงของที่นี่ ทำให้รูปของผม สวยงาม
Moxie
 เริ่มด้วย wine กันก่อน มาดุสิต ต้อง dusit reserve Cabernet sauvignon , domain St. Gorge ,2008 ครับ (อันนี้ผมก็มั่วอีกครับ จริงๆ ไม่เกี่ยวครับ อยากสั่งขวดนี้) ใครบอกว่า wine ฝาเกลียวกับ wine จุกคอร์ก มันเหมือนกัน หรือมันไม่สำคัญ สำคัญที่รสชาติ จะบอกว่า ดื่มเก่งดื่มเทพ ว่างั้น ผมว่าไม่จริง

ถ้าผมสั่ง wine เป็นแก้ว โดยไม่ต้องมาดูกระบวนการเปิด แบบนี้ ผมก็ wine ฝาเกลียวหรือฝา จุกคอร์กก็ได้ครับ  แต่ถ้าสั่ง wine จุกคอร์กละก็ ผมจะได้ชมกระบวนการเปิด ได้ดมฝาคอร์ก ซึ่งแน่นอน ว่าต้องไม่ใช่คอร์กพาสติก หรือ คอร์กรีไซเคิล จะบอกว่าผมไร้สาระก็ได้ครับ แต่ผมว่า หลักการ Gokan ของญี่ปุ่น การรับประทานอาหาร ด้วยสัมผัสทั้งห้า ตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส และถ้าจะมี สัมผัสที่ 6 คือ รับประทานด้วยใจ  ก็ด้วยการรับรู้ story ของมัน  ถ้าเรายึดหลักนี้ละก็ wine ฝาคอร์ก กะฝาเกลียว ต่างกันลิบลับครับ แม้ว่ารสชาติ จะเหมือนๆกันก็ตาม
Cabernet sauvignon , domain St. Gorge ,2008  

Cabernet sauvignon , domain St. Gorge ,2008 
ขนมปัง กับที่จิ้มแบบอิตาเลียน อันสีเขียวทำจากมะเขือยาว สูตรเฉพาะของดุสิต
ขนมปัง อิตาเลียน

 Steak เนื้อ ทาจิมา วากิว 940 บาท อร่อยมาก
Wagyu Beef

Rocket salad 320 บาท
Rocket salad

อันนี้เป็น cheese plater 350 บาท เอามาทานกะ wine
cheese plater

 D2 Appetizer 350 บาท มีส้มตำ มีซูชิ มีเนื้ัอแดดเดียว เสริพพร้อมเครื่องเคียง น้ำจิ้ม 4 แบบ
D2 Appetizer
อาหารอร่อยทุกอย่างครับ ไม่เสียใจเลยที่มาทานที่ Moxie พนักงานที่ เสริ์ฟและพนักงานที่ดูแลตรงนี้ ตั้งใจทำงานมากๆครับ ให้คะแนนเต็มเรื่องบริการไปเลยก็ว่าได้

รูปนี้เป็นสระว่ายน้ำครับ เล็กๆ อยู่ชั้น M  เมื่อผมเดินเข้าไปปุ๊ป ปฎิกิริยาแรกจากพนักงานที่สระคือ เด้งขึ้นมา รับแขกทันทีครับ น้อยนะครับที่จะเจอแบบนี้  ผมว่าพนักงานที่นี่ ในทุกแผนก ได้รับการอบรมให้มีจิตรักการบริการมากๆครับ ดีมากเลยนะครับ ด้านบริการ

สระว่ายน้ำ
พาไปชม line อาหารเช้าบ้างครับ ทานที่ Moxie เหมือนเดิม อาหารเช้า มาตรฐานโรงแรมชั้น 1
อาหารเช้า dusitD2 Chiang Mai

อาหารเช้า dusitD2 Chiang Mai

อาหารเช้า dusitD2 Chiang Mai
 โจ๊ก
อาหารเช้า dusitD2 Chiang Mai
 D2 dressing กับแก้วสีส้ม  เพราะรายละเอียดนั้น ทำให้มันพิเศษ
อาหารเช้า dusitD2 Chiang Mai
แก้ว
ครับ คงจะจบที่ตรงนี้ครับ ผมชอบที่นี่มากเลย พนักงานบริการดีมากๆ ตั้งแต่ check in ยัน check out ตั้งแต่ ยามหน้าโรงแรม ยัน manager ครับ บริการดี สุดๆ ไปเลย เผลอๆ ดีกว่า โรงแรมที่เรียกให้ผมไปเขียนรีวิวเสียอีก  มันทำให้ผมอยากไปลอง D2 ที่พัทยาด้วยครับ หากมีโอกาส

dusitD2
web site Dusit D2

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รีวิวร้านอาหาร ชุน โนะ ไม ทองหล่อ, Shun no mai , Japanese food theme park

Shun no mai
ร้านนี้ผมไปมาสองครั้งแล้วครับ ครั้งแรกไม่ได้ทาน ครั้งนี้ได้ทานเพราะจองไปก่อน ครั้งแรกไม่ได้จอง  คือครั้งนี้พอเดินออกมานอกร้านก็เห็นคนรออยู่เหมือนกัน คนส่วนใหญ่ที่มาคงนั่งทานจนหมดเวลาไปเลยมั้งครับ ถึงจะลุกออก ดังนั้นถ้ามาตอนที่ร้านเต็มอยู่ กว่าจะได้ที่นั่งคงต้องรอรอบใหญ่เหมือนกัน

ผมไปรอสองครั้งไม่ได้หมายความว่าร้านอร่อยมากหรืออยากกินมากๆ นะครับ เพียงแต่ว่าตั้งใจไว้แล้ว ก็อยากทำให้สำเร็จ

ร้าน Shun no mai นี่ ถ้าให้เดา คนตั้งชื่อคงต้องการให้เป็นเวทีเฉลิมฉลองอาหารญี่ปุ่นในแต่ละฤดูกาลครับ แต่จะเป็นได้จริงดังหวังหรือเปล่า นี่คงต้องดูกันยาวๆกว่านี้  ผมว่า concept ของการ กินอาหารญี่ปุ่นบุฟเฟ่ต์ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ผมนึกถึงร้าน Oishi buffet ที่เคยอยู่ซอยทองหล่อสิบตรงข้ามกันกับ The Opus ทองหล่อ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Shun no mai ตอนนี้เหมือนกัน ร้าน Oishi buffet ไม่ใช่ร้านแรกที่ทำบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น แต่น่าจะเป็นร้านแรกๆ ที่ทำให้อาหารญี่ปุ่นบุฟเฟ่ต์แบบนี้ฮิต ฮิตจนเรียกว่าคนต่อคิวยาวตลอดเลยสำหรับร้านที่ว่า และผมก็ไปมานานมาก ไปหลายครั้งครับเพราะมันก็ใช้ได้เหมือนกัน จนกระทั่งเลิกฮิตหรืออย่างไรไม่ทราบ ร้าน Oishi buffet ค่อยๆ ทยอยปิดสาขาไปหมด จนเหลือไม่กี่สาขาดังในปัจจุบัน

The Opus ทองหล่อ
ร้าน Shun no mai นี่ตั้งอยู่อาคาร The Opus ทองหล่อครับ มันไม่ค่อยมีที่จอดรถนะครับ ส่วนใหญ่เห็นเขา ก็ Valley รถกันครับ ผมก็ด้วย

Menu Buffet
 Promotion เดือนนี้คือจองระหว่างวันจันทร์ถึงพุธ ได้ welcome drink ส่วนจองหลังสองทุ่มของทุกวันก็ไม่มีกำหนดเวลาจำกัดในการกินเลยครับ
Promotion เดิอนนี้
ตอนนี้มี โปรโมชั่นของ citibank ด้วยคือมาสามจ่ายสอง ราคาตอนนี้อยู่ที่ 680 บาท ++ ต่อหัวครับ  ส่วนเมนู Nomihodai ( All you can drink) อยุ่ที่ 450 บาท ++ สำหรับสองชั่วโมงครับ ก็ถือว่าไม่เลวนัก

Shun no mai Nomihodai
รูปนี้ผมสั่งเบียร์กับ Sho-chu มาถ่ายรูปคู่กัน  ผมว่าภาชนะบรรจุของ Sho-Chu นี่ไม่ผ่านเลยนะครับ

Nomihodai
 จุดเด่นที่ร้านพยายามจะชูมาเป็นจุดขายคือ "Show Kitchen" คือร้านนี้มีครัวอยู่กลางร้าน โดยบอกว่าการทานอาหารญี่ปุ่นให้รับความอร่อยครบด้านนั้น ต้องรวมถึงการเห็นขั้นตอนในการทำอาหารด้วย ซึ่งผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกละ ปกติไปนั่ง counter ร้านซูชิญี่ปุ่น หรือ เทปันยากิ ก็เห็นกระบวนการทำอยู่แล้ว  อีกทั้งได้พูดคุยกับพ่อครัวผู้ปรุง ผู้ทำอาหารให้เราได้ทานด้วยครับ  แต่แบบให้เห็นการทำอยู่ในตู้กระจก และถ่ายทอดสดมาให้ดูอีกทีนั้น ผมก็เพิ่งเคยเห็นที่นี่แหละที่ทำ  และก็ไม่รู้ว่าแบบนี้เรียกว่าเข้า concept Gokan (สัมผัสทั้ง 5) หรือไม่ครับ

Show Kitchen at Shun no mai
 อาหารบุฟเฟ่ต์ มีในไลน์ และมีตามที่สั่งครับ น่าเสียดายว่า อาหารไม่มีจานอะไรที่โดดเด่นเลยสักจานเดียว
ไลน์ บุฟเฟ่ต์
ต่อไปเป็น series ของรูปอาหารที่โต๊ะผมสั่งนะครับ
อาหารหลุม

Sashimi

Tori sumibiyaki

Kushi Katsu Nana shu mori

Buta Shoga Yaki

Teppan Saikoro steak

Tufu steak
ผมว่าอาหารจัดอยู่ระดับ OK จะว่ายังไงดีละ ไม่กล้าบอกว่ามันอร่อย เหมือนกันนะครับ แล้วแต่ละจานก็มี portion ที่ใหญ่เกินไปในความเห็นของผม ถ้าทำ portion เล็กๆ จะได้ลองทานได้หลายๆอย่างครับ อย่างผมสั่งนี่ เล่นเอาเต็มโต๊ะไม่มีที่วางเลย  (จริงๆ ร้านเขาแนะนำให้สั่งทีละไม่เกิน 3 อย่างแหละครับ แต่ผมไม่รู้เรื่องเอง)

เรื่องของหวานผมว่าต้องปรับปรุงเลยทีเดียวละ ส่วนเรื่องราคา  ราคาขนาดนี้เราก็พอจะไปทานบุฟเฟ่ต์โรงแรมได้เหมือนกันครับ

foursquare check-in special
ร้านนี้มี foursquare check-in special คือได้ welcome drink ครับ

โดยสรุปแล้วผมว่า น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะครับ ถ้าจุดเด่นของร้านมีเท่านี้เองครับ ผมว่าจานเด่นในรอบเดือนก็เคยเป็นกลยุทธที่ร้านอื่นใช้ได้ดี ที่ร้านนี้ยังไม่เอามาใช้  ส่วนเรื่องความ "รู้สึกว่าคุ้ม" นั้น ผมว่ายังไม่รู้สึกเท่าไหร่ครับ  
ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม

http://www.facebook.com/SHUNNOMAI
Twitter @Shun_no_mai