วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

mini รีวิว After you , Dessert Cafe ที่ Lavilla Paholyothin ครั้งแรก กับร้านของหวาน

เมนู After you Dessert Cafe
อันนี้เป็นรีวิวร้านของหวานร้านแรก ของผมเลยครับ  ร้านนี้ไม่ใหม่เลยครับ แต่ผมก็ไม่เคยได้ไปลองสักที ไม่ว่าที่สาขาไหน เพราะว่า คนเยอะจริงๆ ไปบางวัน เห็นคนต่อคิวยาวมากสุดๆ แค่นั้น ก็ไม่มีกำลังใจจะกินแล้วครับ  ครั้งนี้โชคดีไปคนน้อย และมีโต๊ะ เหลืออยู่ด้านนอกพอดี เลยได้มีโอกาสลองกับเขาบ้าง อันนี้ web site ของร้านครับ http://www.afteryoudessertcafe.com

ร้านนี้มีสี่สาขา สาขาที่ไปทดลองทานมานี้คือ สาขา ลาวิลล่า (Lavilla) ลาวิลล่านี้อยู่ตรงซอยอารีย์ครับ สถานีรถไฟฟ้าซอยอารีย์ นั่นแหละ  ซึ่งที่ลาวิลล่านี้ ที่จอดรถก็หายากเหมือนกัน บางทีต้องต่อคิวเข้าลาวิลล่า กันทีละคันทีละคันทีเดียว  ถ้านั่งรถไฟฟ้ามาก็สบายไปนิดหน่อย  ผมเข้าใจว่า ในซอยอารีย์ กับซอยราชครู นี่มีคอนโด ใหม่ๆ เปิดหลายแห่ง และมีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นทีเดียวครับแถบนี้

ครั้งนี้ผมสั่งของหวานแค่สองอย่างครับ ทานไม่หมดด้วยนะ  เพราะสั่งมาถ่ายรูปจริงๆเลยสองอย่างนี้ ตามที่ร้านเขาแนะนำครับ คือ Shibuya Honey Toast กับ Queen B Fudge Cake ครับ

สาเหตุที่ร้านแน่น ก็คือ ร้านเล็กนิดเดียวครับ แต่คนก็มาอยากกินมาเยอะกว่าความสามารถในการนั่งได้ของร้านครับ ร้านก็ตกแต่งตามยุคสมัยนิยมครับ ผมว่าร้านที่ดูเข้าไปนั่งได้ไม่เครียดเนี่ย คนเดินเข้าไปทานได้ง่ายกว่า ราคาถูกแต่แต่งหรูเกิน คนก็ไม่เข้าครับ  ส่วนแพง แต่แต่งสบายๆ แบบร้านนี้ คนก็เข้า

After you Lavilla
สั่งมาสองอย่าง นี้ครับ

Queen B Fudge Cake 

Shibuya Honey Toast 

ผลการทดลองชิม คือ อร่อยสมที่คนต่อคิวเยอะแยะเลยนะครับ ถ้าไม่อร่อย คงไม่เป็นที่นิยมยาวนานต่อเนื่องมาเป็นปีครับ

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

อีกสักทีกับ Centara Grand at Central World

Centara Grand
มาที่นี่อีกแล้ว หลังจากที่ได้พักที่นี่ไปเมื่อปีที่แล้วครับ ซึ่งในวันนั้นต่างจากวันนี้มากมาย ในวันนั้นแทบไม่มีแขกเลย ส่วนรอบนี้ มีแขกพักเต็ม วันที่ไปพักตรงกับวันที่ศิลปิน 2pm เข้าพักด้วยครับ ได้ยินว่าแฟนคลับเข้ามาพักตามมากมายครับ โรงแรมแน่นทีเดียว อันนี้รีวิวเก่าของผมนะครับ ค่อนข้างครบถ้วนอยู่แล้ว  ( รีวิวคราวที่แล้ว )

ครั้งนี้มีประเด็นเพิ่มนิดหน่อย คือเรื่อง Buffet ที่ร้านอาหารที่ชั้น 24 ครับ ร้าน The World กับร้าน Ginger ครับ ที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ที่สามารถเดินไปตักอาหารได้จากทั้งสองร้าน อาจจะติดตรงว่า มันต้องเดินผ่านหน้าลิฟต์ครับ ทำให้ไม่สะดวกนิดหน่อย  รอบนี้ผมมี ความเห็นเพิ่มเติมหลักๆ ก็ในเรื่องอาหาร บุฟเฟต์ ที่ห้องอาหารของ Centara Grand ในชั้น 24 นี่เองครับ

ห้องอาหารในการรับประทาน Buffet ห้องแรกเป็นห้องอาหาร The world ครับ ห้องนี้เน้นอาหารฝรั่ง การตกแต่งภายในห้องค่อนข้างสว่าง


The world at Centara Grand
The world at Centara Grand
The world at Centara Grand
ส่วนอีกห้องในชั้นเดียวกัน ที่ว่าจ่ายค่า Buffet ครั้งเดียวแล้วทานได้ทั้งสองร้านก็คือร้าน Ginger ครับ รูปของทั้งสองร้านนี้ หาดูเพิ่มเติมได้ใน link เก่าของผมนะครับ

ผมว่าร้าน Ginger นี่อาหารถูกปากกว่า และภายในร้านก็แต่งสวยกว่าร้าน The World ด้วยครับ  ถ้าจะให้เลือก ผมจะเลือกนั่งร้าน Ginger มากกว่า เพราะยังไงก็สามารถตักอาหารจากทั้งสองร้านได้อยู่แล้วครับ

อาหารญี่ปุ่นที่ร้าน Ginger

Tepanyaki ที่ Ginger

Ginger at Centara Grand
ส่วนอีกเรื่องที่ชอบสำหรับ บุฟเฟ่ที่นี่คือ เขามีรายการพิเศษอยู่เรื่อยๆ อาหารดี และรายการพิเศษก็ทำให้ไม่จำเจ อันนี้เป็นรูป promotion ของช่วงเดือนกันยายน ตุลาคมนี้ครับ

Promotion ช่วงเดือน กันยายน ตุลาคมนี้ครับ
วันที่ไปทานคือวันเสาร์ครับ มี OKTOBERFEST ได้ดื่ม เบียร์ Paluaner ไม่อั้นครับ เมื่อปีที่แล้วที่มาทาน จำได้ว่าเป็น wine ไม่อั้นครับ คือ การทำ Buffet แบบ กินดื่ม ไม่จำกัดแบบนี้ ผมว่าเป็นสาเหตุนึงที่ คนเต็มร้านเลยครับ  คนที่มาดื่ม เขาก็มักจะไม่ค่อยกินเท่าไหร่ ปกติโดยส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยชอบทานบุฟเฟ่ต์เท่าไรนักครับ เพราะมันจะทำให้รับประทานมากเกินไป พอมีดื่มมาร่วมด้วยทำให้ผมรู้สึกประทับใจบุฟเฟ่ต์ที่นี่มากกว่าที่อื่นครับ (ภายใต้ขอบเขตความรู้อันจำกัดของผมนะครับ)

Paulaner ไม่อั้น

จริงๆก็หมดแล้วครับ มีเรื่องอยากเขียนเท่านี้เอง โรงแรม Centara ตอนนี้มี Brand ของตัวเอง ถึงกับไปบริหารโรงแรมให้คนอื่นแล้ว คงไม่ต้องพึง Sofitel อีกต่อไปแล้วมั้งครับ  และผมก็ว่า เขาทำได้ดีทีเดียวสำหรับ Brand ไทย Brand นี้ครับ

ระเบียงที่ Lobby Centara Grand

มุมมองตึกใบหยกจากห้องพัก


Chocolate สำหรับการ Turn bed

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

รีวิวร้านอาหาร Audrey Cafe & Bistro , ทองหล่อ 11

Audrey Cafe & Bistro
หลายๆครั้งที่ผมได้ยินคนพูดว่า ไปทานอาหารตามร้านที่ เวปนั้น เวปนี้แนะนำ แล้วมันไม่อร่อยเลย ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า คนที่ดู blog นี้แล้ว ไปทานตามแล้วจะพูดเหมือนกันบ้างไหมเนี่ย คือเรื่องที่ผมเขียนไว้นี่ จริงๆ แล้วก็แนะนำบ้างไม่แนะนำบ้างนะครับ ก็ถือว่าเป็นความเห็นของคนที่เคยไปร้านนั้นๆ มาก่อนแล้วกันครับ

ร้าน Audrey Cafe & Bistro นี่ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ 11 ครับ เป็นซอยที่อยู่ตรงข้ามกับซอยที่ทะลุมาเอกมัยได้อะครับ ร้านมีที่จอดอยู่หน้าร้านนิดหน่อย ดังนั้นต้องไปหาที่จอดที่ลานจอดรถที่ร้านแถวๆนั้นเช่าอยู่ห่างไปไม่ไกลครับ

ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อร้าน สิ่งที่ผมนึกถึงอย่างแรกคือ ชื่อของ ดารา Audrey Hepburn กับหนังที่ชื่อว่า Breakfast at Tiffany ครับ ซึ่งผมว่า ผมก็นึกถูกนะ ถ้าลอง search คำว่า Audrey ดูเฉยๆ  รูปภาพที่จะได้ออกมาคือ รูป ของ Audrey Hepburn ครับ

ว่ากันว่า รูปของ Audrey Hepburn จากหนังเรื่องนั้น เป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของความหรูหราฟู่ฟ่าแห่งวงการ Hollywood ทีเดียว

Audrey Hepburn
ในหนังเรื่องนี้นางเอกแต่งตัวสวยงาม มีภาพหน้าฉากให้ดูดี เพียงเพื่อมุ่งหวังจับผู้ชายรวยๆ เพื่อให้ตัวเองมีฐานะในสังคม ซึ่งผู้ชายเหล่านั้นหลังจากคบเธอได้สักระยะนึง ก็จะทิ้งเธอไป โดยมองเธอเป็นแค่ดอกไม้ริมทางเท่านั้นเอง

ผมว่าการที่เราอยู่ในทุนนิยม ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่ง อาจจะส่วนมากเสียด้วยที่อาศัยอยู่ในเมือง มุ่งหวังแต่ความรวย มองคนแค่ภายนอกอย่างฉาบฉวย อย่างนางเอก และพระเอกเรื่องนี้ ที่ทั้งคู่มีดีแค่ "ภาพ" เท่านั้นเอง ครับ

เพลงประกอบในหนังเรื่องนี้คือเพลง Moon River สื่อความหมายถึงเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ได้ดีทีเดียว เพลงนี้ ได้ Grammy award ในปี 1962 ด้วยครับ

"Moon River , wider than a mile, I am crossing you in style someday"

เวลาเราเห็นอะไรที่สวยๆ เรามักจะหลงไหลไปกับมันได้ง่ายครับ หลายครั้งที่เรามองอะไรกันแค่ผิวเผิน บางทีภาพที่ดูสวยงามนั้น วิธีการที่ทำให้ได้ภาพที่สวยงามมานั้น มันไม่สวยงามเสียเลย

ลำดับต่อไปผมดู web ไปมา ก็พบว่ามีร้านชื่อ Cafe Audrey อยู่ที่ Hollywood ด้วยนะครับ หน้าตาก็คล้ายๆร้านนี้มากอยู่
ผมว่าร้านที่ในเมืองไทยนี่ ก็ได้แรงบันดาลใจจากร้าน Cafeaudrey มาไม่น้อยทีเดียว

http://cafeaudrey.com/
สำหรับร้าน Audrey Cafe & Bistro แห่งนี้ เป็นร้านที่ตั้งโดย คุณ แบม และ โบว์ ลิ่วเฉลิมวงศ์ครับ วันที่ผมไปก็เจอคุณโบว์ มาดูแลร้านอยู่เหมือนกัน  ร้านนี้มีสองชั้น ชั้นสองมักมีคนมาเหมาจัดเลี้ยงอยู่บ่อยๆ  ผมว่าร้านนี้ สาวๆ คงชอบกันมาก เพราะไม่ค่อยมีหนุ่มๆเท่าไหร่ ก็มีแต่หนุ่มที่มากับแฟน หรือ สาวในร่างของหนุ่ม แบบนี้มากันมากกว่า  ส่วนรูปภายในร้านไม่ค่อยได้ถ่ายเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะคนที่มานั่งทานนี่แหละครับ  เหมือนผมมาผิดที่ผิดทางมากทีเดียว (สังเกตรูปข้างล่างกับรูปข้างบนนะครับ คล้ายกันไหม สองร้านนี้)

Audrey Cafe & Bistro ทองหล่อ
ร้านนี้เขาเปิดทั้งวัน ตอนกลางวันก็มานั่งทานเค้ก ตอนเย็นก็มานั่งทานอาหารได้ครับ บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างสว่างทีเดียว อ้อ ผมแนะนำว่าจองโต๊ะมาก่อนก็ดีนะครับ ฮิตนะครับ ร้านนี้

Audrey Cafe & Bistro ทองหล่อ
ร้านนี้มีทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติครับ รสชาติก็ได้มาตรฐาน ครับ
เมนู

แซลมอนจิ้มแซบ

ข้าวทอดน้ำพริกปลาทู

คาโบนาร่า

ข้าวผัดน้ำพริกมะขาม

ปลาหมึกชุบแป้งเกล็ดเห็ดทรัฟเฟิล
แกงเขียวหวานเนื้อโรตี

แก้มวัวอบซอส
อย่างที่เห็นในรูปครับ ผมถึงว่า อาหารร้านนี้ได้มาตรฐาน ก็คือมันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากนักครับ 
ข้างล่างนี่ เครื่องดืมครับ มีทั้งมีแอลกอฮอล์ และไม่มี ผมว่าร้านนี้ ผู้หญิง ผู้หญิง มากๆเลยครับในความเห็นผม

ไวน์
ต่อไปก็ของหวานครับ สั่งมาอย่างเดียว
Profiterole

โดยสรุปร้านนี้สวยครับ เพดานสูง ตกแต่งน่ารัก พนักงานแต่งตัวชุดเก๋ไก๋ style ฝรั่งเศส  ร้านนี้เปิดมาสามสี่เดือนได้แล้วมั้งครับ แต่เมนูยังเป็น soft-opening อยู่เลยในวันที่ผมไป  ราคาเฉลี่ยต่อหัวราว 400-500 บาทครับ ไม่รวมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์นะครับ

ช่วงนี้ถ้าไปถ้ามี citi จะได้ลด 12% ครับ อันนี้ facebook ของร้านครับ http://www.facebook.com/Audrey.Cafe.Bistro 

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

รีวิวโรงแรม หอมหมื่นลี้ ฮิลล์ รีสอร์ท อ.ปากช่อง , Hommuenlee , Retreat to relaxation

หอมหมื่นลี้ ฮิลล์ รีสอร์ท ครับ รีสอร์ท ที่ปากช่อง อยู่ใกล้ๆ กับไร่ทองสมบูรณ์ ครับ อยู่ถนนเดียวกันเลย ห่างกันนิดเดียว ที่สังเกตุคือถนนเส้นนี้มีร้านอาหารหลายร้านเลย และท่าทางจะอร่อยด้วยนะ เพราะคนก็มาเยอะทีเดียวครับ

ชื่อหอมหมื่นลี้ นี้เป็นชื่อจากต้นไม้คล้ายๆต้นมะลิ มั้งครับ ดอกมีกลิ่นหอม ต้นไม่ใหญ่มากครับ มาดูของจริงได้ที่รีสอร์ตแห่งนี้ เขามีชื่อติดไว้ที่ต้นไม้ชนิดนี้ด้วย

เมื่อเข้ามาที่นี่จะได้รับ welcome drink เป็น ชา จากดอกหอมหมื่นลี้นี่แหละครับ แปลกดี  ซื้อกลับบ้านก็ได้ครับ ขวดละ 35 บาท

ชาหอมหมื่นลี้
ผมเข้าใจว่า รีสอร์ตนี้บริหารกันเองโดยครอบครัวของท่านเจ้าของโดยไม่ได้มี chain อะไรมาบริหารครับ  ลักษณะเป็นรีสอร์ต ของกลุ่ม บ้าน ที่ตั้งแยกกันอยู่บนเนินเขาแห่งนี้ รีสอร์ตไม่มีสระว่ายน้ำ และก็มีจำนวนห้องพักไม่มากครับ เป็นบ้าน เป็นห้องๆ แยกกันอยู่

หอมหมื่นลี้ ฮิลล์
 ภายในห้อง ตกแต่งแบบง่ายๆครับ มีการยกระดับเตียงในห้อง ให้อยู่สูงกว่าส่วนนั่งเล่น ส่วนในห้องน้ำ ก็มีฝักบัว มีน้ำร้อน แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำนะครับ  ส่วนราคาอยู่ราวๆ 3-4 พัน ครับ ห้องนี้ (ราคาคงต่างกันไป ตามความสามารถในการซื้อด้วยครับ)

ภายในห้องพัก

ภายในห้องพัก

ห้องน้ำ
ที่นี่มี wifi ให้ใช้ทั้งรีสอร์ต โดยไม่ต้องขอ password ครับ
wifi ที่หอมหมื่นลี้
Lobby ก็ขนาดไม่ใหญ่เล็ก มีสองชั้น แต่วันที่ผมไปนี่ กลางคืน เงียบมากทีเดียวครับ  แต่ผมก็ชอบนะให้มันเงียบอย่างนี้ 

Lobby หอมหมื่นลี้

Lobby หอมหมื่นลี้

Lobby หอมหมื่นลี้
ส่วนอาหารเช้าที่นี่ก็ไม่มี บุฟเฟ่ต์ครับ แต่เป็นให้เลือกเอา ว่าจะทานไข่ทรงเครื่อง แซนด์วิช หรือข้าวต้ม

ข้าวต้ม

แซนด์วิช
ไข่ทรงเครื่อง
ครับ ก็มีประมาณนี้ครับ เนื่องจากผมมีประสบการณ์น้อย ในการไปพักที่รีสอร์ตในย่านนี้ ทำให้ไม่สามารถให้ความเห็นที่ชัดเจนได้ว่า มันโอเคหรือเปล่า แต่สำหรับผมแล้ว ที่นี่ก็ ใช้ได้นะครับ ให้กลับไปอีก ก็โอเค อากาศตอนที่ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็เย็นๆดีครับ