วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทริป มิลาน เอ็กซ์โป ตอนที่หนึ่ง ฟลอเรนซ์ , จุดกำเนิดแห่ง เรเนซองส์

Florence ,Italy
ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมาอีกปีหนึ่งแล้วครับ ผมยังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งไปออสเตรเลียไม่นานเท่าไหร่เลย  ผ่านไปเป็นปีแล้ว  ผมว่าการได้เขียนบล็อกเอาไว้ มันช่วยให้จำได้เยอะเลยว่าเคยไปไหนมาแล้วบ้างนะครับ เพราะบางทีก็ลืมเหมือนกัน

สำหรับการไปอิตาลีครั้งนี้ เป็นทริปที่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้ามาพอสมควร เพราะตั้งใจว่าจะไปดู Expo2015 ที่มิลานครับ http://www.expo2015.org/en

Expo นี้เป็น expo ที่สองที่ผมเคยไป หลังจาก Expo ที่ ชิบะประเทศญี่ปุ่นครับ Expo อื่นก็ไม่เคยไป

Expo นี่เป็นความคิดของประเทศอังกฤษ หรือจะเรียกว่าเป็นความคิดของประเทศทางยุโรปอยู่แล้ว และก็จัดกันมาเกินร้อยปีแล้ว โดยครั้งนี้ เป็นการจัด world expo ครั้งที่สองของ มิลาน โดยจัดห่างจากครั้งแรก เกือบหนึ่งร้อยปีพอดี

การไปครั้งนี้ไปโดยสารการบิน Qurtar ซึ่งต้องไปต่อเครื่องที่ Doha แล้วค่อยบินต่อไป โดยเข้าประเทศอิตาลี ที่มิลาน ครับ อ้อ ตอนที่ไปนี่ประเทศอิตาลี และ ​EU ไม่ได้ยกเว้นการทำวีซ่าให้กับชาวไทย ทำให้ ต้องไปขอวีซ่าก่อนไปครับ และขั้นตอนการไปทำวีซ่า เข้าอิตาลี นี่ยุ่งยาก และเสียเวลาสุดๆ ไปตอนเช้าก่อนร้านจะเปิด  กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยง  แต่พอไปถึงอิตาลีแล้ว การเข้าเมืองเข้าได้เร็วและไม่ยุ่งยากครับ  สำหรับการเดินทางนั้นใช้เวลาประมาณสิบสองชั่วโมง รวมเวลาทรานสิต แล้วนะครับ

พอเข้าเมืองมาได้ ก็ไปนั่งรถไฟเพื่อเข้ามาที่สถานีรถไฟมิลาน เพื่อมาต่อรถไฟไป ฟลอเรนซ์เลยครับ  เราจะไปเที่ยว ฟลอเรนซ์กันก่อน แล้วค่อยกลับมามิลานอีกที

(ทีแรก วางแผนจะเที่ยวอิตาลีไว้ใหญ่โต อลังการ อยากไปโน่นนี่  แต่พอดูเวลาแล้ว เอาเข้าจริงๆ ก็ไปได้ไม่กี่เมืองครับ  เพราะทั้งอิตาลี มีอะไรให้ดูอีกเยอะแยะ หลายเมือง จริงๆ จะเข้าทางโรม แล้วกลับทางมิลานก็ได้ ไม่เป็นไร เอาไว้ไปใหม่อีกที )

รถไฟจากสนามบินไปสถานีมิลาน

เราสามารถจองรถไฟไว้ก่อนทางอินเตอร์เนตได้ครับ และเราก็จองไว้เผื่อเวลามากเลย ก็เลยไปนั่งรอที่สถานีอยู่สักพักนึง  

Milano Centrale

Milano Centrale
ระหว่างรอก็ไปรอที่ร้านนี้ครับ Bistrot Milano Centrale ร้านหาไม่ยากเลย อยู่ออกมาจากที่เป็นชานชลา ก็จะเจอ  ร้านมีไวไฟ และห้องน้ำให้เข้า  ปกติอิตาลี นี่หาห้องน้ำฟรีไม่ค่อยเจอ มักจะเสียตังค์เข้าตลอด

ผมว่าร้านนี้ดูดีสุดแล้วในสถานีครับ http://www.milanocentrale.it/en/store/detail/bistrot-milano-centrale1
Bistrot Milano Centrale

Bistrot Milano Centrale

Bistrot Milano Centrale

Bistrot Milano Centrale

Bistrot Milano Centrale

Bistrot Milano Centrale

Bistrot Milano Centrale
รถไฟมาแล้ว นั่งไปสักชั่วโมงหนึ่ง ก็ถึงครับ  แต่บนรถไฟมีเหตุตื่นเต้นนิดหน่อย คือที่นั่งบนรถไฟของเราเป็นแบบ ระบุที่อยู่แล้ว และเราก็นั่งอยู่ถูกที่ด้วย แต่ปรากฎว่า พอนั่งแล้วก็มีเด็กผู้หญิงสองคน เดินมาแล้วมา บอกว่าเรานั่งผิดที่ ชวนเราคุยไปมาว่าเรานั่งผิดที่ สักพักครับ  ชายผิวสีที่เดินมาข้างหลังเด็กสองคน ก็บอกว่า "คุณระวังหน่อย เด็กสองคนนี่เขาขโมยกระเป๋าตังค์คุณแล้ว" แล้วชายผิวสี ก็เอากระเป๋าตังค์มาคืนให้  เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมาก และก็ถือว่าโชคดีทีเดียวที่ กระเป๋าตังค์ไม่โดนเอาไป

พอถึงสถานี Florence ก็นั่ง taxi ไปโรงแรมครับ จริงๆ แล้วโรงแรมไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินไปได้  เพราะ Florence เป็นเมืองไม่ใหญ่มากด้วย  แต่กระเป๋าเยอะก็เลยนั่งรถแท็กซี่ไป

โรงแรมที่เราพักที่ Florence นี่คือ Plazzo Alfieri ครับ http://www.palazzoalfieri.it/

โรงแรมอยู่ใกล้ๆ กับสะพาน Ponte Vecchiro สะพานที่เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุด ใน Florence   โรงแรมนี้ดีครับ ให้ไปอีกก็ได้ ราคาก็โอเค ห้องก็ดี ทำเลก็เที่ยวสะดวกด้วย

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence
วิวหน้าต่าง ในรูปนี้ ไม่ใช่สะพาน Ponte Vaccio นะครับ ถัดจากนี้ไปอีกสะพานเดียว จริงๆ ก็มองเห็นครับ
Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence
 สะพาน Ponte Vecchio ครับ สะพานที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นหนึ่งใน landmark ที่สำคัญของ Florence สะพานนี้ข้ามแม่น้ำ Arno  บนสะพานมีร้านขายของเต็มเลย มองไปมองมา ผมว่า ที่ดิสนีย์ซี ก็มีสะพานหน้าตาคล้ายๆ แบบสะพานนี้เลยครับ  แต่สะพานนีหลายร้อยปีแล้ว

Ponte Vecchio, Florence


Plazzo Alfieri, Florence
ตอนเช้า มีที่นั่งริมน้ำสำหรับรับประทานอาหารเช้าด้วยครับ

Plazzo Alfieri, Florence
 อาหารเช้า เป็นผลไม้เยอะเลย  และขนมปังที่นี่อร่อยมาก
Plazzo Alfieri, Florence
 ผมสามารถทนกับอาหาร ไส้กรอก ขนมปัง แฮม ชีส พวกนี้ได้นาน เป็นเดือนๆ

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence

Plazzo Alfieri, Florence
ให้ดูโรงแรมไปแล้ว วันแรกเราก็ไปเดิน Florence แล้วไป Palazzo Vecchio ครับ  ตรงนี้เป็นจตุรัส และก็เป็น Town hall เดิมของเมือง Florence ตรงหน้า Plazzo Vecchio มีรูปปั้นหลกหลาย  และมี รูป David จำลอง อยู่ด้วย ( David ผู้ฆ่า โกไลแอต David ผู้เป็นกษัตริย์องค์ที่สองของชาวอิสราแอล https://vimeo.com/58572500  )

Plazzo Vecchio
 รอบๆ จตุรัสนี้ มีร้านอาหารหลายร้านครับ
Plazzo Vecchio
 และเราก็เลือกที่จะนั่งทานตรงนี้แหละ เพราะว่าวันแรกขึ้เกียจจะเดินต่อด้วยครับ เหนื่อยแล้ว และร้านนี้ก็มี wifi ฟรี  แต่สุดท้าย กลายเป็นว่าร้านนี้เป็นร้านที่รสชาติไม่ได้เรื่อง ร้านหนึ่งใน ทริปนี้เลย  ใน guide book บอกว่า อย่าเลือกร้านอาหารที่มีรูปอาหารให้ดู ให้เลือกร้านที่ไม่มีรูปอาหารในเมนูให้ดูครับ

แต่เอาเถอะ อย่างไรก็ตามร้านนี้ก็มีวิว


ไวน์มีขวดเล็กขวดใหญ่นะครับ  สำหรับร้านแรกนี้ ไวน์ก็ไม่ถูก และรสชาติก็งั้นๆ อีก ที่ไม่อร่อยสุดๆ คือ pasta นี่แหละ ไม่ได้ให้ดูรูปนะครับ
Plazzo Vecchio
ร้านอาหารที่หน้า Plazzo Vecchio
 T-Bone steak นี่ อยู่ระดับ พอทานได้ ดังนั้นอย่ารู้เลยว่าร้านชื่อว่าอะไร ผ่านได้เลยครับ

ร้านอาหารที่หน้า Plazzo Vecchio
Ponte Vecchio, Florence

Florence, Italy

บนสะพาน Ponte Vecchio มีร้านอยู่สองข้าง และเต็มไปด้วย นักท่องเที่ยวครับ
Ponte Vecchio, Florence
ร้านอาหารจะอยู่แม่น้ำทั้งสองฝั่ง แต่ร้านที่อร่อยและถูกกว่า จะอยู่ฝั่งแม่น้ำ Arno ที่ตรงกันข้ามกับฝั่งสถานที่ท่องเที่ยวครับ

อีกวันหนึ่ง นอนที่ Florence เหมือนเดิม แต่นั่งรถไฟไป Pisa ตอนเช้าครับ มา Italy ต้องไป check in ที่ หอเอน Pisa สักหน่อย และไปจาก Florence ใกล้กว่าไปจากมิลาน

Florence station
 กดซื้อตั๋วจากตู้ อัตโนมัติ สะดวกกว่าครับ
Florence station
 Biglietteria คือ ที่ขายตั๋ว
Florence station
 รถไฟมันจะดู local กว่ารถที่วิ่งระหว่างเมืองใหญ่นะ
Florence station
มาถึงสถานี Pisa แล้ว เป็นสถานีที่เล็กที่สุด ในสามสถานี
Pisa Centraleeeee
 แล้วเราก็เดินไป ที่ หอเอนปิซ่าครับ  เดินไปได้
Pisa, Italy
 ระหว่างทาง ก็เจอตลาดนัด ส่วนใหญ่จะขายไวน์ กับชีส ที่ทำเอง คล้ายๆ โอทอป บ้านเรา
Pisa, Italy
 Pisa อยู่ในแคว้าน Tuscany เหมือนกัน กับ Florence และแม่น้ำนี้ก็คือแม่น้ำ Arno สายที่ผ่าน Florence นั่นเอง  แต่ Pisa นี่ติดทะเล
Pisa, Italy
หอเอน ปิซ่า ก็คือหอระฆังของ Pisa Duomo ที่อยู่ตรงบริเวณที่เรียกว่า Piazza dei Miracoli หรือ จตุรัสแห่ง อัศจรรย์
หอเอน Pisa
 บริเวณนี้ นักท่องเที่ยวมากมาย และตอนที่ผมไปนั้น หอเอนปิซ่า เขาให้ขึ้นได้ คาดว่าคงเสริมกำลังมาดีแล้ว  และตัวหอเอง ก็ขัดสะขาว เหมือนของใหม่
Pisa Duomo
พอเสร็จภาระกิจ check in ก็เดิน กลับไปสถานีรถไฟ และเลือกร้านอาหารที่ ไม่มีรูปครับ  พวกร้านมีรูป เป็นร้านนักท่องเที่ยวนะ

ร้านนี้ ชื่อว่า La Bottega Del Parco  ร้านนี้มีหลายสาขา ร้านที่ผมไปนั้น อยู่ตรงใกล้ๆ หอเอนปิซ่า ครับ

ดีงามมาก https://www.facebook.com/La-Bottega-del-Parco-485685748138245/

La Bottega Del Parco

La Bottega Del Parco
 ร้านนี้มีแฮม มีลาซานย่า  แต่ที่อร่อยเด็ดที่สุด ในวันนั้น กลับเป็น สลัด  เพราะว่าสลัดไม่มีในเมนู แต่เราไปขอให้เขาทำ เขาก็เอา ผักเขียว กับมะเขือเทศ ที่สดและหวานมาก มาทำสลัดให้ครับ

ร้านนี้อร่อย ไม่แพงด้วยครับ ไวนก็อร่อย

La Bottega Del Parco

La Bottega Del Parco
หลังจากนั้นก็กลับมา Florence และไปชมสวนสวย แห่ง Florence

สวนแรกคือ The Boboli Gardens ถ้าคนไม่ชอบเดิน ไม่ชอบวิว มุมสูงของ Florence ไม่ชอบสวน ให้ข้ามสวนนี้ไปได้เลยครับ  ผมชอบสวนนี้ วิวสวย ถ้าไปวันอากาศดีๆ จะโรแมนติกมากครับ  สวนนี้เป็นสวนของตระกูลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่แห่ง Florence นั่นคือตระกูล Medici   ตระกูลนี้สมัยก่อนคงจะดังมาก เป็นตระกูลที่ทำด้านการธนาคาร เป็นตระกูลที่พูดถึงในเรื่อง โรมีโอ จูเลียต ด้วยนะ

จ่ายเงินเข้าสวนนี้แล้ว ก็ไปเข้า สวน Giardino Bardini  ที่อยู่ติดๆกันได้ด้วย ไม่ต้องจ่ายเพิ่มครับ

Biboli Gardens, Florence

Biboli Gardens, Florence

Biboli Gardens, Florence

Biboli Gardens, Florence
ลงจากสวนมา ก็เดินหาร้านอาหารครับ  ร้านที่อยู่ฝั่งนี้ มีร้านอร่อยหลายร้านเลย ไม่ว่าจะเป็น Gusto Pizza https://www.facebook.com/pages/Gusta-Pizza/151318588242027 

และร้านที่เราไปกินมาคือ Gusta Panino ครับ  ร้านนี้ก็อร่อย https://www.facebook.com/pages/Gusta-Panino/186644008068254

Gusta Panino, Florence 

Gusta Panino, Florence

Gusta Panino, Florence
ตื่นเช้ามาได้เวลาไปที่Plazzo Vecchio อีกทีโดยผ่านพิพิธภัณฑ์ไป ที่เสียดายมากที่ไม่ได้เข้า  เมืองนี้เป็นเมืองแห่งนักคิด

แม่น้ำอาโน่ 
 รูปปั้น ที่พิพิธภัณฑ์ ล้วนเป็นนักปราชญ์ดังในด้านต่างๆ
อย่างท่านนี้ Niccolo Macchiavelli ผู้ประพันธ์หนังสือ ​The Prince
Niccilo Macchavelli


รูปคนแกะสลัก รูปเพอสิอุส
รูปเพอสิอุส นี้ มีความลับอยู่ก็คือ หน้าของคนทำอยู่ที่ด้านหลังศรีษะของเพอสิอุส  วิธีที่จะมองเห็นหน้าได้ชัอ คือมองลอดขาของรูปปั้นที่อยู่ด้านหลังรูปปั้นเพอสิอุสไป  จะมองเห็นด้านหนังศรีษะที่เป็นหน้าคนทำอยู่ได้ง่าย
เพอสิอุส
วิหาร Santa Maria Del fiore  คนมักเข้าใจว่า คำว่า Duomo กับคำว่า Cathedral นั้น มีความหมายเดียวกัน  แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองคำมีรากศัพท์ต่างกัน  Duomo นั้นมีความหมายถึง ที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า  ส่วน Cathedral นั้น มีความหมายไปทางเป็นที่พักของเหล่าพระสงฆ์  (รากศัพท์)

วิหารนี้ใช้เวลาสร้างเกิน หนึ่งร้อยปี โดยเฉพาะส่วนของโดม นั้นไม่สามารถปิดได้ในการสร้าง จนกระทั่งรออีกร้อยกว่าปีให้หลัง เพื่อให้วิศวกรยุคหลัง มาก่อสร้างจนสำเร็จ

Santa maria del fiore
 วิหารแห่งศีลล้างบาป
Porta del Paradiso

ที่เห็นอยู่ตรงข้ามวิหารซันตะมารีอา คือ วิหารล้างบาป แห่งนักบุญยอห์น ในสมัยก่อนเด็กทุกคนที่เกิดที่ Florence ล้วนมาเข้าพิธีรับศีลล้างบาปที่นี่   จุดสำคัญของวิหารนี้ คือประตูสวรรค์  Porta del Paradiso



Baptist of St. John

Santa maria del fiore
 ซื้อบัตรเข้าชม 10 ยูโร จะเข้าชมได้ทั้งสามสี่วิหารบริเวณนี้

บัตรเข้าชม
 ภายใน วิหารแห่งการล้างบาป งดงามยิ่งนัก
ภายใน Battistero di S.Giovanni

ภายใน Battistero di S.Giovanni

ภายใน Battistero di S.Giovanni

ภายใน Battistero di S.Giovanni
ที่ด้านหน้า Duomo จะมี คนเรียกให้เข้าไปร่วม guide tour ที่เขาจะ มี guide และจะได้เข้าเร็วกว่าถ้าคนเยอะ  แต่ค่า guide ก็แพงเหมือนกัน จริงอ่านหนังสือ เอา ก็น่าจะดีกว่า

ด้านในวิหาร Santa Maria del fiore เข้าไปไม่ได้รู้สึกอลังการมากเท่าใดนัก  ต้องคอยฟังประวัติไปเรื่อยๆ
ภายใน Santa maria del fiore
รูป ปั้นกษัตริย์เดวิท ผู้ฆ่ายักษ์ ภายหลังท่านได้เป็นกษัตริย์องค์ที่สองแห่งอิสราแอล  ใช่แล้ว เดวิทเดียวกับที่ อยู่ที่ลาน Plazza Vecchio นั่นเอง
ภายใน Santa maria del fiore

ภายใน Santa maria del fiore

ภายใน Santa maria del fiore
ราคาบัตรเข้า รวมค่าเข้าชมชั้นใต้ดินไว้ด้วยครับ

อ้อ แล้ว ก็ที่หอระฆัง ก็ขึ้นไปข้างบนได้ด้วย แต่ผมไม่ได้ขึ้นไป เห็นที่เขาไปมา ดูแล้ว คู่ควรต่อการขึ้นไปชมวิวของเมือง Florence ครับ ถ้ามีเวลานะ

ภายใน Santa maria del fiore
หลังจากเราดูเสร็จตรงนี้ ก็ขึ้นรถไฟกันไปเข้ามิลาน ต่อแล้วครับ  เพราะว่า จองตั๋วขึ้น Duomo ของ มิลาน เอาไว้ตอนเย็น

โปรดติดตาม การเดินทางในอิตาลี ครั้งนี้ต่อได้ ในตอนต่อไป

อ้างอิง เพิ่มเติม  http://helloneung.blogspot.com/2014/06/7-day-5-florence-tuscany.html