วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

รีวิวร้านอาหาร Susji Kappou Kitaoji ที่สุขุมวิท 39

Susji Kappou Kitaoji
อยู่ในวงการร้านอาหารมาหลายปี ผมว่าคุณภาพของร้านอาหารในไทย ดีขึ้นเรื่อยๆ และคุณภาพของลูกค้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเริ่มเรียนรู้ว่า แบบไหนคือดี แบบไหนคือไม่ดี แบบไหนคือญี่ปุ่นแท้ แบบไหน คือแบบไทย ร้านไหนแพงร้านไหนถูก ผมว่า การที่จะเข้าตลาดนี้และอยู่รอดได้ ต้องเจ๋งจริง ถึงจะเข้ามาใหม่ได้ครับ  เพราะผู้เล่นเก่าก็เยอะ และก็เก่งๆทั้งนั้น

วันนี้ผมได้มีโอกาสไปลองร้าน Sushi ที่เหมือนจะเป็น โอมากะเสะ ร้านใหม่ครับ ใครเครือของสิงห์ ร้านนี้เป็นญาติ กันกับร้าน Kitaoji ที่ซอยทองหล่อครับ  ซึ่งร้านนั้นก็นับว่าดีมากๆแล้ว  แต่ร้านนี้ เน้นซูชิ และเป็นแบบ Omakese อย่างเดียว  ร้านมีขนาดเล็กกว่ามาก ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 39 ข้างๆร้าน Cocotte และอยู่ใต้ร้าน Whale belly ครับ  น่าะจะหาไม่ยาก

วันที่ไป ร้านเปิดมาได้จะครบปีอยู่แล้วมั้งครับ เพิ่งจะได้ไป และอาหารที่ เสริฟ ก็จะเป็น Omekase ซึ่งผมอยากเรียกว่ามันเป็น แบบ Kaiseki มากกว่าที่จะเป็นซูชิ เพราะมันมีทั้งซุชิและก็อย่างอื่นด้วย  มีชุด แปดพันกับชุด สี่พันห้า

ชุดที่ผมถ่ายมานี้คือชุด แปดพัน โดยเชฟที่ดูแลชื่อว่า คุณชาติ ครับ  ซึ่งเขาดูท่าทางเหมือนคนญี่ปุ่นมาก แต่เขาเป็นคนไทย

อันนี้ fanpage ครับ https://www.facebook.com/sushikappou.kitaohji/

ร้านทีเบียร์จาก EST 33 ด้วยครับ
Susji Kappou Kitaoji
 เมนูสาเก จัดในระดับที่ ไม่แพงมากครับ และผมว่าโอเคอยู่
Susji Kappou Kitaoji
อันนี้เป็นลำดับ รายการอาหารชุด 8000 บาทที่ทานในวันนั้น  อาหารเขาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ซึ่งอาหารของญี่ปุ่น บอกฤดูกาลด้วยครับ ไม่เหมือนไทยที่ มีฤดูกาลค่อนข้างจะฤดูเดียว ยกเว้นฤดูผลไม้
ดังนั้น เมนูนี้ อยู่แค่ทีละ หนึ่งเดือนถึงเดือนครึ่ง

Susji Kappou Kitaoji
แรกเลย Chef จะแนะนำ วัตถุดิบ วันนี้ก่อนว่ามีอะไรบ้าง และดีงามยังไงครับ  Chef บอกว่า ปลามะกุโร ที่นำมาทานนี้ มาจากร้านที่ Exclusive มากที่ตลาปลาก Tsukiji ที่ปกติไม่ได้ขายให้กับร้านทั่วๆไป

และวันนี้ก็มี เนกิ จาก เกียวโต และก็ หอยเป๋าฮี้อ จาก เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้สิ ไม่ได้จด แล้วก็ บาฟุ หอยเม่น ครับ


Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji
หอยเม่น มีสองแบบครับ มุราซากิ กับ บาฟุ ได้ทานทั้งสองแบบ สำหรับชุดนี้

Susji Kappou Kitaoji
มาทำเป็นข้าวแบบนี้ครับ  ผมไม่เรียง ลำดับ อาหารนะครับ  ส่วนของหอยที่เป็นมุราซากิ จะมาพร้อมกับน้ำทะเล เลยจะเค็มๆนิดครับ

Susji Kappou Kitaoji
อันนี้เป็นออร์เดริฟ ครับ
Susji Kappou Kitaoji
 ผมชอบดูท่าทางที่ตั้งใจของ Chef ผมว่ามันเป็นส่วนสำคัญของการทานแบบนี้ครับ

Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji
 เอา อากามิ ไปแช่ใน ซอสครับ หลายเมนู ไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มแล้ว มันเสร็จมาแบบนั้น ซึ่งค่อนข้างผิดกับ วัฒนธรรมของไทย ที่ต้องการจะปรุง หรือจิ้ม ตลอดเลย  แต่วัฒนธรรมญี่ปุ่นคือเคารพ ในงานฝีมือ

รอบนี้ผมไม่ขอเน้นอาหารครับ ผมว่าทานมาเยอะแล้ว มันก็คล้ายๆกัน

Susji Kappou Kitaoji
Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji
ร้านนี้เป็น ไคเซกิ ครับ ทานๆ ไปจะมีนาเบะ มาให้ทานแทรก  แต่ทุกเมนูอร่อย และตั้งใจทำมากครับ อันนี้เป็น เนกิ จากเกียวโต

Susji Kappou Kitaoji

ซุปนี้มาคั่น
Susji Kappou Kitaoji

ทานๆไป มีก้ามปูทาระปะมาให้ทาน ย่างบนหินภูเขาไฟ อันนี้อร่อยและหอมมาก เชฟ คงเป็นมัวแต่ถ่ายรูป เลยทำให้ซะเลย

Susji Kappou Kitaoji
 น่าเลื่อมใส ยิ่งนัก

Susji Kappou Kitaoji
 อันนี้เป็น วากิว ครับ ห่อ egg plant

Susji Kappou Kitaoji
จากเป๋าฮื้อ นี้ มาพร้อมกับตับเป๋าฮื้อครับ แต่ผมทำไมไม่ได้ถ่ายรูปมาไหม่รู้ครับ หลังๆ เริ่ม งง ครับ มันยาวมากนะ คอร์ส นึง

Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji

Susji Kappou Kitaoji
 พอเห็นมิโซ ซุป ก็จะรู้แล้วว่าจะสุดท้ายละครับ

Susji Kappou Kitaoji
เมนูของหวานวันนี้ครับ

Susji Kappou Kitaoji
รายละเอียด course ดูตรงนี้นครับ


ย้ำอีกทีนะครับ ร้านนี้เป็นเจ้าของเดียวกับ คิตะโอจิ ที่ซอยสุขุมวิท 55 แต่เป็นคนละร้านกัน ร้านนี้มีแต่แบบ Kaiseki หรือจะเรียกว่า Sushi omakese อะไรก็ได้ครับ มันเป็นแบบผสมผสานกัน คงเป็นเจ้าแรกๆในไทยที่ทำแบบนี้  เวลาเสริฟ จะวุ่นวายหน่อย ยิ่งเวลาแขกมากๆ เพราะมีอาหารหลายอย่าไปพร้อมๆ กัน ไม่เหมือนกับ ซูชิ โอมากาเซะ เฉยๆ ที่เป็นการทำปลา ไปทีละคำ ทีละคำ

ร้านนี้ผมว่าดีงาม ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงครับสำหรับระดับนี้ ยิ่งมิ้อเย็นมี course เล็ก 4500 บาท ผมว่าราคาแข่งขันได้ในตลาดเลยครับ แนะนำครับ