วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Hako Town , Feel The pulse of Japan within , ฮาโกะ ทาวน์ ผจญภัยในเมืองกล่อง

Hakotown
คุณเชื่อเรื่องดวง เรื่องพรหมลิขิต หรือเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นไหมครับ   ผมเชื่อนะ

ครั้งนี้ผมได้รับทราบว่ามีร้านอาหารเปิดใหม่แถวๆ เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา จากคุณ @malimali mention ผมใน twitter  ผมตั้งใจจะไปร้านนี้ตั้งแต่วันอาทิตย์ แต่ฝนมันตก วันจันทร์ตั้งใจจะไปอีกฝนก็ตกอีก ตกหนักเลย  พอถึงวันอังคาร ตั้งใจจะไปอีกที ทีแรกฝนก็ตก แต่พอผมไปถึงร้านฝนก็ไม่ตกแล้วครับ  ร้านนี้ครับ Hako Town เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา   หากไปจากทางด้านออกเมือง ก็ลงทางด่วนตรงเกษตร นวมินทร์  แล้วกลับรถ  ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ สังเกตโคมญี่ปุ่นแดงๆครับ

อันนี้ website ของร้านกับ facebook ครับ

http://www.hakotown.com/
http://www.facebook.com/hakotown

ฮาโกะ ทาวน์
 เลยโคมแดงๆไปหน่อยจะเจอทางเข้าร้านเล็กๆ ก็เลี้ยวเข้าไปจอดด้านหลังเลย จะมีลานจอดกว้างๆครับ  พอขาจะออก ก็ออกอีกทางหนึ่ง ทางนี้เป็น one-way ครับ

Hako Town
Hako Town
ที่นี่เป็นเหมือนเวิ้่งอาหาร เหมือนหมู่บ้านอาหาร หรืองาน Beer Garden อะไรสักอย่างครับ  คือเราต้องซื้อบัตร prepaid ก่อน แล้วก็เอาบัตรไปซื้ออาหาร บัตรนี้สามารถเก็บไว้ใช้ได้ 6 เดือน

ขณะที่ผมจ่ายเงินซื้อบัตรไปแล้ว และเดินไปซื้อน้ำ เห็นบูทไอศครีม I-maru อยู่ ผมก็ถามน้องเขาว่า ที่นี่เจ้าของเดียวกับ Wine Room 1920s หรือครับ   ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงทักจากคุณมารุต เจ้าของร้านนั้นและ Hako Town นี่ด้วยครับ   ผมเลยพาคุณมารุตเดินไปถ่ายรูป  คุณเขายังบอกว่าจะถ่ายดีเหรอ เดี๋ยวเขาหาว่า Fake จัดฉากนะ  ผมบอก ไม่เป็นไรถ่ายเหอะ  เลยได้รูปข้างล่างนี่มา

ที่ผมว่า ความบังเอิญ มันมีจริงๆ ก็เพราะว่า เมื่อปีที่แล้วในเดือน มิถุนายน คุณ @malimali ก็เป็นคนชวนผมไปรีวิวร้าน Wine Room   มาปีนี้ครบปี คุณ @mailmali ก็เป็นคนแนะนำให้ผมรู้จักร้านนี้  และยังอุตส่าห์ ไปรีวิว วันที่คุณมารุตอยู่ร้านพอดีอีก   ทีนี้เลยสบายละครับ  พี่แกจัดอาหารมาให้ถ่ายรูปกันเต็มที่ ทำให้รีวิวนี้ของผมอาหารจะเยอะมากนะครับ  กินไม่หมดหรอก  ต้องขอบคุณคุณมารุต ไว้ในที่นี้ด้วยที่เป็น sponsor หลัก ในรีวิวอันนี้   (ดีที่พี่แกแต่งตัวหล่อเสมอ ไม่งั้นงานนี้อดออกสื่อนะคร้าบ  :D)

คุณมรุต ชโลธร

จากการพูดคุยกับคุณมารุต ได้ใจความว่างาน Hako Town นี่เป็นงานชิ้นแรกที่คุณมารุตเข้ามาในธุรกิจอสังหา ด้วย คุณเขาว่าอย่างนั้น   คำว่า Hako Town นั้นหมายถึงเมืองกล่อง  เพราะร้านค้าทุกร้านที่ตั้งอยู่ในเวิ้ง Hako Town นี้ เป็นร้านที่สร้างขึ้นจาก กล่องตู้ Container ครับ    จากความคิดที่ว่าการที่ไปตั้งร้านอาหารญี่ปุ่นพวกนี้จะต้องมีค่าตกแต่งร้าน ซึ่งหากไปตั้งร้านในที่ที่ไม่ success เงินลงทุนที่ใช้ในการตั้งร้านก็จะเสียไปฟรี   และการลงทุนตกแต่งร้านเป็นต้นทุนของร้านที่สูง ทำให้คนขายต้องผลักภาระมาให้ลูกค้า  ทำให้อาหารพลอยแพงไปด้วย  ส่วนร้านที่นี่ของคุณมารุตนั้น เป็น container ที่สามารถย้ายไปตั้งที่อื่นก็ได้  และมีการบริหารจัดการ stock อาหารที่ดี ตู้เย็นเพียงสองตู้สามารถทำอาหารขายได้สามถึงสี่วัน  โดยใช้พนักงานแค่สองคน   ทำให้ราคาขายของอาหารที่นี่ถูกกว่าที่อื่นครับ

มีที่่นั่งไม่มากครับ และอยู่กลางแจ้ง ถ้าดูตามรูปจะเห็นว่าเอาพลาสติกมาคลุมที่นั่ง เพราะฝนมันตก   คุณมารุตเล่าว่า ตอนนี้ก็ถือว่าซ้อมๆเอาไว้ พอถึงหน้าหนาวตรงนี้จะเป็นลานเบียร์ที่ดีได้เลยละ

Hako Town

Hako Town
ผมถามคุณมารุตว่า ร้านพวกนี้เอา Franchise มาจากญี่ปุ่นหรือเปล่าครับ ?  พี่เขาตอบว่า Brand พวกนี้คุณผม (คุณมารุต) คิดเอง   ทำไมต้องใช้ Franchise ใช้ Franchise แล้วแพง  และที่สำคัญอาหารที่ขายที่นี่ แม้แต่จะหาทานในญี่ปุ่นก็ยังอาจจะหายากเลยครับ

Hako Town
 ตรงนี้จุดขายคูปอง กำลังจะเอาตู้อัตโนมัติมาตั้ง   ที่นี่ยังจะมีปรับเปลี่ยนอีกหลายจุดจากวันที่ผมไปรีวิวครับ

Hako Town
ร้านหลักๆของที่นี่ก็มี
  • ร้านปิ้งย่าง Kushi Maru  เป็นร้านปิ้งย่าง 
  • ร้าน Chu Zuke เป็นร้านข้าวต้ม กับร้านปลาดิบ  
  • ร้าน Oyako เป็นร้านอาหารประเภทไก่กับไข่   ร้าน Maru Soba  เป็นร้านขาย Soba  เนื่องจากคุณมารุตอยู่ในธุรกิจผลิตเส้นมาก่อน ร้านนี้คุณมารุตจึงบอกว่าเป็นร้านที่อยากสร้างเป็น brand  แล้วก็ขายเป็น franchise ออกไปครับ 
  • ร้านเกี๊ยวซ่า  ร้านนี้ขายเกี๊ยวซ่า ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ
  • ร้าน Yoi Bar ร้านขายน้ำและเครื่องดื่ม ทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์
  • ร้าน Hama Ichi  ผมเข้าใจว่าตอนที่ผมไปร้านนี้ยังไม่เสร็จ
  • ฯลฯ

พาชมบรรยากาศโดยทั่วๆไปของ Hako Town ครับ

Hako Town

Hako Town

Hako Town

Hako Town

Hako Town
อาหารชุดนี้มาจาก ร้าน มารุโซบะครับ   เส้นของร้านนี้เป็นเส้นที่คุณมารุตทำเอง และออกแบบให้เส้นสามารถใช้กับอาหารได้หลายๆอย่าง จะได้ไม่ต้อง stock ของไง

คุณมารุตสั่งอาหารมาให้ผมลองทั้งหมด 5 แบบ เลย ผมก็เลยเอาไปถ่ายคู่กับป้ายซะเลย จะได้รู้ราคา และผมก็จะได้ จำได้ด้วยว่ามันคืออะไร

จานแรกเป็น มารุ เซมบุ  คือ ใส่ทุกอย่างเลยครับ

Maru zembu
 จานนี้เป็น Kara Soba  จานนี้จะออกเผ็ดๆ   คือซอสของโซบะที่นี้รสไม่เหมือนกันเลยสักแบบ

Kara Soba
 รูปนี้เป็นมือคุณมารุต แสดงวิธีทาน มารุเซมบุ คือต้องเอามาคนๆ อย่างนี้ผสมๆกัน

Maru Zembu
จานนี้เป็น โซบะ น้ำ  มีไว้เพื่อให้รู้ว่าเมนูธรรมดาก็มี   แต่มันอร่อยนะครับ ซุปเขาอร่อยดี

Maru Soba
 จานนี้เป็น หมี่เย็น  คุณมารุตบอกว่า คนไทยชอบเมนูหมี่เย็นนี้มาก ไปไหนก็ต้องมี ส่วนอีกจานเป็น Tantan Soba จานนั้นเป็นโซบะใส่งา ผมถ่ายมาไม่ชัดอย่างหนักเลยขอไม่นำรูปมาลงครับ

หมี่เย็น
คุณมารุตเล่าว่า เขาได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล ในภาควิชาการจัดการมั้งครับ ( ผมจำบ่ได้แล้ว) โดยให้นักศึกษาที่เรียนได้ทดลองจัดทำแผนธุรกิจ และการบริหารจัดการร้านพวกนี้จริงๆ ที่นี่ โดยมีคุณมารุตเป็นพี่เลี้ยง  


Maru Soba

Maru Soba
ต่อไปเป็นความภูมิใจของที่นี่อีกอย่าง นั่นคือ ขนมเซมเปะปลาหมึก  คือเอาปลาหมึกสดๆ มาใส่แป้ง แล้วก็มาเข้าเครื่องอัดกรอบ  พออัดกรอบแล้วเซมเปะจะกรอบมาก ไม่มีความเหนียวของปลาหมึกหลงเหลือเลย  คุณมารุตบอกว่าของแบบนี้แม้แต่ที่ญี่ปุ่นก็ยังหาทานยาก  ท่านว่าเช่นนั้น

ปลาหมึก
มาเข้าเครื่องอัด  น่าจะมีการอัดความดันด้วยมั้งครับ ผมเดาเอาล้วนๆ

เครื่องอัด
 ได้แล้วครับ ขนมเซ็มเปะ ปลาหมึกราคา 39 บาท   ลองทานดูแล้วมันกรอบมาก แต่ไม่รู้คนไทยจะชอบหรือเปล่านะครับ  ไว้ท่านลองมาทานกันเองดูแล้วบอกผมหน่อย

ขนมเซ็มเปะ ปลาหมึก
ต่อไปมาดูร้าน Kushi Maru บ้าง  ร้านนี้บอกว่าจุดเด่นคือชีสย่าง  แล้วก็เห็ดสดออแกนิก ที่ปลูกอยู่ตรงนั้นแหละ เก็บมาทำอาหารกันเดี๋ยวนั้น

เห็ดออแกนิก
 วันที่ไปรีวิว คุณมารุตกำลังลอง เมนูใหม่อยู่คือเนื้อย่างครับ คุณมารุตได้แหล่งเนื้อมาใหม่ เลยมาทดลองดู  อร่อยดีเหมือนกัน

เนื้อย่าง
ต่อมาเป็นอาหารจากร้าน Chu Zuke กันบ้าง  เป็นข้าวต้มปลาดิบ

ข้าวต้ม

ข้าวต้ม

อาหารจากร้านเดียวกันครับ ยำซาซิมิอาจิ  จานนี้อร่อยดี

Yam sashimi aji
 อาหารจากร้านเกี๊ยวซ่าครับ จานแนะนำเป็นเกี๊ยวซ่าไส้หูฉลาม กับเกี๊ยวซ่าไส้แกงกระหรี่  เชิญไปทดลองดู

เกี๊ยวซ่าหูฉลาม

 ส่วนเครื่องดื่มมีสาเก โชจู อุเมชู ยูซุชู ที่มาจากโรงงานผลิตของที่นี่เอง ผมคาดว่าคงมีมาเติมเรื่อยๆครับ  ตอนนี้น่าจะเป็นช่วงทดลองอยู่ แล้วอีกอย่างเมื่อวานผมก็ไม่แน่ใจว่าทดลองอะไรไปบ้าง คาดว่าจะราว 6-7 ชนิดได้    สรุปสั้นๆว่า มีหลากหลายและราคาไม่แพง ส่วนรสชาติก็เยี่ยมครับ

เครื่องดื่ม

ร้านเครื่องดื่ม

สำหรับการสั่งอาหารนั้น ขั้นแรกต้องซื้อคูปองเงินสดก่อน เหมือนกับใน food center นั่นแหละครับ  แล้วต่อไปก็ไปสั่งอาหาร  ทางบูทเขาจะให้อุปกรณ์แบบในรูปด้านล่างนี่มา  เมื่ออาหารเสร็จแล้วก็จะส่งสัญญาณเรียกให้ไปรับอาหาร ทำให้เราไม่ต้องยืนออกันที่หน้าร้าน

วิธีสั่งอาหาร

สรุปครับ
ทุกครั้งที่ผมได้คุยกับคุณมารุต ทำให้ผมได้ความรู้ และความคิดใหม่ๆทุกครั้งครับ  ครั้งนี้ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่ไปแล้วเจอคุณมารุต

ในความคิดของผม ผมคิดว่าที่นี่มีโอกาสเป็นที่ ฮิตที่หนึ่งทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อไม่ค่อยมีฝนแล้วนะครับ  เมื่อถึงเวลานั้นคงได้เห็นเพื่อนๆของเราถ่ายรูปกับสถานที่แห่งนี้และ post ขึ้น facebook กันใหญ่โดยแน่แท้
อาหารที่นี่ขายไม่แพงเลย เพราะการบริหารจัดการที่ดี และเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบเองครับ

แทนที่เราจะ import franchise เข้ามาอย่างเดียว  เรา export franchise ของเราไปให้ โลกรับรู้บ้างครับ  สนับสนุนครับ

แผนทีร้าน Hako Town

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รีวิวโรงแรม ดุสิตธานี พัทยา , Dusit Thani Pattaya hotel

Dusit Thani Pattaya
ตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว ที่ผมผ่านโรงแรมนี้ก็ได้แต่มอง ไม่เคยได้เข้าไปพักกับเขาบ้างเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ สมัยเด็กๆ พ่อแม่พาไปพัทยา ถ้าไม่จองไป หลายครั้งจะต้องวนไปวนมาหาที่พักครับ สมัยนั้นมีที่พักไม่กี่ที่ สถานที่ที่ผมมักจะได้ไปพักตอนเด็กๆ ก็คือที่โรงแรมมารีน่า ที่สมัยนี้มันเก่ามาก และผมว่าคนยุคนี้หลายคนไม่รู้จักมันแล้ว  ส่วนที่ดุสิตนี้ ไม่เคยไปพักเลย  เก็บความสงสัยไว้มานานว่ามันจะเป็นอย่างไรหนอที่ได้ไปพักในดินแดนสวรรค์ ณ โรงแรมที่ตั้งอยู่บนหัวหาดพัทยา แห่งนี้  

ดุสิต เป็นชื่อเรียกของสวรรค์ครับ หนังเรื่องที่ทำให้ผมอิน กับคำนี้มากที่สุดคือหนังเรื่องพุ่มพวง ครับ โดยเฉพาะตอนที่พุ่มพวงบอกว่าอยากจะเข้าไปร้องเพลงในโรงแรมดุสิต ที่กรุงเทพ จนในที่สุดก็มีวันนี้วันที่ได้รีวิวโรงแรมดุสิตสักทีนะครับ ผมว่าโรงแรมนี้อายุคงไม่ต่ำกว่า 30 ปีครับ


web site ของโรงแรมครับ  http://www.dusit.com/dusit-thani/en/dusit-thani-pattaya.html


โรงแรมดุสิต พัทยา นับเป็นโรงแรมในพัทยาแห่งแรกๆ รุ่นบุกเบิกเลยทีเดียว เท่าที่สังเกต ผมว่าที่นี่มีการ renovate ไปหลายครั้งแล้วเหมือนกันครับ ของที่มันเคยดีงามเมื่อยุคหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าไม่ทำอะไรกับมัน มันก็กลายเป็นของเก่า และ ผู้ในอีกยุคหนึ่งอาจบอกว่ามันไม่ดีก็ได้ครับ และของก็คงต้องเก่าไปตามเวลาด้วย


เมื่อเข้าไปพบว่าพื้นที่ของโรงแรมดุสิตพัทยานี่กว้างขวางมากครับ ตัวอาคารโรงแรมก็เป็นอาคารไม่สูง  คือราว 8 ชั้น  แอบฝันว่าถ้าโรงแรมที่ริมหาดของไทยทั้งหมดถูกจำกัดความสูงไว้แค่ ไม่เกิน 8 ชั้น หรือให้เตี้ยกว่านั้นได้อีก ก็คงจะดี จะได้ไม่กลายเป็นตึกสูงโด่เด่อยู่เต็มริมหาดไปหมดแบบในปัจจุบันครับ  แต่ใจก็รู้ว่าคงจะเป็นไปได้ยากอยู่ครับ


ดุสิตธานี พัทยา

Lobby Dusit Thani Pattaya Hotel
 โรงแรมดุสิตพัทยานับเป็นโรงแรมที่มีห้องพักจำนวนมาก และห้องจัดเลี้ยงที่จัดรับคนได้ 3000 คนทีเดียว รูปนี้รูปห้องจัดเลี้ยงครับ  "นภาลัย"

ห้องนภาลัย
ห้องอาหารมีหลายที่ ขอยอมรับว่าไม่ได้ทดลองแม้แต้ร้านเดียวครับ  ร้านในรูปข้างล่างคือร้าน The bay อยู่ริมสระน้ำ และเป็นมุมที่มองเห็นพัทยาได้ชัดเจนยิ่งนัก  ส่วนร้านที่อยู่ชั้นสูงสุดของโรงแรมแห่งนี้คืออยู่ชั้น 8 เป็นร้านอาหารจีนครับ  ผมคิดว่า ร้าน The bay นี่วิวสวยที่สุด

The bay
สำหรับห้องพักนี่ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามีการ renovate มาแล้วครับ ตัวโรงแรมแบ่งเป็นสามปีก สองปีกมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และทะเล ส่วนอีกปีกหนึ่งจะมองเห็นหลังคาของห้องจัดเลี้ยงนภาลัยครับ ไม่เห็นวิวเลย  และเป็นห้องที่ผมได้ไปพักในครั้งนี้ด้วย  T T

ห้อง Deluxe ดุสิตธานี พัทยา

มีไฟอ่านหนังสือที่หัวเตียงเพิ่มมา ส่วนห้องน้ำก็ยังเป็นแบบเก่า คือมันไม่สามารถมองทะลุมาที่ห้องนอนได้ ก็เอากระจกไปติดไว้แทน 



ห้อง Deluxe ดุสิตธานี พัทยา
ทีวีก็เป็นรุ่นจอแบนแล้ว รุ่นแบบนี้คง renovate มาได้ไม่เกิน 10 ปี

ห้อง Deluxe ดุสิตธานี พัทยา
อุปกรณ์ในห้องน้ำก็เปลี่ยนใหม่แล้ว

ห้อง Deluxe ดุสิตธานี พัทยา
 แชมพู สบู่จาก Nature touch ครับ กลิ่นหอมดี แต่ภาชนะดูโบราณ และดูไม่มีราคา

ห้อง Deluxe ดุสิตธานี พัทยา
มองออกไปทางนอกหน้าต่าง จะพบกับหลังคาสีเขียว และที่ระบายอากาศ  นี่ผมถูกจัดมาให้อยู่ห้องอะไรกันนี่   - -*

วิวหลังคา
เก้าอี้ด้านนอก ใช้เก้าอี้พลาสติก ราคาถูก ผมคิดว่าบางอย่างก็ไม่น่าจะประหยัด  ที่ระเบียงมีที่เขี่ยบุหรี่ไว้ให้สูบ เพราะเขาห้ามสูบในห้อง

ระเบียง
ไปดูส่วนอื่นของโรงแรมต่อครับ อันนี้เป็นสวนที่อยู่หลัง Lobby ครับ  มีร้านอาหารอยู่ตรงนี้ เค้กก็อยู่ตรงนี้ แต่ชื่ออะไรไม่รู้ ลืมไปแล้วครับ 

ดุสิตธานี พัทยา

เค้ก

Dusit Thani Pattaya
ตรงศูนย์กลางระหว่างทางแยกไป wing ต่างๆ ของโรงแรมดุสิต จะเป็นที่นั่งเล่น ชมวิวพาโนรามา ของพัทยาครับ  ผมว่า ตรงนี้เจ๋งทีเดียว ยิ่งถ้าคิดว่าเป็นเมื่อก่อนนะครับ คงเจ๋งล้ำหน้ามากๆ แต่ก็อดติไม่ได้ว่า  floor to floor มันเตี้ยไปหน่อยสำหรับโรงแรมนี้   หรือสมัยก่อนคนตัวไม่สูงมากก็ไม่รู้  อันนี้ผมก็เดาเอา

panoramic view of pattaya

และจากตรงนี้ ผมก็เลยถ่ายรูปวิวแบบ zoom ใกล้ไกล มาฝาก  วิวนี้วิวฮิตของพัทยา คือวิวป้าย Pattaya city

Pattaya city
มุมกว้าง เราจะเห็นคนเดินไปขึ้นเรือ  ผมจำได้ที่หาดแห่งนี้สมัยผมเด็กๆ เรือจะเป็นเรือท้องกระจก นั่งไปขึ้นเรือใหญ่ (กว่า) แล้วก็ไปเกาะล้านกัน  ตอนนี้พัทยาไม่มีปะการัง หรือไม่มีปลาอะไรให้ดูแล้ว  แต่ก็ยังนับว่าสะอาดกว่า ณ ช่วงเวลาหนึ่งของพัทยามากๆ  มันมีช่วงที่พัทยาตกต่ำสุดๆ ก็มีนะครับ ผมว่าตอนนี้ดีกว่าเดิมแล้วละ

ชายหาดพัทยา
วิวกว้างขึ้นมาอีก เราจะเห็น สระ "ชบา" ของโรงแรมดุสิตธานี พัทยา  ตรงสระนี้มีห้องพักที่อยู่ติดสระด้วยครับ

สระชบา ดุสิตธานีพัทยา
สระในรูปคือสระ ลากูน ซึ่งอยู่บนชั้นสูงขึ้นไป  สระนี้มีการเล่นระดับด้วยครับ ร้านอาหาร The bay ก็อยู่ริมสระนี้ครับ

สระลากูน ดุสิตธานีพัทยา

ท้องฟ้าไม่เป็นใจ ให้ถ่ายรูปนะครับ

สระลากูน ดุสิตธานีพัทยา
สระลากูน ดุสิตธานีพัทยา
 Jacuzzi ข้างสระลากูน Jacuzzi เล็กๆ ครับ แต่ก็วิวโอเคอยู่

Jacuzzi ข้าง สระลากูน ดุสิตธานีพัทยา
 สนามเทนนิส สามคอร์ท ที่นี่ผมเข้าใจว่าใช้แข่ง Pattaya Open ที่เป็นหนึ่งใน WTA tour ด้วยนะครับ

สนามเทนนิส ดุสิตธานีพัทยา
Lobby Lounge ครับ กลางคืนมีดนตรี แต่เป็นดนตรีแบบค่อนข้างย้อนยุคนะครับ

Lobby lounge Dusit Thani Pattaya
 และแน่นอน Dusit reserve Cabenet Sauvigon, Domain St. Gorge ครับ เหมือนที่ Dusit D2 เชียงใหม่

Lobby lounge Dusit Thani Pattaya
ถ้ามีพนักงานคนไหนที่สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ผมก็ขอชมน้องผู้หญิงที่อยู่ที่ Lobby lounge ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไรเหมือนกัน ว่าจะเอาบัตรชมไปให้แต่ก็ไม่ได้ให้ครับ ฝากชมไว้ตรงนี้ละกัน

Lobby lounge Dusit Thani Pattaya

จบแล้วครับ รีวิวนี้ท้องฟ้าไม่เป็นใจเลย และห้องพักก็ไม่เป็นใจด้วย ถ้าเป็นโอกาสอื่นวาระอื่น ผมอาจให้คะแนนโรงแรมนี้มากกว่านี้ก็เป็นได้   แต่ผมว่ายุคที่สูงสุดของมันได้ผ่านไปแล้วละครับ และผมว่าที่นี่ต้องการได้รับการ รีโนเวทมิเช่นนั้นคงยากจะแข่งขันได้   ตอนนี้ที่พัทยามีดุสิต D2 ด้วยครับผมก็อยากไปที่นั่นเหมือนกัน หวังว่าคงจะได้ไปในโอกาสหน้า

การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ต้องกระทำเพื่อให้แข่งขันได้ครับ  และเพื่อให้เรามีความสมบูรณ์แบบนำหน้าคู่แข่งขันอยู่เสมอ เราก็ยิ่งต้องพัฒนาอยู่สม่ำเสมอ 

หาดหน้าดุสิตธานี พัทยา