วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รีวิวโรงแรม มาราเกซ หัวหิน รีสอร์ท สปา, Marrakesh Hua hin Resort and Spa

Marrakesh Hua Hin
ต้องขอบคุณคุณ ดร.บี แห่ง Major Development  (MJD) ที่ทำให้มีโอกาสได้ไปพักโรงแรม มาราเกซ ที่หัวหิน แห่งนี้ ในขณะที่ยังไม่เปิดให้บริการดีครับ มาราเกซ หัวหิน จะเปิดให้บริการวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เป็นวันแรก โดยจะเปิดให้บริการที่ตึกด้านที่ติดหาดก่อนเป็นตึกแรก ผมเข้าใจว่าทั้งโรงแรมมี 76 ห้อง

โรงแรมมาราเกซนี้ ตั้งอยู่ ระหว่างหัวหิน 83 กับ 85 ครับ เลย โรงแรม Intercon ไปเล็กน้อย ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ คอนโดของเครือ MJD เอาว่า ดู web ของเขาแล้วกันนะครับ http://www.marrakesh-huahin.com/

เราเห็นกระแสอย่างหนึ่งในช่วงปีหลังที่ผ่านมานี้ ถึงการนำสถาปัตยกรรมของเมืองต่างๆ เอามาสร้างไว้ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่เขาใหญ่ ที่มีทั้งปราสาทและเมืองรูปแปลกๆ ผุดขึ้นตามมาเรื่อยๆ ส่วนที่หัวหิน เราก็จะเห็น อาคารทรง เมดิเตอร์เรเนียน อาคารทรงกรีซ และอันนี้อาคาร สถาปัตยกรรมโมรอคโค ใช่แล้วครับ Marrakesh คือชื่อเมืองที่ในโมรอคโคนั่นเอง โรงแรมนี้ก็สร้างตามสถาปัตยกรรมของโมรอคโค มั้งครับ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสถาปัตยกรรมโมรอคโคเป็นยังไง เดาเอาเองครับ

Marrakesh Hua Hin
แล้วทำไมเราต้องเอาสถาปัตยกรรมแปลกๆ มาตั้งไว้ในเมืองไทยด้วยเนี่ยครับ เคยคุยกันเล่นๆว่า ถ้าอีก ล้านปี โลกแตกไปมนุษย์ต่างดาวมาสำรวจโลก จะไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ประเทศไหนกันแน่ เพราะว่าสิ่งปลูกสร้างมันสร้างเหมือนกันหมดเลย แบบว่ามาสำรวจหัวหิน อาจนึกว่าอยู่โมรอคโค แล้วถ้าเดินไปอีกซอย ก็จะไปถึง กรีซ ก็เป็นได้ (มีสถาปัตยกรรมกรีซ สร้างใกล้ๆกันครับ)
สระว่ายน้ำ ที่ Marrakesh Huahin
ผมก็ไม่ทราบได้ว่าสร้างแบบไหนแล้วจะดีครับ หากเดินทางหน้าหาดไปทางชีวาศรม จะสามารถพบเห็นสถาปัตยกรรมตากอากาศแบบที่เป็นหลังคามุงกระเบื้องว่าว ชั้นล่างยกสูงหนีน้ำ  แบบนั้นก็มีครับ เอาเป็นว่าถ้ามาถ่ายรูปที่นี่ก็สวยดีเหมือนกัน อาจนึกว่าถ่ายที่ต่างประเทศก็เป็นได้ ก็สวยดีครับ

ห้องที่ได้ไปพักครั้งนี้คือห้อง 62 ทางด้านหน้าติดหาดครับ อยู่ชั้น 2 เนื่องจากห้องที่นี่เขาไม่เรียงเบอร์เรียงชั้นกันนะ ก็ตั้งชื่อห้องไปเรื่อยๆ ครับ เบอร์ห้องเลยไม่ได้สื่ออะไร  แต่ผมเข้าใจว่าห้องนี้เป็นหนึ่งในห้องที่ดีที่สุดของที่นี่กระมัง เพราะห้องอื่นๆ ไม่ติดหาดนี่ มีแค่ 6 ห้องเท่านั้นมั้งครับที่หันหน้าไปทางนี้

Marrakesh Huahin
มี Jacuzzi ด้านนอก และก็มีม่านไฟฟ้า เลื่อนมากั้นสายตาคนมองจากด้านนอกได้ ส่วนเบาะตอนที่ผมไปยังไม่มี ผมมีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับระบบแอร์ อัตโนมัติของห้องนี้มากเลยเพราะว่า ถ้าเปิดประตูตรงนี้ค้างไว้ ประมาณ 10 วินาที  แอร์ในห้องจะตัดทันที และมันก็ไม่เปิดใหม่เองครับ สร้างความหงุดหงิดได้เหมือนกัน  ผมว่าน่าจะตั้ง timer ให้ยาวกว่านี้ เพิ่มเป็นสัก 5 นาทีค่อยตัดก็ได้นี่ครับ

Jacuzzi
ได้ตรวจห้องไปในตัว มีใบ check list มาให้ ด้วยครับ
check list
เตียงครับ  ม่านทางขวา นี่น่าจะใช้ม่านตัดแสงนะครับ เช้าหน่อยแสงก็เข้ามาเพียบแล้วครับ

Bed at Marrakesh Hua Hin
ห้องน้ำครับ ผมว่าพวกเครื่องใช้ในห้องน้ำนี่ยังขาด อยู่มากเลยครับ ส่วนที่ห้องอาบน้ำฝักบัว ก็ไม่มีแท่นวางสบู่ แชมพู ไม่มีอะไรทั้งนั้น ตอนนี้สบู่มีแค่ตรงที่อ่างล้างมือนี่กระมัง ที่ Jacuzzi ก็ยังไม่มีครับ

ห้องน้ำ Marrakesh Huahin
 สระว่ายน้ำ ไม่ใหญ่ และไม่ลึกครับ ก็พอสมควร แต่อย่าไปดู สระของคอนโดของ Marrakesh นะครับ จะได้ไม่อิจฉาเขา :D
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำ

 Marrakesh
 อาหารเช้าก็ยังไม่มีด้วยครับ เขาเตรียมไว้ให้เล็กน้อย แต่ผมก็ไม่ได้ทาน เพราะเข้าใจว่ายังไม่มี กว่าจะรู้ว่ามีก็ทานไปแล้ว
Marrakesh
 รูปนี้ ถ่ายให้เห็นโครงการคอนโด ของ MJD ที่อยู่ติดกันครับ โรงแรมก็ของ MJD ครับ
Marrakesh


ส่วนราคา ก็ไม่ทราบอีกครับ ว่าเปิดมาแล้วจะราคาเท่าไหร่ หวังว่าจะไม่สูงเกินไปนะครับ

ขอขอบคุณ ทุกๆท่านที่มีส่วนให้รีวิวนี้เกิด และขอบคุณคนอ่านด้วยครับ หากมีโอกาสมากกว่านี้ค่อยมาเขียนเพิ่มเติมครับ เพราะตอนนี้ที่นี่ยังขาดหลายอย่างเลยนะ

(มีตอนที่ 2 แล้วครับ )

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รีวิวร้านอาหาร อจิโดราคุ BigC เอกมัย, AjiDouRaku , Otoro ราคาถูกที่สุดในประเทศไทย ?

ไปมาในช่วงน้ำท่วมอีกแล้วครับ  ช่วงนี้คนอพยพออกนอกเมืองกันส่วนใหญ่เลย ส่วนผมก็เฝ้าเมืองเหมือนเดิม รอว่าน้ำจะมาเมื่อไหร่ครับ  ผมคิดว่า "การใช้ชีวิตปกติ" ก็เป็นการช่วยสังคมแบบนึงครับ ไม่มีใครกินใครใช้ แล้วร้านค้าจะทำยังไง ช่วงนี้การชี้หน้าหาคนผิดย่อมไม่ใช่วิธีที่ทำแล้วจะเกิดประโยชน์ครับ การเงียบไว้ก็อาจเป็นการช่วยสังคมได้มากกว่า ก็เป็นได้ ในความคิดของผม

ร้านที่จะพาไปครั้งนี้เป็นร้าน อาหารญี่ปุ่น ที่มีหลายๆอย่างครับ ผมว่าเหมือน ฟูจิ Fuji นะ  คือเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีอาหารหลายๆอย่าง แต่ว่ามัน ดีกว่า อร่อยกว่า ญี่ปุ่นกว่า ส่วนราคาผมว่าใกล้ๆกันนะครับ หรือถูกกว่าด้วย ยิ่งถ้าเทียบราคา ข้าวหน้าปลาไหลของร้านนี้กับร้าน Fuji นะครับ ร้านนี้ถูกว่า ราวครึ่งนึงเลยครับ แล้วก็อีกอย่าง ร้านนี้เขาอ้างว่าเขาขาย Otoro ถูกที่สุดในไทยเลยครับ ไม่รู้จริงเปล่านะครับ คือมันราคาราว 500 บาทครับ

ร้านอยู่ที่ BigC เอกมัย ชั้นสองครับ ชื่อร้าน Aji Dou Raku (Aji รสชาติ Dou วิถี Raku รื่นรมย์ ผมเลยรวมๆ แปลมั่วเองว่า วิถีแห่งรสชาติอันรื่นรมย์) อันนี้ web ของร้าน http://www.aroijapan.com/ajidouraku/ ร้านนี้เจ้าของเป็นญี่ปุ่น และคนญี่ปุ่นมากินกันเพียบเลยครับ


เมนูหน้าร้าน เขา อ้างว่าเขาขาย Otoro ถูกที่สุดในไทยครับ

เมนู หน้าร้าน Aji Dou Raku

อันนี้ของรางวัลที่ทางร้านให้แลก จากการสะสม point
ของรางวัลที่ให้แลก
ร้านนี้ที่นั่งค่อนข้างเป็นสัดส่วนครับ มีที่นั่งเคาเตอร์ก็มี
หน้าร้าน อจิโดราคุ
สาเกหลากชนิดและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ครับ
สาเก และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
อาหารครับ จานแรก Otoro 580 บาท
Otoro
 สลัด Kaisen 290 บาท
สลัด
 Salmon Nigiri set 290 บาท
Sushi
 ซูชิหน้าปลาไหล Unigi Oshi Sushi 220 บาท
Sushi
 ชีสย่าง
ชีสย่าง
 Sashimi C set 580 บาท
Sashimi
อ้อแล้วเขาก็มี ชาบู น้ำซุปที่บอกว่ามี คอลลาเจน ด้วยนะครับ แต่เป็นยังไงไม่รู้ครับ ไม่ได้ทาน  
มีเท่านี้ครับสำหรับร้านนี้ ราคาแพงรึเปล่า ก็ดูตามที่ผมแปะราคาไว้แล้วกันครับ ส่วนตัวผมชอบร้านนี้เหมือนกันครับ จัดว่าเป็น ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีร้านหนึ่งทีเดียว

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ร้านอาหารที่ Terminal 21 ,อโศก สุขมวิท

รอบนี้ไม่ได้เขียนนานมาก เพราะช่วงนี้น้ำท่วม ทำให้นัดที่จะไปลองกินที่ต่างๆ ถูกเลื่อนหรือยกเลิกไม่มีกำหนดไปหมด ครับ รีวิวนี้เป็นรวมร้านอาหารที่ Terminal 21 (http://www.terminal21.co.th/ ) ที่ อโศก สุขุมวิท ครับ

มีร้านอาหารอยู่ที่ชั้น 5 ชั้น 6 มีร้านอาหารเยอะครับ แต่ผมว่า ร้านส่วนใหญ่มันซ้ำกับร้านอาหารที่ The nine พระราม 9  มากๆเลยนะครับ ผมจะแปะรูปให้ดูเฉยๆนะครับ ว่ามีร้านอะไรบ้าง  ในจำนวนทั้งหมดนี้ ผมประทับใจอยู่อย่างเดียว คือ ร้านขนม GokokuYa ที่ชั้น 1 Tokyo ครับ  กับที่ประทับใจอีกอย่าง ก็ห้องน้ำ ที่แตกต่างกันของชั้นต่างๆ  แล้วก็ ที่นี่ตกแต่งสวยดี คนคงมาถ่ายรูปกันเยอะครับ  ส่วนจุดที่ไม่ชอบคือผมว่ามันแคบ และคนก็ค่อนข้างพลุกพล่าน  ร้านอาหารที่มีก็ไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษครับ

มาดูรูปเลยแล้วกัน เริ่มจากร้านอาหารก่อน
ร้านแรก ซี้ดดด สเต็กลาว ที่ชั้น 4 San Francisco และร้าน Piri Piri
Steak Lao

Piri Piri
ต่อไป ร้าน TonyRomas's กับ Mo-Mo Paradise ที่ชั้น 4

TonyRoma's  and Mo-Mo Paradise
 Cafe fish ที่ชั้น 4 Terminal 21

Cafe Fish
ร้าน Coco Ichibanya
Coco Ichibanya
 ร้าน Reflections ที่ ชั้น 4 Terminal 21
Reflections
ร้าน Sunries Tacos, ร้าน Secret recipe' , ร้าน Farm Design , ร้าน Konaya ที่ชั้น 4 Terminal 21

Sunrise Tacos

Secret Recipe'

Farm Design

Konaya
ร้าน Pepper Lunch กับร้าน Yoshinoya ยังไม่เปิด  น่าเสียดายว่าจะไปรีวิวร้านนี้เหมือนกันครับ

ร้าน Pepper Lunch

ร้านชั้น 5 บ้าง เริ่มด้วย แสนแซบ , Chabuton , Blue spice and herbs , ร้าน Tokai Yakiniku
แสนแซบ

Chabuton

BlueSpice and Herbs

Tohkai Yakiniku
ร้าน Falabella อยู่ติดหน้าต่างด้านหน้าชั้น 5 เลย ร้านบ้านหญิง ร้าน Marvelous creme

ร้านบ้านหญิง

ร้าน Marvelous creme
เขียนชักยาวข้ามไปเลยแล้วกันนะครับ ที่นี้มีร้าน Ai Japanese Village ด้วยนะครับ แต่อย่างที่ว่า ผมคิดว่า ร้านมันก็ซ้ำๆ กับร้านที่ the nine นั่นแหละ ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกใหม่ ยกเว้นร้านขนมอยู่ร้านนึงที่ผมจะเขียนต่อไปข้างล่างๆนี่ ตอนนี้ไปดูห้องน้ำก่อนสักสองห้อง  เพราะว่า ห้องน้ำของที่ Terminal 21 นี่เขาก็ตกแต่งต่างๆ กันไปในแต่ละชั้น 
Terminal 21

Terminal 21
ร้านที่ผมประทับใจที่สุดในการไปครั้งนี้คือร้าน GokokuYa ครับ นำเข้ามาไทยโดย Jalux Asia อีกแล้วเหมือนร้าน Italian Tomato นั่นเอง  ไม่ผิดหวังเลยในความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ของร้านนี้ ปกติเขาขายพวกข้าวปั้น เป็นหลัก แต่ร้านนี้ผมว่ามันเป็นร้านของหวานนะครับ ชอบครับ

Gokokuya

Gokokuya

Gokokuya

สรุปไปมาแล้วครับ รีวิวแล้ว Terminal 21 ถ้าผมนั่งรถไฟฟ้าผมคงผ่านบ่อยๆเลยนะตรงนี้ครับ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
( ร้านอาหารที่ เซ็นทรัล พระรามเก้าครับ )