วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

ไปมาแล้ว Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์) เจริญกรุง

Asiatique The Riverfront
Asiatique เอเชียทีค เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้ครับ เอาว่าผมเล่าเท่าที่รู้ดีกว่า เพราะว่ารู้น้อยมาก และตอนไปก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าที่นี่เปิดวันนี้วันแรกครับ  สถานที่แห่งนี้ ปรับปรุงมาจากโกดังเก่าของบริษัท East Asiatic ที่เป็นโกดังในการเก็บสินค้าไว้ค้าขายกับต่างประเทศครับโดยบริษัทนี้เป็นบริษัทในเครือของคุณเจริญ เบียร์ช้าง ไปแล้วตั้งแต่ปี 2530 จากการซื้อหุ้นจากเจ้าของเดิม

ผมเดาเอาเองว่า ชื่อ Asiatique ก็น่าจะมาจากชื่อบริษัท นี่แหละมั้งครับแต่เปลี่ยนคำถามให้เป็นแบบบูติค ( Boutique , เปลี่ยนจาก "ic" เป็น "ique" )  ถ้าเราไปดูประวัติพระพุทธรูปทองคำที่วัดไตรมิตร ตอนนี้ก็จะพบชื่อบริษัท อีส เอเชียทีค เหมือนกันครับ เพราะสมัยที่บริษัททำการปรับปรุงพื้นที่เช่าบริเวณวัดพระยาไกรนี้  (ปัจจุบันไม่มีแล้ว)   ก็ได้พบพระพุทธรูปทองคำ องค์ที่อยู่ที่วัดไตรมิตรในปัจจุบันซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก   (พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร ) ตามบันทึกของกินเนสบุคครับ

สมัยก่อนย่านนี้คงเป็นย่านที่เจริญมากๆนะครับ มีทั้งแม่น้ำและก็มีทั้งถนน ด้านนึงติดแม่น้ำ อีกด้านหนึ่งติดถนนแห่งแรกของกรุงเทพ ที่สร้างเป็นแบบตะวันตก คือให้รถแบบตะวันตกวิ่งได้ "เจริญกรุง บำรุงเมือง เฟื่องนคร" คุ้นๆไหมครับ  ชื่อเจริญกรุง ภาษาอังกฤษเรียกว่า New Road ไง

เดินทางมา Asiatique ทางน้ำ
ปัจจุบันนี้การเดินทางมาที่นี่ทำได้สองทางคือทางน้ำและทางถนน โดยทางน้ำที่นี่เขามีเรือรับส่งจาก สถานีรถไฟฟ้า BTS ตากสินครับ และทางถนนก็มาทางเจริญกรุง นั่นแหละ ลงทางด่วนถนนจันทน์แล้วก็มาเจริญกรุง  แต่แถวนี้ถนนค่อนข้างแคบครับ  และผมว่าที่จอดรถของที่นี่ในปัจจุบันนี้เข้าขั้นมีปัญหาที่จอดไม่พอทีเดียว แม้จะมีสองฝั่งแล้วก็ตาม หรือวันนี้คนเยอะก็ไม่รู้นะครับ

ที่จอดรถ Asiatique
ถ้าเข้ามาจากย่านถนนเจริญกรุง จะพบกับ zone แรกของที่นี่ เรียกว่า "ย่านเจริญกรุง"ครับ ผมมีความเห็นว่า ร้านใน zone ด้านหน้านี่จะเป็นร้านพวก chain ที่พบหาได้ทั่วไปครับ  เช่น KFC MK Kimju Sukiya เป็นต้น

Asiatique

Asiatique

ย่านเจริญกรุง ที่ เอเชียทีค

Kimju

Sukiya
เดินเข้ามานิดหน่อย ก็จะเป็นย่านกลางเมืองครับ  ผมไม่ได้แวะดูของขายหรอก  เดินไปเดินมา จนสุดท้ายผมพึงเข้าใจว่า ที่แท้ที่นี่คล้ายๆ สวนลุมไนท์บาซาร์ ในอดีตมาก เพียงแต่ยกระดับขึ้นครับ 

ย่านกลางเมือง
เดินไปทางแม่น้ำเรื่อยๆ ก็จะผ่านย่านโรงงาน ที่ยังมีหลายร้านไม่เปิดครับ  หากมาจากทางถนน เดินมุ่งหน้าแม่น้ำ เดินทางชิดซ้ายสุดนะครับ จะผ่านร้านที่ออกแนว Restaurant and Bar  

ร้าน Fire & Dine by wine republic ยังไม่เปิด
Fine & Dine By Wine republic
 Soul Shabu ก็ยังไม่เปิด
Soul Shabu
Aki Yoshi เปิดแล้ว แต่ดูเหมือนไม่เปิด  ผมว่าร้านที่อยู่ในโกดังเก่าพวกนี้ มีช่องเปิดน้อยมาก ทำให้ดูเหมือนว่ามันยังไม่เปิด

Aki Yoshi
 Flann O'Brien's Irish Pub เปิดแล้วครับ ทึบเหมือนร้านข้างบน

Flann O'Brien's Irish Pub
ร้าน Checkmate Bar & Bistro เปิดแล้วเหมือนกัน
Checkmate
Brasserie 9 ยังไม่ grand opening แต่วันนี้มีทำอาหารแจกแล้ว 

Brasserie 9
Brasserie 9
โกดัง 8 เป็น zone ที่ติดน้ำ แต่อย่างว่า ด้วยความทึบของโกดัง ทำให้อาจคาดหวังว่าคนในร้านจะเห็นวิวแม่น้ำ อย่างชัดเจนไม่ได้มากนัก 

ร้าน zone นี้ มี Happy fish , โกดังทะเล ,คาปรี เป็นต้น


ร้าน คาปรี Capri วันนี้มี ซื้อพิซซ่า 1 แถมหนึ่ง

Capri
ที่แปลงนี้ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ยาว 300 เมตร วิวงดงามมาก

วิวถนนริมน้ำ ที่ Asiatique

วิวถนนริมน้ำ ที่ Asiatique
 รูปพวกนี้ไม่ได้ปรับแสงด้วย Photoshop เลยครับ แค่ sharpen กับย่อขนาดมันเท่านั้น

วิวถนนริมน้ำ ที่ Asiatique

วิวถนนริมน้ำ ที่ Asiatique
ร้านขายของให้ ความรู้สึกคล้ายสวนลุมไนท์บาซาร์ แต่ก่อน แต่กว้างขวาง เป็นระเบียบ และดูดีกว่ามาก

บรรยากาศ
หิว ถ้าไม่อยากเข้าร้านอาหาร ก็มี โกดัง 6 ที่เหมือนเป็นโรงอาหาร ไว้ให้เป็นทางเลือกครับ  มีร้านเยอะเลย

โกดัง 6
ดูตามรูปละกันครับ

Kamlangsib Chichen rice


Ajisen , รสนิยม

 อาหารอินเดีย
Siam India

CoCo
ที่นี่มีรถรางให้บริการ  เดินไม่ดูมีสิทธิโดนรถรางชนเหมือนกัน

รถราง
ลงเอยมากินร้านนี้ครับ Kacha Kacha ร้าน อาหารญี่ปุ่นจากนาโกย่า  ร้านนี้มีบริกรเป็นคนญี่ปุ่นหลายคนเลยครับ  เข้าใจว่าเจ้าของก็เป็นคนญี่ปุ่นด้วย อันนี้ facebook ร้าน https://www.facebook.com/pages/KACHAKACHA 

Kacha Kacha
ร้านนี้ให้ความรู้สึก คึกคักมาก เพราะว่าลูกค้าเข้าออกร้านแต่ละที พนักงานก็เสียงดังต้อนรับลูกค้ากันทั้งร้าน

Kacha Kacha

Kacha Kacha

Kacha Kacha

Kacha Kacha
โกดัง 1

โกดัง 9
 รูปปั้นของสามท่านนี้ มีใครบ้างก็ไม่ทราบนะครับ
รูปปั้น
ร้านนี้ Anya Dharu Scent Library ร้านรวมกลิ่นหอม brand ของไทยครับ ผมชอบมากร้านนี้

Anyadharu
กลิ่นพวกนี้ ราคาตั้งแต่ขวดละ 200 ถึงขวดละ 700
Anyadharu

Anyadharu
ผมว่าที่นี่คล้ายๆสวนลุมไนท์บาซ่า ที่ย้ายมาอยู่ตรงที่ใหม่ครับ มีโรงละครหุ่นเล็ก โจหลุยส์ มาอยู่ด้วยยิ่งคล้ายเข้าไปใหญ่ครับ 

ติดอย่างเดียวที่ผมว่าตรงนี้เดินทางมาลำบากสักนิดสำหรับผม และที่จอดรถก็น้อยด้วยครับ

web ครับ  http://www.asiatiquethailand.com/ 

Asiatique



วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิวโรงแรม อลีนตา รีสอร์ตแอนด์สปา หัวหิน-ปราณบุรี, Aleenta Hua Hin-Pranburi

Aleenta
หยุดสงกรานต์ไม่เคยไปไหนได้ไกลมาหลายปีแล้วครับ ครั้งสุดท้ายที่หยุดสงกรานต์ที่ผมจะได้มีบุญวาสนาไปเมืองนอกกับเขามั่งนั้นครั้งสุดท้าย น่าจะเกิน 5 ปีแล้วนะครับ  ยุคนี้เราสามารถใช้ชีวิต" ให้เป็นที่น่าอิจฉา" ของคนอื่นได้ง่ายมาก ด้วยการแปะอะไรใน facebook ไง  ช่วงปีนี้เพื่อนผมใน facebook ไป ญี่ปุ่น กันเยอะมากๆครับเป็นชีวิตที่น่าอิจฉามากมาย  แต่ผมว่า อย่าทำตัวเป็นที่น่าอิจฉาเลย ผมว่าทำอะไรที่มัน "พอดี" น่ะครับ จะดีที่สุดสำหรับทุกๆคน ทั้งตัวเองและคนอื่น

ไปเที่ยวสงกรานต์ปีนี้ ระบุไปตั้งแต่แรกว่าจะไป Aleenta ครับ อลีนตาที่ปราณบุรี  เหตุผลที่เลือกไปที่นี่ก็เพราะว่า ที่หัวหินคงจะจอแจมากในช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้  และถ้าเลือกได้ ผมก็จะพยายามเลือกพักที่ที่ไม่ซ้ำเดิม เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาเขียนรีวิวด้วยไงครับ

อลีนตา ปราณบุรี ประกอบด้วยสองฝั่ง คือฝั่ง main wing และฝั่ง Frangipani wing ครับ ห่างไกลกันมากทีเดียว น่าจะเกิน 500 เมตรครับ (Frangipani wing คือฝั่งที่มีดอกลั่นทม มากมายมั้งครับ ที่รีสอร์ตนี้ทั้งสองฝั่งมี ต้นลั่นทมปลูกอยู่เยอะเหมือนกัน :ลั่นทม "การละแล้วซึ่งความโศกเศร้า")

Frangipani
ผมเดาว่า สมัยก่อนที่สองแปลงนี้มันคงจะมีเวิ้งอะไรสักอย่างอยู่ จนกระทั่งเกิดการถมที่ และสร้างเป็นโรงแรม Villa Maroc และบ้านพักอีกหลายหลัง ตรงพื้นที่ระหว่างทั้งสอง wings ของ อลีนตาครับ  ผมไม่ได้ไปพัก Villa Maroc หรอกครับ เพราะว่ามันแพงมาก ไม่มีปัญญาจะไปนอนได้  แต่ก็ยังอดสงสัยเรื่องถมที่ดินตรงนี้ไม่ได้สักที

Villa Maroc
Aleenta เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่เป็นเจ้าของส่วนตัว คือไม่ใช่ chain ของโรงแรมครับ โรงแรมนี้เป็นเจ้าของโดยบริษัท Akayrn Hospitality Management Service (AHMS) ที่เป็นเจ้าของและผู้บริหารโรงแรมอยู่สองแห่งได้แก่ อลีนตา หัวหิน ปราณบุรีแห่งนี้ และ อลีนตา ภูเก็ต พังงา ครับ   อดสงสัยไม่ได้อีกแล้วนะครับ ว่าตกลงจะอยู่หัวหิน หรือปราณบุรี  หรือจะ ภูเก็ต หรือพังงา จะเอายังไงกันแน่ ผมนี่ช่างสงสัยมากไปเปล่าครับ

คุณ อัญชลิกา กิจคณากร ท่านผู้ก่อตั้ง เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ตอนนั้นที่ตั้งใจจะเริ่มกิจการโรงแรม ก็แค่ตั้งใจจะวางแผนเกษียณ ให้ตัวเองครับ  ทำไปทำมาเลยกลายเป็นธรุกิจหลักจนถึงทุกวันนี้  ตอนนี้นอกจากจะเป็นเจ้าของ อลีนตาทั้งสองแห่งแล้ว ก็ยังไปรับบริหารโรงแรมให้คนอื่นในชื่อ อคิรา และอัคริน ครับ ชื่อยากๆทั้งนั้น

Lobby
สำหรับชื่่อ Aleenta เองนั้น ท่านบอกว่ามาจากภาษาสันสกฤตที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "A Rewarding Life" ครับ  โรงแรมนี้ เล็กๆและมีจำนวนห้องพักเพียง 23 ห้องเท่านั้น รวมสองฝั่งแล้วครับ  และนั่นเป็นอาจเป็นเหตุนึงที่ทำให้ราคาของห้องพักที่นี่ ค่อนข้างสูง (อย่างน้อยก็สำหรับผม) Aleenta เขาอยู่ในกลุ่มของ SLH หรือ Small Luxury Hotel of the world ด้วยนะครับ ในไทยมีอยู่ 21 โรงแรมที่อยู่ในกลุ่มนี้ และถ้าแถวๆหัวหิน ปราณบุรี มีแค่สองโรงแรมคือที่นี่และ AKA resort Guti Huahin   และโรงแรมนี้ได้รับคะแนนประเมินจากผู้คนที่เคยไปพักมาใน web agoda ที่ค่อนข้างคะแนนสูงมากทีเดียวครับ ก็เลยเป็นเหตุให้ผมอยากลองไปนั่นแหละ

มาดูห้องพักดีกว่าครับ ห้องนี้เป็นห้องฝั่ง Frangipani ครับ มีห้าห้อง ในห้องทุกห้องไม่มีโทรทัศน์ครับ และมี Ipod Dock ที่ผมชอบมาก กับมี Ipod รุ่นเก่า เสียบไว้ให้ตัวนึง  เครื่องนี้ไม่ support กับ Iphone รุ่นใหม่ๆครับ คือ charge ไฟไม่เข้า แต่เปิดเพลงอะเปิดได้อยู่


Ipod dock

เตียง

เตียง
ผมว่า บริเวณของห้องนี้ใหญ่เกิน คือห้องน้ำกับระเบียงใหญ่มากๆครับ สามารถพาเพื่อนมานั่ง party ได้ราว 6-7 คน ในขณะที่ห้องพักน่าจะพักได้ 2 คน กับห้องน้ำที่ใหญ่มาก แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำกับเขาหรอก พื้นที่ปล่อยให้ว่างเสียเล่นๆ ในห้องน้ำซะงั้นครับ  ก็เลยมีแต่ rain shower อย่างเดียว กับอ่างล้างมือสองอันใหญ่ๆ
Aleenta

Aleenta
กับสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่ว่ายน้ำอยู่หน้าบ้านของอีกสามบ้านด้านล่าง คนนั่งหน้าบ้านด้านล่างก็ไม่ส่วนตัว คนว่ายก็ไม่ส่วนตัวนะครับ

Frangipani
Frangipani
สมมติว่าผมอยากถ่ายรูปที่เดียวกันนี้ให้เป็น infinity pool ละ ก็ย่อมทำได้ แบบรูปนี้ มันคือสระเดียวกับข้างบน
Frangipani
ไปดูฝั่ง main บ้างครับ 
Aleenta Pran

Aleenta Pran

Aleenta Pran
จะว่า มี privacy ผมว่า ก็ต้องคิดดูสักนิดว่าจริงหรือไม่ครับ

ส่วนรูปนี้เป็นสระน้ำเล็กๆ ที่อยู่ตรงข้างกับที่กินข้าวเลยครับ ไม่ค่อย work นะ อย่างน้อยก็ในความคิดของผมอะนะ

Aleenta Pran
มาชม dinner ที่ Aleenta กันบ้างนะครับ โดยรวมถือว่า OK 

Dinner at Aleenta
 น้ำใน menu มีแต่ Vittel นะครับ ซึ่งราคาพอๆกะเบียร์เลยละ  ดีที่พนักงานมีใจบริการหาน้ำราคาปกติมาให้ดื่ม
Dinner at Aleenta
 ผักน่าจะมาจากแปลงผักปลอดสารพิษที่ทางรีสอร์ต ร่วมกับโรงเรียนในชุมชน ปลูกขึ้นมานะครับ  หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
Dinner at Aleenta

Dinner at Aleenta
แล้ว Aleenta จะเป็นที่ที่" สมบูรณ์แบบที่สุด" ในการพูดว่า "ฉันรักเธอ" "ผมรักคุณ" หรือจะพูดว่า "I want to be just here, with you." จริงหรือ  ถ้าเป็นแต่ก่อนผมว่าใช่เลย แต่ตอนนี้ ผมไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน

อาหารเช้ามั่งครับ ที่เดียวกัน น้ำผลไม้เขาใส่ไว้เป็นขวดๆแบบนี้

Breakfast at Aleenta
 วันที่สองเจอนมบูด ซะงั้น อาจเพราะว่าอากาศร้อน และเป็นช่วงเทศกาล  แต่ผมไปพักที่อื่นก็ไม่เคยเจอเช่นนี้แต่ประการใดครับ อาจเป็นคราวเคราะห์ของผมจริงๆ

Breakfast at Aleenta
 อาหารเช้าใช้วิธีสั่งเอาครับ  ข้อดีอย่างนึงของที่นี่คือ อาหารเช้าคนส่วนมากที่มา sweet กัน เขาสั่งเข้าไปมื้อเช้าบนเตียงกันเลยครับ และก็ดูทำดีเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ถ่ายมา

Breakfast at Aleenta
 Brie cheese
Brie cheese
ไข่ละลายอยู่บนขนมปัง มีสองแบบเหมือนกัน แบบนึงเป็นปลา แบบนึงข้างในเป็นผักขมครับ
Breakfast at Aleenta

Breakfast at Aleenta

Breakfast at Aleenta
แล้วตกลงไปดีอะเปล่า อันนี้ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลละกันนะครับ ผมเขียนไปตามที่ผมคิดเห็น ด้วยความรู้อันจำกัด และน้อยนิดของผมครับ  "ไม่มีโอกาสที่สองสำหรับ การสร้างความประทับใจแรก"ครับ

ขอทิ้งท้ายความประทับใจของที่นี่ไว้อย่างนึง ที่ประทับใจที่สุด คือความมีน้ำใจบริการของพนักงานทุกๆคนที่ผมได้สัมผัสและพบเห็นครับ

เชิญชมรูปในบรรยากาศสงกรานต์ได้ครับ สวัสดี

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta

Song Kran at Aleenta
อันนี้ facebook ครับ https://www.facebook.com/aleenta.pranburi
ส่วน twitter ก็ @AleentaResorts