วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รีวิว บ้านรมควัน เขาใหญ่ The Smoke House Khaoyai

The Smoke House Khaoyai
ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้ไปเขาใหญ่ นี้นานพอควรเลยครับ ครั้งล่าสุดที่ไป ก็คงเป็นตอนที่เริ่มทำ blog นี้ใหม่ๆ เลยทีเดียว ก็คือ ปลายปีที่แล้วใช่ปะครับ  ครั้งนั้น บ้านรมควัน หรือ The Smoke House เขาใหญ่ นี้ยังไม่เปิดเลยครับ  ไปครั้งนี้เขาเปิดแล้ว และก็ได้ยินว่า เปิดมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้แล้วครับ

จากการสอบถามผู้คนแถวนั้น ได้ความว่า ยามนี้ที่ บ้านรมควันนี้ ฮิตมาก ใครๆก็ต้องไปที่นี่ สำหรับผมนั้น ผมลองโทรไปจองดู ปรากฎว่าเขาไม่รับจอง และบอกให้ไปเร็วๆ เพราะไปช้าจะไม่มีที่นั่งได้ครับ  ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ  ที่นี่คนเยอะและฮิตมากครับ  สำหรับรีวิวของผม คงไม่เขียนอะไรมากเช่นเคย  เพราะที่แห่งนี้ เป็นที่ที่ฮิตที่หนึ่ง ที่ตากล้องจากทั่วมุมเมือง ต่างมารุมถ่ายรูปกันที่นี่ ทำให้ผมรู้สึกไม่มีกำลังใจจะถ่ายรูปอะไรมากครับ  เอาว่า พอประกอบคำบรรยายก็พอ

สมัยเด็กๆ ผมไม่ชอบไปภูเขาเลย ไม่รู้จะไปทำไม เพราะไปทะเล มันมีที่เที่ยวเล่นเยอะกว่ามากมาย  ผมเริ่มไปเขาใหญ่ครั้งแรกเมื่อราว 6 ปีที่แล้วนี่เอง ครั้งนั้นที่พักก็ยังไม่มีมากนัก รวมทั้งร้านอาหาร ก็มีแต่ร้านเล็กๆริมทาง เช่นร้าน ดังอย่าง ครัวเขาใหญ่ หรือ ร้าน Country kitchen อะไรพวกนี้ครับ ซึ่งก็เป็นร้านเล็กๆเอง  จนต่อมา Primo posto (รีวิวของผมในปี 2009)  ก็เปิดขึ้นมา ที่นี่เปิดไม่ใหญ่นัก  เปิดไปเปิดมาด้วยความแปลกใหม่ทำให้คนมาจนแน่นไปหมด พาหมดสนุก

The Smoke House Khaoyai
ต่อมาอีก ไม่เกินปีกระมัง ก็มีอีกที่นึงที่ฮิตมากเปิดขึ้นมา อันนี้คือที่ Palio เขาใหญ่ เปิดบนถนนธนะรัชต์ เลย ซึ่งมีรถทัวร์ รถอะไรไม่รู้ไปลงกันเต็ม และก็มีตากล้อง กะนางแบบ ไปกันเยอะแยะไปหมดอีก ประกอบกับถนนที่ตรงด้านหน้านั้น ก็เป็นแค่สองเลน ทำให้การจราจรบริเวณนั้น ติดขัดมากๆครับ

The Smoke House Khaoyai
ทีนี้ เปิดใหม่อีกที่ครับ มีรูปลักษณ์แปลกใหม่อีกแล้ว คือเป็นปราสาท สีดำๆ เหมือนอย่างชื่อนั่นแหละที่ว่า ปราสาทรมควัน คือจริงๆแล้วต้องการจะสื่อว่า เป็น "ปราสาท" ที่เน้น อาหารประเภท "รมควัน" ส่วนตัวปราสาท ก็พลอยโดนรมควันไปด้วย เลยมีสี เทาๆ

บ้านรมควัน เขาใหญ่

บ้านรมควัน เขาใหญ่
ที่นั่ง มีทั้งด้านในและด้านนอกครับ ด้านนอกมีเวทีแสดงอยู่ด้านล่าง และโต๊ะรับประทานอาหาร ลดหลั่นกันไปเหมือนเป็นเวที ชมการแสดงกลางแจ้งได้เลย  ส่วนด้านในก็มีที่นั่ง และก็มีแสดงสดเหมือนกันครับ ดนตรีด้านนอกนี่มา ราวๆ 1 ทุ่ม

ด้านในบ้านรมควัน
ด้านในมีขาย wine ซึ่งเขียนชัดเจนว่า wine connection มีขาย เค้ก มีขายขนมและผลิตภัณฑ์อาหารเล็กๆน้อยๆครับ
เค้ก บ้านรมควัน

ของขาย บ้านรมควัน
สำหรับอาหารนี่ผมอยากใช้คำเข้าใจให้ง่ายว่า เขายก ร้านที่กรุงเทพ มาไว้ที่ เขาใหญ่นี่เลย ทั้งรสชาติ รูปแบบ และชนิด และน่าจะรวมทั้งคนกิน ก็ด้วยที่ยกมาจากกรุงเทพ ยกมากินกันถึงเขาใหญ่นี่ แทนที่จะไปกินที่กรุงเทพกัน ผมขอให้ท่านเชิญชมรูปอาหาร และเครื่องดื่มของที่ร้านนี้ได้ โดยไม่ขอบรรยายครับ เพราะมัน "เหมือนกรุงเทพ" เลย






The Smoke House Khaoyai
ครับ เป็นการยากที่จะไม่ให้ความเจริญเข้าไปถึงครับ เมื่อมีลูกค้าไป ก็จะมีผู้ประกอบการตามไป การอนุรักษ์กับการพัฒนา จะไปด้วยกันได้หรือเปล่า เป็นคำถามชวนให้คิดไม่น้อยครับ

ร้าน Smoke House ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ครับ  ตรงส่วนที่เขาขยายถนนเป็น สี่เลน แล้วครับ  ส่วนที่เหลือขยายไปไม่สุด เพราะโดนคนต่อต้านเสียก่อนครับ

การขยายถนนหยุดลงเมื่อมีคนบอกว่า ไปตัดต้นไม้ใหญ่ครับ การรักธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดี แต่แค่การไม่ให้ขยายถนน แต่ก็ปล่อยให้ธรุกิจต่างๆ เติบโตมากมาย ซึ่งบางแห่งก็รุกป่า เสียด้วยซ้ำไป ก็เป็นการทำลายธรรมชาติ เช่นกันครับ แล้วคนไปกันเยอะแยะ รถก็ติดมากๆ ด้วยครับ  ดังนั้นผมเขียนเท่านี้ดีกว่า เดี๋ยวจะก้าวล่วงไปไกลเกินไปอีกครับ

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รีวิวโรงแรม Asara Villa & Suite Huahin - อัสสรา หัวหิน ,"Surround yourself in pleasure"

"ดีใจจังที่ได้ไป" เป็นคำแรกที่แวบ เข้ามาในหัวขณะที่ผมกำลังจะเขียนบทความอันนี้ โรงแรมที่หัวหินมีเยอะแยะเลย แต่ในจำนวนนั้นมีไม่กี่แห่งที่ทำให้ผมรู้สึกเช่นนี้ครับ  ครับเรากำลังจะมารีวิวโรงแรม Asara อัสสรา หัวหินกัน

โรงแรมนี้ตั้งอยู่หัวหินซอย 5 เลยอุโมงค์ของสนามบินไปนิดหน่อย ก็อยู่ทางซ้ายแล้วครับ ก่อนถึง อนันตารา ระวังเลยได้ครับ เพราะทางเข้าก็เห็นไม่ชัด (อันนี้รีวิวอนันตารา ของผม เมื่อปีก่อน)  ลักษณะของพื้นที่ของโรงแรมแห่งนี้ ก็เป็นยาวๆ คือหน้าติดหาด แคบเมื่อเทียบกับความยาวของโรงแรมครับ แต่ก็กว้างมากพอที่จะทำให้ไม่รู้สึกว่ามันแคบเกินไป กะด้วยสายตา คงจะราว 60-80 เมตร กระมังครับ


welcome drink
ผมเห็นรีวิวโรงแรมนี้ของท่านอื่นที่เขียนเอาไว้หลายๆท่านแล้วครับ เอาว่าผมเขียนไปแค่พอประมาณก็พอแล้วกันงั้น  โรงแรมแห่งนี้ได้รับรางวัลมากมายตั้งแต่เปิดทำการมาคิดว่า 2009 มั้งครับ รางวัลที่ได้ ก็ได้ แก่ world luxury hotel award winner 2010 , รางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชนะเลิศปี 2010 , Gold class winner for green hotel 2009 และรางวัลอื่นๆมากมายครับ

lobby Asara
อัสสรา
ห้องของ อัสสรา มีแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ โดยมา lobby ขั้นกลาง คือ zone ที่ติดหาด กับ zone ที่อยู่หลัง lobby คือ เรียงอย่างนี้ครับ หาด  zone ติดหาด  lobby แล้วก็ zone ด้านหลัง ห้องพักทั้งหมดรวมราว 80 ห้อง แบ่ง zone ละครึ่งๆครับ

ห้อง zone ติดหาดจะเป็นห้อง pool villa ส่วน zone ด้านหลังเป็นห้อง deluxe suite กับ ห้อง Holiday suite ซึ่งห้องที่ผมพักครั้งนี้เป็นห้อง แบบถูกสุดครับคือ Holiday Suite

ห้องที่นี่ราคาเริ่มต้นตามโบรชัวร์ เริ่ม 9500 บาท ส่วนแพงสุด president villa อยู่ที่ 79000 บาท ต่อคืนทีเดียวครับ ห้องแบบ Holiday suite ของที่นี่ ก็ราคาเท่า pool villa ของ evason Huahin เลยครับ ราคาเอาเรื่องอยู่

ไปดูภายในห้องครับ ห้องใหญ่ทีเดียว ห้องน้ำก็ใหญ่ด้วย
Holiday Suite @ Asara

Holiday Suite @ Asara
 ห้องน้ำขนาดใหญ่โต มีอ่างด้านใน มีฝักบัวด้านในห้อง หรือจะไปอาบ rain shower ที่ข้างนอกกลาง แบบ Topless ก็ได้
Holiday Suite @ Asara

Holiday Suite @ Asara

Holiday Suite @ Asara
โดยรวมแล้วผมว่า ห้องโอเคครับ จะติก็มีนะ แต่ผมข้ามไปแล้วกันครับ ถือว่าได้ตามที่คาดหวังแล้วกันครับ
สระน้ำ กับบ่อน้ำ ก็มีสองที่ไปด้วย อย่างที่ว่าคือมี Lobby เป็นตัวขั้นกลางครับ

อันนี้สระน้ำด้านไม่ติดหาด ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กไป

สระน้ำด้านใน
บ่อบัว
บรรยากาศรีสอร์ตโดยรวม ร่มรื่นมาก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าได้เหมือนกัน บางคนไม่ชอบก็บอกว่า น้ำพวกนี้มันเพาะยุง แมลง อันนั้นก็แล้วแต่จะมอง แต่ผมว่ามันธรรมชาติดี

ข้ามๆรูปบ้างแล้วกันนะครับ ต่อไปพาไปดูสระน้ำด้านหน้า กับแปล และต้นก้ามปู ที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ กับร้านอาหารด้านหน้าหาด ร้านอาหาร ก้ามปู ครับ ชื่อเดียวกับต้นไม้

สระด้านหน้านี่กว้างตลอดความกว้างของรีสอร์ตเลย มีทั้งสระเด็ก สระว่าย และอ่างแช่ คือผมชอบที่นั่งแช่ของที่นี่มาก เพราะมันมีที่นั่งที่อยู่ในช่องที่มีต้นไม้ให้ความร่มเงาด้วยครับ ไม่ร้อนดีเวลากลางวัน  ลองไปหาช่องที่ว่านี้ดูครับ


สระว่ายน้ำ

อาคารห้องอาหาร

ข้ามมาอีกที มาอาหารเย็นเลยที่ห้องอาหารก้ามปู ห้องอาหารก้ามปูนี้ มีสามแบบคือ ก้ามปู Lounge เป็น สำหรับนั่งดื่มนิดหน่อยก่อนทานอาหาร  ก้ามปู by design เป็น all day dinning room ทานอาหารเย็น อาหารเช้าก็ที่นี่  และ ก้ามปู by choice เป็น dinner แบบ full course ครับ อยู่ชั้นสองของอาคาร

อาหารเช้าที่ก้ามปู

ก้ามปู by design
 ห้องอาหารก้ามปูนี่ ไม่ใช่แขกก็มาทานได้ครับ หากเป็นแขก เข้าใจว่าได้ส่วนลด 20%  อร่อยดีครับ พอๆกับร้านอาหารชั้นดีในกรุงเทพ หรืออร่อยกว่าบางร้านครับ ส่วนอาหารเช้าก็ทานที่นี่เหมือนกัน

ก้ามปู by design

menu ก้ามปู

กั้งกับชีส

หอยเชลล์อบ
 อาหารเช้า
อาหารเช้าที่ก้ามปู
คงเขียนแค่ประมาณนี้ครับ  ขอสรุปกันอีกที โรงแรมนี้จัดอยู่ในขั้นแพงกว่าที่อื่น แต่สิ่งที่ได้ ก็ถือว่าพอสมควรกับเงินที่ใช้ไปครับ โดยรวมร่มรื่นธรรมชาติมาก พนักงานก็ดูแลดี สุภาพ และถูกฝึกมาเป็นอย่างดี
โรงแรมนี้ทำให้ผมนึกเทียบกับ เอวาซอน หัวหิน เพราะว่าที่นี่ร่มรื่นคล้ายๆกันครับคงไม่ติอะไรแล้วมั้งครับ ถ้าจะติก็คงบอกว่าราคาสูงจังครับ

อันนี้ website ของโรงแรม Asara Huahin ครับ  http://www.asaravilla.com/


EST.33 by Singha ( สาขา The nine พระรามเก้า )

EST.33 by Singha
เกือบปีกว่าๆ ที่ผมเขียนเรื่อง ร้าน EST.33 ที่ CDC และมันก็เป็น บทความของผมที่มีคนอ่านมากที่สุดในบทความทั้งหมดที่เขียนมา ไม่ว่าอยู่ที่ไหน คือใกล้ ราว 1 แสนวิวแล้วครับ แสดงให้เห็นถึงความ ฮิตของร้านนี้ได้เป็นอย่างดี  ตอนนี้เปิดสาขาสอง ที่ The nine พระรามเก้าแล้วครับ ที่ The nine มีร้านที่เกี่ยวข้องกับเครือ สิงห์ เต็มไปหมด รวมทั้งร้าน EST.33 นี้ด้วย เปิดตรงหัวมุมของ The nine

ผมคงไม่เขียนอะไรมากสำหรับบทความนี้ เพราะที่นี้ฮิตอยู่แล้ว และตอนนี้สาขานี้เพิ่งเปิดมาได้เดือนกว่า ก็แน่นอีกแล้วครับ

ข้อต่างของสาขานี้กับสาขาที่ CDC คือ
1. เมนูไม่เหมือนกัน
2.ร้านอาจจะใหญ่กว่า แต่ด้วยลักษณะของอาคาร ที่ไม่เหมือนที่ CDC ที่มีเวิ้งน้ำอยู่ด้านหน้า ทำให้ คนที่มาร้านนี้จะรู้สึกว่าร้านแคบกว่าร้านที่ CDC ครับ

นอกนั้นก็เหมือนๆกันแหละครับ วงดนตรีสดที่มาเล่น ก็มาจากเครือๆ ของสิงห์นี่แหละ บางวงมาจาก CDC เลยมั้ง


เบียร์มีสามแบบครับ คอปเปอร์ ลาเกอร์ เบียร์ดำ เรียงตามลำดับในรูป  ส่วนคำอธิบาย เปิดอ่านได้ใน menu ข้างล่างรูปถัดไป

เบียร์ EST.33

เมนูเบียร์ EST.33
เมนู EST.33 ร้านนี้ไม่เหมือนสาขา CDC ครับ  เป็นเมนูอาหารไทยผสมๆกับฝรั่ง  บางคนเขาก็ว่าจืดนะ  ผมเคยไปทานกับเพื่อนที่ร้าน CDC เพื่อนบางคนก็บอกว่าจืด ไม่อร่อยเลย  แต่ผมไม่ชอบกินเผ็ด ผมก็ว่า มันก็ดีครับ ร้านนี้รสก็ออกแนวๆเดียวกัน

เมนู EST.33
อาหารที่ผมสั่งในวันที่ถ่ายรูปชุดนี้ มีดังนี้ สปาเกตตี้ลาบ
สปาเกตตี้ ลาบ
 กุ้งแช่เบียร์ อันนี้ น้ำมีรสออกเบียร์ๆ เลย
กุ้งแช่เบียร์
 ตัวนี้ น่าจะเป็น สลัดอกเป็ด อาหารแนะนำอีกอย่าง
สลัดอกเป็ด
บรรยากาศภายในร้านครับ ก็ประมาณนี้ โต๊ะ ออกจะติดๆกันทีเดียว และตรงหัวมุมจะเห็นว่ามีแท่นเล็กๆ ไว้ให้นักดนตรี แสดงตรงนั้น
วงเล่นดีเหมือนกันครับ แต่วันที่ไปหัวค่ำเกิน วงยังไม่มา

บรรยากาศภายใน EST.33 The nine
ครับ ก็สั้นๆ สำหรับ EST. 33 by Singha ที่ The nine แห่งนี้ครับ แวะไปทดลองได้ ช่วงนี้เพิ่งเปิด บางวันก็มีโปรโมชั่นอาหารครับ ลองสอบถามทางร้านดูครับผม

EST.33 The nine พระรามเก้า
เพิ่มเติมครับ ร้าน HOBS , ร้าน Red Sun

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บ้านผางาม , เมืองผจญภัย จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งทะเลหมอกวังน้ำเขียว

บ้านผางาม
เพิ่มคำอธิบายภาพ
บ้านผางามแห่งนี้ เกิดขึ้นในช่วงปีวิกฤตเศรษฐกิจ คือปี 2540 นั่นเอง และถึงวันนี้ก็ เปิดบริการมา 14 ปีได้แล้วครับ

ที่แห่งนี้เคยลงหนังสือมามากมาย เคยผ่านการถ่ายทำละคร ถ่ายรายการต่างๆมานับไม่ถ้วน จนเมื่อไม่นานมานี้ ก็ตกเป็นข่าวดังอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ อยู่ๆ เจ้าหน้าที่ ก็มาฟิต มาตรวจรีสอร์ต ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และเอาป้ายมาติด ว่าให้รื้อถอนออกไปภายใน เดือนกันยายน 2554 นี้ มิฉะนั้น เจ้าหน้าที่จะมารื้อเอง  แถมวันที่มา ได้ยินว่า มากันสองร้อยกว่านาย สนธิกำลังมาเหมือนมาจับผู้ก่อการร้ายอะไรกันที่นี่ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ที่นี่ และเกิดอะไรขึ้นกับ เจ้าหน้าที่  เนื่องจากผมไม่รู้ ผมก็เลย ไม่สามารถให้ความเห็นต่อไปกว่านี้ได้  เพียงแต่จะบอก เป็นการทั่วๆไปว่า กระแส สังคม เวลาพัดไปที่ไหนแล้ว จริงไม่จริงไม่สำคัญ แต่คน โดนกระแส มักจะได้รับความเสียหายไปอย่างมากครับ  ผู้คนมักเชื่อ อินเตอร์เนต เชื่อการฟังต่อๆกัน ทั้งๆที่ มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุด

ผมเพิ่งจะได้กลับไปวังน้ำเขียว ครั้งแรกในรอบสองปีเลยมั้ง ทั้งๆที่ก่อนนี้ผมชอบไปวังน้ำเขียวมาก  อากาศดี ไปหน้าฝนอย่างนี้ จะเห็นทะเลหมอกทุกวันเลยครับ บรรยากาศหลังฝนตกมันทำให้ ป่า ดูเขียวไปหมด และหมอกก็จะมาอยู่บนยอดเขาที่ต่ำลงไป โดยเฉพาะจุดชมวิว ที่บ้านผางามนี่ นับเป็นจุดที่สวย โดดเด่นที่หนึ่งทีเดียว

ทะเลหมอก ที่บ้านผางาม
สิ่งที่จะได้พบในบ้านผางามแห่งนี้ คือธุรกิจ พ่อแม่ลูก ของครอบครัว  วุฒิกานากร  บ้านนี้เรียนเก่งกันทั้งบ้าน ถ้าไปที่นี่ผมเชื่อว่าคงได้เจอพ่อแม่ลูก เดิน ดูแลแขก รวมทั้งแสดงกิจกรรมต่างๆด้วยตัวเอง อยู่เกือบทุกวันมั้งครับ แต่เดิมที่แห่งนี้ เป็นที่รกร้าง มีอาคารเก่าๆอยู่หลังนึง จนกระทั่งครอบครัวนี้ ได้เข้ามาบุกเบิก และปลูกต้นไม้ลงบนที่แห่งนี้เอง และทำเป็นที่ััพักขึ้นมาครับ ตอนนี้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ ก็โตมากแล้ว

ผมได้ไปที่นี่เพราะที่ทำงานเขาจัด สัมมนา ที่นี่พอดี ที่นี่มีห้องสัมนาด้วย และก็มีพื้นที่กิจกรรมไว้ให้ทำ Team building ได้ดีมากๆเลยครับ แต่ห้องพัก กับอาหาร ก็คงไม่ได้สวยหรูเหมือนรีสอร์ตสำหรับคู่รักหรอกนะครับ บ้านพักมีหลายแบบครับ ผมไม่ได้ถ่ายมาหมดถ่ายมาแต่ห้องที่ได้ไปนอนครับ

ห้องพักบ้านเคียงดาว
ผมไปพักที่บ้านเคียงดาว ที่ชั้นบน พนักงานกลุ่มใหญ่ก็ไปนอนที่ห้องนอนรวม 
บ้านเคียงดาว
ส่วนห้องที่วิวน่าจะสวยที่สุดคงเป็นห้องพราวหมอก หรือพวก VIP ริมผากระมังครับ ไม่ได้พักครับเลยไม่แน่ใจ
บ้านผางาม
ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจาก บ้านผางามตั้งอยู่บนเขา น้ำในห้องน้ำไหลไม่ค่อยแรงเลยนะครับ
จุดเด่นของที่นี่ไม่ได้อยู่ที่ห้องพัก แต่อยู่ที่ วิว และ กิจกรรมครับ มีกิจกรรมน่าสนุกให้เล่นเยอะเลย
กิจกรรมที่บ้านผางาม
ไต่หน้าผา
ไต่หน้าผา

กระโดดหอ
กระโดดหอ
และกิจกรรมอื่นๆที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา  ที่นี่มีโดนสลิงอันนึงครับ ใส่แล้วเหมือนเหาะได้เลยนะ  ที่เห็นเป็น หอสูงๆนั่นอะครับ


ตอนกลางคืนมีโชว์ กระบองไฟ โดยเจ้าของและลูกเจ้าของ และคณะ :D

โชว์กระบองไฟ
โชว์กระบองไฟ

และที่นี่ ก็เคยมีดารามาถ่ายทำรายการต่างๆ รวมทั้งถ่ายละคร กันมากมาย


ส่วนตอนเช้าก็มี ปาท่องโก๋ มาทำกันแบบนี้เลย แต่อาหารไม่ใช่ set แบบโรงแรมนะครับ ออกแนวโรงอาหาร แต่ก็อร่อยดีครับ :D

ปาท่องโก๋
อาหารก็มาทานกันที่อาคารนี้ครับ

อาคารบริการ บ้านผางาม
สุดท้ายแล้วครับ  ผมเพิ่งเคยได้ไปที่แห่งนี้ครั้งแรก และก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน ถ้ามันจะต้องปิดไป จริงๆในเดือนหน้านี้  ผมไม่มีความเห็นอะไรในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทุกๆคนควรทำคือการ "ทำสิ่งที่ถูก" ครับ ไม่ใช่ "ทำให้มันถูก"

บ้านผางาม
Web โรงแรม http://www.pangam.com