วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

รีวิว ร้านอาหาร Bacco : Ostoria De Sergio สุขุมวิทย์ 53 "The Italian Tradition in the hands of experts"

Bacco Restaurant and wine bar
ร้าน Bacco ตั้งอยู่ที่สุขุมวิทย์ 53 เป็นซอยที่้ก่อนถึงซอยทองหล่อซอยนึงครับ มันทะลุกันได้สองซอยนี้ หากเข้าทางด้านสุขุมวิทย์ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ โดยมีที่จอดรถอยู่ตรงข้ามกับร้าน แต่หากที่จอดไม่เพียงพอ ก็ขับเลยไปอีกหน่อยนึง จะมีลานจอดขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือของซอย ที่จอดรถกว้างใหญ่เหลือเกิน

ผมไปร้านนี้โดยไม่มีความรู้อะไรเลย และก็อย่างที่เคยเขียนเป็นประจำว่า ผมก็ไม่ได้พยายามจะทำตัวเป็นผู้รู้อะไรอยู่แล้ว ความตั้งใจของการเขียนเรื่องพวกนี้ ก็คืออยากให้ผู้อ่านของผมได้ทราบมุมมองของร้านต่างๆ จากลูกค้า ธรรมดาๆ ไม่ใช่มุมมองของเทพ ไปแล้ว ก็สั่งอาหารแบบงกๆ เงิ่นๆ นะครับผม เรามาลองตามดูมุมมองในเรื่องนี้กัน

ร้าน Bacco สุขุมวิทย์ 53
ร้าน Bacco นี้ เป็นร้านอาหารอิตาเลียนครับทุกสิ่งทุกอย่างเลยเป็นภาษาอิตาเลียนไปด้วย เช่น ชื่อร้านเนี่ย Bacco เป็นชื่อเรียกของ Bacchus ผู้ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสุราเมรัย หรือเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว ตัวเทพ Bacco นี่เองเป็นตัวแทนของอะไรก็ตามที่ไม่อยู่ในกระแสหลัก ท่านเป็นเทพตัวแทนแห่งความสับสนวุ่นวาย ความอันตราย และทั้งหลายทั้งปวงที่มนุษย์ควบคุมไม่ได้ และต้องปล่อยให้เป็นไปตามพระประสงค์แห่งพระเจ้า แค่ชื่อร้านก็มันส์แล้ว

ส่วนคำว่า Ostoria หมายถึง ร้านนั่งดื่ม หรืออะไรดีละ pub restaurant ได้ไหมครับ ผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร บางท่านถึงกับเอ่ยปากว่า ในกรุงเทพนั้น มีร้านอาหารอิตาเลียนมากมาย แต่มี Bacco นี่แหละที่เป็น Ostoria แห่งแรกในกรุงเทพ เลยทีเดียว ว่ากันถึงขนาดนั้น ส่วนสุดท้าย De Sergio แปลว่า by Sergio หรือ โดย Chef พ่อครัว เซอร์จิโอ ครับ ท่าน Chef เจ้าของร้าน 

ร้าน Bacco นี้มองจากภายนอกจะดูไม่ใหญ่ครับ แต่พอเข้าไปจะพบว่าร้านใหญ่มาก นั่งได้ 200 กว่าคนละมังครับ  ภายในร้านมีทั้งที่มาเป็นครอบครัว มาเป็นคู่รัก และร้านนี้มีชาวต่างชาติมาทานเยอะมาก อาจเพราะทำเลที่อยู่ของมันก็เป็นได้  

รูปเหล่านี้คือบรรยากาศภายในร้านครับ

counter bar
ภายในร้าน Bacco สุขุมวิทย์ 53

ภายในร้าน Bacco สุขุมวิทย์ 53
ต่อไปเป็นรายการอาหารกับ wine list ครับ ผมรู้ว่าค่อนข้างไร้สาระ แต่ผมก็อยากให้ดู ผมไม่อยากตัดรุปไหนออกไปเลยนะ โดยเฉพาะคำที่เขียนอธิบายเรื่อง Becco ไว้ใน wine list

menu ที่ Bacco

wine list ที่ bacco

ประวัติ Bacco
สำหรับอาหารที่ผมสั่งครั้งนี้้มีสี่อย่าง คือ Fiore เป็นสลัดในจานแป้ง แล้วก็สั่ง pasta สองอย่าง กับ โฟกรา จานหนึ่งครับ ผมสรูปสั้นๆ เลยครับเพื่อความเข้าใจง่าย  คือ  มัน "อร่อยมากๆ" ทุกอย่างเลยครับ ไม่แปลกใจที่ลูกค้าร้านนี้เยอะ และล่าสุดขยายสาขาไปที่ sport club , ที่ Blue deck แถวกิ่งแก้ว และที่ Toscana เขาใหญ่ ก็มีสาขาของ Bacco แล้วนะครับ อาหารที่ผมชอบมาคือตัว Fiore นี่แหละ ผักเขาสด สลัดใส่เม็กทานตะวันกะผลพีชอยู่ด้วยกัน ให้ความกลมกล่อมอย่างมาก

มาดูรูปอาหารกันเลยครับ
Fiore

Foie gras


Lasagna

Spaghetti  
 ส่วน choice ของ wine คราวนี้ต้องเป็น Wine Italian อยู่แล้ว ผมเลือก  wine Chianti จากแคว้น Tuscany ของอิตาลีตัวนี้มาลองดู ( ที่จริงผมว่าผมเลือกผิดพลาดนิดหน่อยนะครับ แป่วว) ท่านที่มีความสามารถกว่าผมมาช่วยสอนผมเลือก wine ก็ได้นะ เพราะผมเลือกมั่วจริงๆ

Santa Christina Chianti Superiore
ตบท้ายด้วยของหวาน ต้อง Tiramisu อยุ่แล้ว ใช่ปะครับ แต่ผมว่ามันหวานจังนะครับ หรือเพราะผมไม่ชอบหวานก็ไม่รู้นะ
Tiramisu
เมื่อทานเสร็จแล้ว ทางร้านจะมี Limoncello (หรือ น่าจะเรียกว่า เหล้ามะนาวเปล่าครับ) มาให้ดื่มล้างปากและช่วยย่อยอาหารครับ

สรุปครับ ร้าน Bacco อาหารนี้อร่อยมาก เหมาะกับจะมาเป็นครอบครัว หรือจะมากับเพื่อนฝูง หรือจะมากับแฟนก็ได้ บรรยากาศ ok  ไม่คับแคบแออัด ส่วนราคาก็คุ้มค่ากับเงินครับ ลองไปนะครับ นี่ web site ของร้าน http://www.bacco-bkk.com/

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

รีวิว Holmes Pub เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา " Let's Party at Holmes"

การรีวิวครั้งนี้เป็นครั้งแรก และครั้งเดียวตั้งแต่เริ่มทำการีวิวมา ที่เป็นการรีวิวโดยที่ผมได้ไปรับประทานฟรี และเดินไปที่ร้านโดยบอกว่า มีวัตถุประสงค์จะไปรีวิวนะครับ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ห้ามผมจากการที่จะเขียนอะไรแบบตามใจตัวเอง และเขียนตามที่เป็นจริงไปได้ ซึ่งทางท่านเจ้าของร้านและผู้ที่เกี่ยวข้องในงานนี้ ก็ได้รับทราบความ "เอาแต่ใจ" ของผมแล้ว และท่านก็ยินดีที่จะให้ผมนำมาเขียนได้ตามใจ และมาลงก่อนที่จะนำไปพิมพ์ในสื่ออื่นๆต่อไป

ร้าน Holmes Pub ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา ถนนเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา ขับรถมาจากทางด่วนให้ลงที่ทางลงเกษตร นวมินทร์ แล้วกลับรถ ซอยจะอยู่ทางซ้ายครับ ขับเข้าซอยไปเล็กน้อยก็เห็นร้านแล้ว

ร้านแห่งนี้เพิ่งเปิดได้เมื่อปลายปี 2010 ที่ผ่านมานี้ โดยผู้บริหาร และผู้ลงทุนที่ไม่ใช่มือใหม่ที่ไหนเลย แต่ท่านคือท่านเจ้าของเดียวกับร้าน Spring ที่โด่งดังที่อยู่ในซอยเดียวกันนั่นเอง ( ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อร้านเป็น am in ซึ่งก็ยังเป็นเจ้าของเดิมเดียวกันอยู่ดีครับ)

สำหรับร้าน Holmes ร้านนี้ ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าจะให้เป็นร้านสำหรับ Party ชวนเพื่อนมาสังสรรค์ อยากให้ได้ความรู้สึกเหมือนการมาเที่ยวเล่นที่บ้านเพื่อน ดังนั้นบรรยากาศร้านจึงเป็นเหมือนบ้านครับ ทั้งภายในและภายนอกร้านเลยทีเดียว อันที่จริงชื่อก็สื่ออยู่แล้วนะว่า Holmes แปลว่าบ้านในภาษาฝรั่งเศส เข้า concept อย่างที่ผมจั่วหัวไว้นั่นแหละครับว่า " Let's Party at Holmes"


ร้าน Holmes

ร้าน Holmes เอกมัยรามอินทรา
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งให้เป็นแบบบ้านเลยครับ ด้านหน้าร้านมีโต๊ะ pool เข้าไปหน่อย ทางซ้ายจะมีห้องที่มีกระจกอยู่ข้างหน้าไว้สำหรับให้ท่านสุภาพสตรี ดื่มไป ดูกระจกไปกันเลยทีเดียว ดูรูปประกอบโดยการกด click ที่รูปนะครับ
บรรายากาศภายในร้าน Holmes เอกมัยรามอินทรา


ห้องนั่งในส่วนหน้าร้าน

ห้องนั่งหน้ากระจก
ร้าน Holmes Pub มีดนตรีสดทุกคืน โดยด้านนอกเป็นวง Acoustic
ดนตรี Acoustic ด้านนอก
ส่วนด้านเวทีด้านในนี้มี house band เล่น อย่างที่เห็นในรูปครับว่าร้านนี้สามารถจัดงานเลี้ยงได้สบาย อย่างห้องด้านในนี้ จะจัดงานเลี้ยงรุ่น เลี้ยงวันเกิด เลี้ยงแต่งงานอะไรก็จัดได้ ผมประมาณจากสายตาคร่าวๆ ห้องด้านใน หน้าเวทีนี่ สามารถจุคนได้แบบ 100 คนแบบไม่เบียดกัน หรือจุได้เต็มที่ น่าจะถึง 200 คนร้านเขาก็รับจัด private party นะครับ แต่อย่าให้ต้องเบียดกันเลย ขอร้อง แน่นนักก็ไปร้านอื่นนะครับ อันตราย

โดยรวมผมว่าร้านใหญ่ครับ พื้นที่มากมาย นอกจากนี้ยังมีชั้นลอยอีกซึ่งผมไม่ขอนำมาลงปล่อยให้ไปดูกันเองบ้าง

ภายในร้าน Holmes

ภายในร้าน Holmes
มาดูอาหารกันมั่งครับ อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าร้านนี้ เป็น Party House เจ้าของคาดหวังว่าคนจะทานอาหารมาแล้ว แล้วก็มาต่อที่ร้านนี้ อะไรประมาณนั้น ผมจึงไม่ได้คาดหวังอะไรนักกับอาหารของที่นี่ เพราะนึกว่าจะมีแต่กับแกล้มกับอาหารง่ายๆ  แต่ปรากฎว่าผิดคาดครับ อาหารที่นี่แม้เมนูจะไม่เยอะ แต่ก็เป็นเมนูที่คัดมาแล้วจากร้าน Springs ว่ามันจะต้อง "โดน" ทุกอย่าง ซึ่งวานนี้ที่ผมคุยกับท่านผู้เกี่ยวข้องผมก็คุยกันแล้วละ ว่ามันผ่าน ฉลุย ครับ สำหรับอาหาร

ยำ Holmes

ต้มแซ่บกระดูกอ่อน

ไส้กรอกรวม

ปูนิ่มทอดกระเทียม
สรุปครับ ต้องผ่านอยู่แล้ว ไม่ผ่านผมไม่เอามาลงหรอกครับ ร้านนี้เหมาะที่จะมา party กับเพื่อนฝูง จะจัดงาน private party ก็เหมาะอย่างยิ่ง เพราะมีที่จอดรถพอสมควรครับ ส่วนเรื่องอาหารก็ใช้ได้ทีเดียว
อันนี้คือ website ของร้านครับ http://www.holmespub.com/

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

รีวิว ร้านโชคชัยสเต็กเบอร์เกอร์ CHOKCHAI STEAKBURGER "อร่อยกว่าที่คุ้นเคย"

ถ้าถามผมว่า รีวิว ร้านโชคชัยสเต็กเบอร์เกอร์ CHOKCHAI STEAKBURGER ทำไมเนี่ย มันไม่ใหม่ ไม่พิเศษอะไรเหมือนร้านอื่นๆที่เคยทำมาสักหน่อยเดียวเลย ผมตอบง่ายมากครับ สาเหตุเดียวที่ต้องเอามาลง เพราะว่ามันดี มันอร่อย ถ้ามันไม่ดีไม่อร่อย ไม่ผ่าน ผมไม่เอามาลงไว้ใน blog ผมให้ผมต้องโดนด่าเปล่าๆ หรอกครับ

ร้านนี้เปิดตั้งแต่ปี 2002 ตอนนี้มีสาขาที่กรุงเทพด้วยนะครับ ข้อควรรู้สำหรับการไปร้านนี้ก็คือ ร้านนี้ปิดวันจันทร์ และเปิด 8 โมงเช้า ถึง 1 ทุ่มตรง ถ้าไปหลังจากนั้น ก็ไปทานร้าน steak ได้ ยังเปิดอยู่  แต่ว่าไหมทำไมผมไม่เอาร้าน Steak ของโชคชัยมาลง ขนาด ร้าน Niel Travern ผมยังเอามาลงแล้วตั้งหลายครั้ง ก็เพราะมันไม่ผ่านไงครับ ตอบง่ายมาก ทางเลือกของคนที่ไปแวะฟาร์มโชคชัย แล้วหาอะไรทาน ทางที่ดีกว่า หากไม่ต้องการกิน wine และไปมื่อเที่ยงๆ ก็คือ ร้าน สเต็กเบอร์เกอร์แห่งนี้นี้เอง

สำหรับรายการอาหาร ก็มีไม่มาก มีเบอร์เกอร์ ที่เนื้อสเต็กทำจากเนื้อย่างด้วยเตาถ่าน option เพิ่มที่ใส่ได้ ก็มีหัวหอม มีเบคอน แล้วก็ชีสครับ ใส่ full option ครบทุกอย่าง จะถูกกว่าเพิ่มทีละอย่าง แล้วก็ อีกอย่าง เนื้อลูกวัว แพงกว่า เนื้อวัวธรรมดาอยู่ 10 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าแตกต่างกันเช่นไรเหมือนกันครับ อร่อยทั้งคู่แหละ

รายการอาหาร มีเท่านี้
ภายในร้านมีที่นั่งอยู่ ที่รอบๆ เคาท์เตอร์ กับมีโต๊ะนั่งสี่โต๊ะ ส่วนอาหารจะทานในร้านหรือเอาออกไปข้างนอกก็ได้ สั่งเสร็จแล้วก็จ่ายเงินเลย เป็นแนว fast food เหมือนพวก MC Donald อะนะครับ แต่อร่อยกว่านะ

บรรยากาศภายในร้าน
ต่อไปนี้เป็นรูปอาหารครับ อาหารมีไม่กี่อย่าง ดูตามรูปกับตาม เมนูที่ผมแปะเอาไว้ให้ดูแล้วกันนะครับ กดที่รูป รูปก็ขยายใหญ่ได้ เช่นเคยครับ

Hot Dog

สเต็กเบอร์เกอร์แบบ full option

ไส้กรอก
สรุปได้สั้นๆ ว่าอร่อยครับ อร่อยกว่าพวก เบอร์เกอร์คิง หรือ แมคโดนัล เยอะเลย และผมก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะคิดเหมือนผมนี่แหละ เพราะร้านนี้คนเยอะเหลือเกิน ถ้าไปฟาร์มโชคชัยนะครับ ผมว่า ร้านนี้ดีกว่า ร้านเสต็กครับ

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

Wine Connection Deli & Bistro at K village . ไวน์คอนนเคกชั่น เค วิลเลจ

ร้าน Wine Connection Deli & Bistro ที่ K Village

การไปร้านนี้เกิดจากการที่ผมไปร้าน Wine 33 ที่ CDC มาเมื่อวานนี้ไงครับ ไปมาแล้วก็ข้องใจว่าไอ้พวกร้าน Wine ทั้งหลายแหล่ที่ ฮิตมาเปิดกันช่วงนี้น่ะ มันแค่ ฮิต ตามกระแสหรือดีจริง ๆ ประกอบกับผมไม่เคยไปหรอก ไอ้ร้าน Wine Connection เนี่ย เห็นไปกันนักหนา ทำให้ผมต้องไปลองร้านนี้จนได้นะครับ และก็ได้ข้อสรุปดัง รีวิว ที่จะเขียนต่อไปนี้

ร้าน Wine Connection ตามความเข้าใจของผมนั้นมันมีหลายสาขาอยู่ในหลายประเทศ ด้วยความที่มันเป็นอย่างนั้น มันจึงเหมือนเป็นร้าน Chain หรือร้าน แบบ ทั่วไป อะครับ ที่เป็นจะเป็นที่นิยมของคนทั่วๆไป เหมือนร้าน Fuji หรือ ร้าน MK อะไรอย่างนั้น คืออาหารเขาถูกปากถูกใจมหาชนจริงๆ ไม่ใช่ร้านสำหรับกลุ่มเฉพาะแต่อย่างใด ด้านราคา ก็ไม่แพงเลย



ภายในร้าน Wine Connection ครับ มีที่นั่งทั้งในร้านและนอกร้าน โต๊ะค่อนข้างชิดกันนิดหน่อยนะครับ ประกอบกับจำนวนลูกค้าที่เขาเยอะจริงๆ เพราะว่าร้าน อาหารเขาอร่อย และไม่แพง  .... ที่จริง "อร่อยและไม่แพง " ดูเหมือนจะเป็นจุดแพ้ชนะกันเลยนะ สำหรับร้านอาหาร

 รูปเหล่านี้แสดงบรรยากาศในร้านครับ click ที่รูป จะได้ดูรูปใหญ่ได้นะครับ

ภายในร้าน Wine Connection

ภายในร้าน Wine Connection

ภายในร้าน Wine Connection

ภายในร้าน Wine Connection

หน้าร้าน Wine Connection

ภายในร้าน Wine Connection
ทีนี้เรามาดูอาหารกันบ้าง ผมให้คะแนนอาหารของร้านนี้ ผ่านฉลุยเลยนะครับ และผมเชื่อว่า ก็คงถูกปากทุกๆคนเช่นกัน ดูจากจำนวนลูกค้า และเสียงเล่าลือแล้ว ผมกล้าฟันธงไปเลยว่า อาหารผ่านแน่นอน และนี่คือรายการอาหารที่พวกผมสั่งกันในการ รีวิวรอบนี้ คลิกที่รูปดูอันใหญ่ได้เหมือนเดิมครับ

ซีซาร์สลัด


Rocket Salad


Pork Chop

สปาเกตตี้ seafood
ทีนี้มาดูเรื่องสุดท้ายกัน แต่ก็สำคัญนะ ร้านนี้ชื่อ Wine Connection แต่ทำไม Wine ถึงได้ไม่หลากหลาย และมีให้เลือกไม่เท่าไหร่เลยนะครับ ที่สำคัญแม้แต่ Wine แนะนำที่ผมสั่งตามรูปเนี่ย รสชาติ สอบตกทีเดียว เลยครับ หรือว่า ร้านนี้เป็นร้าน Wine สำหรับคนไม่ดื่ม Wine

แต่เอาเหอะ แก้ไขได้ด้วยการที่อาหารอร่อย และมีเบียร์แปลกๆให้เลือกสรรค์หลายรายการ ดูรูปนะครับ
รายการเบียร์ ที่ร้าน Wine Connection

Wine แนะนำ ของร้าน Wine Connection เดือนนี้
สรุป เอาไงดีละ ร้านนี้ อาหารอร่อย ผมว่าเหมาะจะมาเป็นหมู่คณะหรือเพื่อนฝูง เพราะร้านค่อนข้างแออัด โต๊ะ ก็จัดติดๆกัน ถ้าจะไป Date ผมว่าไปร้านอื่นเหอะนะครับ ส่วน Wine ก็เช่นกัน ร้านนี้เป็น ร้าน Wine สำหรับคนไม่ดื่ม Wine ผมแนะนำให้ไปลองดูร้านอื่นๆ นะครับถ้าอยากดื่ม ไวน์ดีๆ ร้าน Wine 33 ที่ CDC ก็ได้ครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ ยังไงใน Series ร้าน Wine นี้ ยังขาดอีกร้านคือร้าน Wine I love You แล้วผมจะไป รีวิวนะครับ เร็วๆนี้ 

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

Wine 33 by Singha @ CDC เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา . ร้าน Wine ตอนต่อของ Est.33 ?

Wine 33 เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 นี่เองครับ ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงรายการอาหารและ รายการ wine list ร้านนี้สำหรับผม เป็นเหมือนตอนต่อของร้าน est.33 ที่เคยไป รีวิวมาเมื่อครึ่งปีก่อนครับ ร้านนี้ผมไปแล้ว ผมชอบนะ  (รีวิว Est.33 ครับ)

ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงข้างๆ Est.33 เลยครับ และเจ้าของก็คือเจ้าเดียวกันด้วยคือเป็นของเบียร์สิงห์ไง ร้านหนึ่งเป็นร้านเบียร์ อีกร้านเป็นร้าน wine ซึ่งก็มีที่นั่งทั้งข้างในและข้างนอก


ภายในร้าน Wine 33
ร้านนี้หลักๆ แล้วเป็นร้านอาหาร และคาดว่าลูกค้าคงต้องสั่ง wine มั้งครับ ดูจากชื่อร้านอะนะ ซึ่ง wine ก็มีอยู่สามระดับ คือตั้งแต่  good better และ best ซึ่งราคาก็ต่างกันด้วยแล้วแต่งบ ราคาเริ่มจากไม่ถึงพัน จนถึง เป็นหมื่นบาทขึ้นไปครับ รอบนี้ผมได้ทดลองอยู่สองอย่าง ซึ่งผมให้คะแนนดีนะครับ สำหรับ wine ขวดที่สอง

ภายในร้าน WIne 33
อันนี้ wine list ของร้าน wine 33 ซึ่ง wine ที่ผมสั่้งรอบนี้มีสองตัวคือ ตัว Cawara Shiraz Cabernet ปี 2008 ซึ่งตัวนี้อยู่ระดับ Good ของ wine list ของร้านนะครับ

wine list ของร้าน Wine 33
ส่วนตัวที่สองที่สั่งต่อเนื่องกันคือตัว Robert Mondavi Private Selection Carbernet Souvignon ปี 2008 wine California ที่อยู่ใน range better ของร้านนี้นะครับ ตัวนี้ ดีกว่า ตัวแรกมากมาย และผมก็ขอ แนะนำด้วยอีกคน ว่าของเขาดีจังครับ แม้ขวดนี้จะแพงกว่าขวดแรกกว่าสองเท่า แต่ผมก็แนะนำขวดนี้มากกว่ามากมายเลยครับ


Robert Mondavi Private Selection
สำหรับอาหารที่สั่งวันนี้ มีรายการดังนี้ครับ รากบัวสำหรับเป็นกับแกล้ม กับอาหารตามรูปอะนะครับ สำหรับผมแล้ว ผมไม่ให้คะแนนอาหารของร้านนี้มากมายอะไรนักนะครับ รวมทั้งปลาดิบด้วยที่ผมบอกทางร้านไปแล้วว่า ควรต้องปรับปรุง คือขนาดร้าน est.33 ที่ผมให้คะแนนนักหนา ยังมีคนบอกว่า มันไม่อร่อยเลย

เรื่องแบบนี้ ต่างจิตใจ ต้องไปลองเอง ส่วนผม ให้คะแนนสำหรับอาหาร แค่ระดับทานได้เท่านั้น ยังไงเสีย ผมก็คาดหวังถึงการปรับปรุงของอาหาร เพราะวันที่ผมมาเนี่ย ร้านเพิ่งเปิดได้ ไม่ถึงสองสัปดาห์เองครับ 

รากบัว


แก้มวัว


สปาเกตตี้ ไข่ปลา
จะทำยังไงดีละครับ ร้านนี้มันทำให้ผมต้องไปรีวิว ร้าน wine connection กับร้าน wine I love you เลยทีเดียวนะครับ เพื่อที่จะเปรียบเทียบกันอย่างยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ร้านนี้ อยู่ระดับที่ใช้ได้ครับ ผมไม่ทราบว่าอีกหน่อยจะพัฒนาไปได้ดีกว่านี้มากน้อยเพียงไร แต่ปัจจุบัน ก็มากพอที่จะผ่านแล้วครับ

ร้าน Wine 33 @CDC
ลองดูนะครับ ร้านนี้อยู่ CDC ติดๆ กับร้าน Est. 33 เลยครับ