วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รีวิวร้านอาหาร Appia Bangkok ร้านอาหารสไตล์ โรมัน ? ที่สุขุมวิท 31

Appia bangkok
บอกตรงๆ ว่าตอนนี้อยู่ใน mode ขึ้เกียจเขียนครับ  และผมว่าร้าน Appia ก็ไม่ได้ดีมากขนาดสร้างแรงบันดาลใจให้ผมเขียนอะไรได้ด้วยซ้ำ

ท่านว่าคำว่า "ดี" นั้น เวลาเราไปกินร้านอาหารร้านใด แล้วเราเดินออกมาแล้วเราพูดว่า "ร้านนี้ ดี นะ"  ผมว่าเป็นคำที่เจ้าของร้านอยากได้ยินมากดีเดียว  เพราะมันหมายถึง การที่ร้านสามารถทำได้ "เหนือกว่าความคาดหมายของผู้พูด"   เพราะถึงแม้ว่าร้านจะดี และอร่อยมาก  แต่ถ้าผู้พูดตั้งความคาดหวังไว้สูงกว่านั้น  ร้านก็อาจไม่ได้รับคำชมคำนี้ก็ได้ครับ

ร้านนี้เป็นร้านที่มีเจ้าของเดียวกับร้าน Soul food Mahanakorn ครับ ที่เขาว่ากันว่าดังมากเช่นกัน  และผมก็ยังไม่เคยไปเช่นกัน  จับคู่กับ Chef Paolo Vialetti  เชฟที่คร่ำหวอดในครัวโรงแรมชั้นนำเป็นเวลานาน  ทำให้ความคาดหวังของร้านถูกตั้งในระดับสูงครับ

web site ของร้าน ครับ www.appia-bangkok.com  ส่วน facebook fanpage เหมือนจะยังไม่มีนะครับ  ร้านอยู่ซอยสุขุมวิท 31 ครับ ซอยเดียวกับร้าน Isao นั่นแหละครับ

Appia bangkok
 ร้านนี้ถูกออกแบบไว้ให้ เข้ามานั่งได้สบายๆ ไม่ต้องแต่งตัวมาหรูมาก ก็มาได้  แต่ร้านค่อนข้างแคบ โต๊ะจัดชิดๆ กัน และคนเยอะทีเดียวครับ ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งทั้งนั้น  เวลาเขียนรีวิวเกี่ยวกับร้านพวกนี้ บางทีเขียนไปว่า ไม่อร่อย หรือไม่ดี  อาจโดน "ท่านผู้รู้" อัดกลับมาได้ ว่าเพราะ "มรึง" ไม่มี taste ไม่มีความรู้เอง ยังเจือกกล้าไป comment เขาอีก อะไรงั้นนะครับ  แต่ผมขอเขียนบอกไว้ตรงนี้แต่ต้นเลยว่า ผมว่าร้านนี้ ไม่ถูกปากคนไทย หรอก อย่างน้อยก็คนไทยอย่างผมที่ไปกินร้าน อิตาเลียนร้านอื่นๆ มาหลายร้านในไทยอะนะครับ  ลอง search ดูใน blog นี้แล้วกัน ว่ามีร้านไหนที่ผมคิดว่าควรจะไปทานบ้างนะครับ  ส่วนร้านนี้ ผมว่าไปสักครั้งนึงให้รู้ว่าอาหาร "โรมัน แบบโฮมเมด" มันเป็นยังไงนะครับ  ถ้าชอบก็ผมก็ยินดีกับร้านด้วย แต่ถ้าไม่ชอบ ก็ต้องบอกว่าผมได้ให้ความเห็นไว้แล้วนะครับ

ผมเชื่อว่า ความเห็นของทุกๆคนนั้นถูกต้องในแบบของตัวเอง และก็เชื่ออีกว่า เป็นการยากที่จะให้ทุกๆคนมาเห็นตรงกันกับความเห็นของเรานะครับ   ดังนั้นคนที่ไม่ชอบร้านนี้นั้นจะไม่มี "รสนิยม" หรือเข้าไม่ถึง แต่ประการใด ดังที่ "ท่านผู้รู้" ท่านชอบว่าเอาไว้

Appia bangkok

Appia bangkok
Lamb Ragu
Appia bangkok

Appia bangkok

 Mussels

Appia bangkok
 Burrata cheese สั่งจานนี้มา chef แนะนำ Rose' มาคู่ทานคู่กัน กะ cheese นี้

Appia bangkok
 White Asparagus salad  อันนี้เปรี้ยวๆ แปลกๆ แต่ผมชอบ

Appia bangkok


Appia bangkok
ของหวานครับ

Tiramisu

Dark chocolate
 จบครับ ผมไม่อยากจะเขียนต่อละครับ

ความเห็นจากผู้ร่วมชิมครับ

"ร้านเล็กๆ เกร๋ บรรยากาศเป็นกันเอง เจ้าของ พ่อครัว friendly อาหารราคาประมาณอาหารอิตาลีทั่วไป  รายการอาหาร Main course น้อยไปนิด ห้องน้ำเล็ก ห้องชายหญิงอาจสับสนได้"

"ร้านเล็กๆแต่กำลังฮิต อย่าลืมจองโต๊ะก่อนไปทาน เจ้าของร้านดูใส่ใจลูกค้าดี อาหารเฉยๆแต่แปลกดี ชอบของหวาน"

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รีวิวร้านอาหาร โอกินาว่า คินโจ , Okinawa Kinjo เหมือนเตรียมตัวไปโอกินาว่า

Okinawa resturant Kinjo
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อร้านนี้ก็คิดเลยว่าต้องไปให้ได้ครับ  และก็ไปซะตอนเที่ยงเลย  จริงๆผมว่าผมไปตอนเย็นคงจะได้บรรยากาศกว่านี้อีก เพราะจะได้ทดลองเครื่องดื่มต่างๆของโอกินาว่าที่ร้านนี้ขายอยู่ด้วยครับ

ร้านที่กำลังพูดถึงอยู่ในบทความชิ้นนี้คือร้านอาหารชื่อ คินโจ ครับ แต่เรียกยาวๆ ว่าโอกินาว่า คินโจ เพราะร้านนี้อาจเป็นร้านเดียวในไทยที่ขายอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่า และเหตุผลที่ผมตื่นเต้นกับร้านนี้เพราะการไปโอกิน่าว่านั้น แม้แต่อยู่ในญี่ปุ่นแล้วก็ยังไปยาก แต่ก่อนไปยากพอๆกับไปฮอกไดโด  แต่ตอนนี้ทั้งสองที่นี้ไปไม่ยากแล้วครับ  และผมก็คิดว่าจะต้องไปสักครั้งหนึ่งให้ได้

โอกินาว่ามีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนส่วนอื่นๆของญี่ปุ่น ที่นี่มีวัฒนธรรมที่เป็นพิเศษของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรี ที่มีเครื่องดนตรีที่ที่เรียกว่า ซันชิน  Sanshin  ลองฟังเพลงนี้ดูนะครับ  นาดะโซโซ Nada Sou Sou  เสียงต๊อกแต๊ก ต๊อกแต๊ก ของเครื่องสายในเพลงนี้คือเสียงของ Sanshin ที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงที่มาจากเกาะโอกินาว่า


เพลงดังจนกระทั่งมีหนังชื่อว่า Nada Sou Sou ชื่อเหมือนเพลง แต่เพลง (1998) มาก่อนหนัง (2007) แนะนำให้ไปหามาชม เพื่อประกอบอารมณ์ในการไปชิมร้านโอกินาว่า คินโจแห่งนี้ครับ


Nada Sou Sou
โอกินาว่า เป็นเมืองท่าของญี่ปุ่นแต่โบราณที่มีหลักฐานว่าเคยติดต่อค้าขายกับอาณาจักรสยาม (ที่เมืองท่านาฮา โอกิน่าว่า) มาแต่โบราณ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับการที่ โอกินาว่านี่เป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่มีควายที่ใช้ประกอบกิจกรรมที่เศรษฐกิจ

ผมมาตอนกลางวันไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ใดๆ แต่ถ้าได้มา จะดื่มเบียร์ ผมแนะนำเลยว่าให้ทดลองดื่มเบียร์โอริออน Orion beer นะครับ เพราะเป็นเบียร์ของโอกิน่าว่าครับ  เบียร์นี้มี market share เพียง 1% ของตลาดเบียร์ญี่ปุ่นทั้งประเทศ แต่กิน market share ถึง 50% ของเบียร์ที่ขายในโอกินาว่าทีเดียว

เบียร์
ลองกดเพลงนี้ฟังดูนะครับ จะได้ feel ของเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ ของโอกินาว่า และเข้าใจว่าทำไมจึงควรทดลอง โอริออน เบียร์เมื่อมาร้านนี้

วีดีโอ หายไปแล้ว กด search Orion beer ใน youtube ครับ Oji no Jiman no Orion Beru ครับ



website ของร้านมีประวัติร้าน กล่าวว่าร้านนี้เป็นร้านที่มีเจ้าของรุ่นที่สองแล้วครับ ที่สืบทอดร้านมาจากเจ้าของคนก่อน

facebook fanpage ร้าน   มี fan club เยอะอยู่

ร้านอยู่ซอยสุขุมวิท 69 ครับ ถัดจากซอย พระโขนง หนึ่งซอย เป็นซอยที่ขับรถทะลุไปถึงซอย 71 ได้  ร้านไม่มีที่จอดรถนะครับต้องจอดริมถนนเอา

โอกินาว่า คินโจ
ภายในร้านประดับด้วย poster สร้างบรรยากาศชวนไปเที่ยวโอกินาว่า จริงๆครับ

โอกินาว่า คินโจ


โอกินาว่า คินโจ

โอกินาว่า คินโจ
 ตัวตุ๊กตา ShiSa ซึ่งเป็นอีกเอกลักษณ์หนึ่งของโอกินาว่า เป็นครึ่งหมาครึ่งสิงโต น่าจะได้อิทธิพลมาจากจีนไม่ใช่น้อย  แต่มันไม่เหมือนนะครับ มันมีเอกลักษณ์ คนที่รู้จักเคยเห็น ShiSa ก็จะเรียกชื่อมันถูก เพราะมันมีทุกหนแห่งในโอกินาว่า

โอกินาว่า คินโจ
เมนูครับ ของที่มีชื่อเสียงของร้านนี้ น่าจะเป็นโอกินาว่าโซบะ หมูตุ๋น และอาหารที่ปรุงจากมะระญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่น

เมนู ร้าน โอกินาว่า คินโจ
 จุดเด่นของอาหารญี่ปุ่นโอกินาว่า อย่างนึงคืออาหารที่มีส่วนผสมของมะระ

เมนู ร้าน โอกินาว่า คินโจ

เมนู ร้าน โอกินาว่า คินโจ
แม้รายได้เฉลี่ยของประชากรโอกินาว่าจะต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยของประชากรญี่ปุ่นในแถบอื่น แต่คนโอกินาว่า  เป็นคนที่มีอายุยืนที่สุดในญี่ปุ่น และที่สุดในโลก (ผู้ที่อาศัยที่เกาะริวกิว เกาะที่ใหญ่ที่สุดของโอกินาว่า)   ทั้งนี้สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอาหารที่พวกเขารับประทาน

เมนู ร้าน โอกินาว่า คินโจ
โอกินาว่า คินโจ
 Umi Budou หรือองุ่นทะเล  เป็นสาหร่ายชนิดหนึ่ง หน้าตาคล้ายองุ่น รสชาติออกเค็มๆ เหมือนน้ำทะเล  ผมสั่งมาทดลองทานดู เพราะแปลกดีครับ

Umi Budou
 มะระ อร่อยนะครับ  ( Goya Chanpuru)
ผัดมะระกับไข่
เมนูข้างบน กับ เมนูโอกินาว่าโซบะ สองเมนูนี้ เป็นตัวแทนของอาหารพื้นเมืองโอกินาว่าครับ

Okinawa soba
เมนูอื่นๆที่นิยมสั่งกันก็มี ชาบูหมูดำ และมี steak  เนื่องจากโอกินาว่าเป็นเมืองที่มีฐานทัพอเมริกันตั้งอยู่ตั้งแต่หลังสงครามโลกจนถึงปัจจุบัน  ทหารอเมริกันเป็นผู้ import วัฒนธรรมการกิน steak มาให้ชาวโอกินาว่า  ซึ่งการรับประทาน steak นั้นจัดเป็นอาหารที่ฟุ่มเฟือยของชาวโอกินาว่าทีเดียว  แต่ผมไม่ได้สั่งเมนูพวกนั้นนะครับ

บนโต๊ะ มีเครื่องปรุงเป็นพริกดองแบบนี้ด้วยครับ
พริกดอง
ส่วนเครื่องดื่ม ก็อย่างที่กล่าวข้างต้นไปแล้วครับ ว่าให้ทดลอง Orion Beer นะครับ  ที่กระป๋องเป็นรูปดาว  แต่ไม่ใช่ ซับโบโร เบียร์นะครับ   ส่วนสาเก ก็ทดลอง อาวาโมริ สาเกดู   สาเกนี่ว่ากันว่าเป็นพี่น้องกับเหล้าขาวของไทยครับ  ชาวโอกินาว่ารับการถ่ายทอดวิธีการกลั่นเหล้านี้มาจากเมืองทางใต้ ที่เรียกว่า สยามนั่นเองครับ

โอกินาว่า คินโจ

ฝากเพลงสุดท้ายไว้ก่อนปิดรีวิวนี้ครับ  Shima no Uta   การได้ไปทานร้านนี้ เปรียบเหมือนการได้ไปวอร์มอัพในการไปเที่ยวโอกินาว่าทีเดียวครับ


วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขับรถยนต์เที่ยว ฮอกไกโด ตะวันออก ตอนจบ Hokkaido self drive (final)

Sapporo Beer Hall
ความเดิมตอนที่ 1 ตอนที่ 2 และตอนที่ 3  ครับ

ตอนสุดท้ายแล้วครับครั้งก่อนเรามาหยุดค้างกันที่โรงแรมโซอุนเคียวที่ออนเนยู ถ้าดูตามแผนที่ข้างล่างคือตอนนี้เราอยู่ที่หมายเลข 11 ครับ

ขับรถออกจากโรงแรมไปใกล้ๆ ก็จะถึงน้ำตกกิงกะ กับ ริวเซอิ เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆกันครับ  คณะแวะมาถ่ายรูปหมู่กันที่ตรงๆนี้ แล้วก็ขับรถต่อ

น้ำตกทั้งสองอยู่ในอุทยานแห่งชาติไดเซทซึซัง (Daisetsuzan) ดูจากชื่อของมันแล้วอุทยานแห่งชาตินี้คงถูกปกคลุมด้วยหิมะเป็นส่วนใหญ่  และก็มีน้ำตกในอุทยานนี้หลายแห่งครับ

แผนที่อุทยาน
 น้ำตก กิงกะ  หรือน้ำตก ทางช้างเผือก (แปล)
น้ำตกกิงกะ
จากนั้นขับรถไปขึ้นกระเช้าไปบน จุดชมวิวยอดเขาคุโรดาเกะ  ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Daisetsuzan ที่ว่านี่แหละครับ  ตอนนี้ยังอยู่ที่หมายเลข 11 ในแผนที่เหมือนเดิมนะครับ


แผนที่การขับรถวันที่ 4
กระเช้าชมวิว

วิวจากจุดชมวิวที่ 1 ของเขาคุโรดาเกะ

จุดชมวิว Kurodake


กระเช้า
 เวลานี้เป็นเวลาที่หิมะละลายไปมากแล้ว เพราะเข้าฤดูใบไม้ผลิไปแล้วครับ

จุดชมวิว Kurodake
ลงจากกระเช้าก็ขับรถไปเรื่อยๆจากจุด 11 ถึง จุด 12 ที่เป็นที่พักรถที่ใหญ่มากๆครับ Sunagawa Highway Oasis  website ของเมือง Sunagawa ครับ

ที่นี่มีร้านอาหารใหญ่ หลายร้านและอร่อยดีครับ  ในรูปคืดซังไซโซบะ ให้ความรู้สึกเหมือนอาหารโรงอาหารโรงเรียนเกียวโตเลยครับ  อร่อย

ซังไซ โซบะ
 ของฝากของฮอกไกโด ก็จะเป็นพวกเมล่อน เมล่อนต้องยูบาริเมล่อน ครับ

ยูบาริเมลอน

Yubari Melon
 หรือจะซื้อปูขนไปฝากกันเลย

ปูขน
การเดินทางในวันที่สี่ ขับรถบน Highway ส่วนใหญ่เลยครับ  รูปข้างล่างนี่จะถึงซับโปโร ละ  ทัวร์ที่มาฮอกไกโด ส่วนมากจะไปฮอกไกโดตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ กันคือไปทางพวกโอตารุ ไรงี้

Highway
 หันไปมองป้ายทะเบียนรถข้างๆ   11-11
รถ 11 11
 มองไปข้างเหน้าเห็น Sapporo TV Tower ครับ เป็น landmark แห่งหนึ่งของ ซับโปโร
Sapporo Tower
 4 วัน 1156 กิโลเมตร ครับ ณ จุดส่งรถคืน Bye bye รถ prius Alpha แล้วครับ ตอนนี้เราอยู่ จุดที่ 13 แล้วครับ

ระยะทาง
พักที่โรงแรม Sapporo Grand hotel  โรงแรมใช้ได้ทีเดียวครับ 

Sapporo Grand hotel

Sapporo Grand hotel
 ใช้รถทัวร์กันละ
Sapporo Grand hotel
เดินจากโรงแรมไปไม่ไกล ก็ถึงสถานีรถไฟ ซับโปโร ครับ ตรงนั้นมี big camera อยู่ ใกล้ๆ และควรซื้อของฝาก หรือของที่อยากจะซื้อที่นี่ เพราะถูกกว่าที่อื่นเยอะเลย ถ้ามี passport ไปด้วยก็ลดอีก 5%

ซับโปโร เอกิ
 ร้านคานิ ฮอนเคะ ที่ผมเคยคิดว่าจะกลับมากินอีกครั้งเมื่อมีเงินนะครับ เคยมาตรงนี้ครั้งที่สองละ ก็ยังไม่ได้ทาน คงต้องมาครั้งที่สาม

คานิ ฮอนเคะ
Hokkaido Tokeidai ครับ เป็น land mark อีกแห่งของ ซับโปโร อาคารนี้เป็นอาคารที่เก่าที่สุดในซับโปโร ครับ  จะมีคนมาคอยถ่ายเวลาหอนาฬิกาตีระฆังบอกเวลาทุกๆชั่วโมงครับ

ฮอกไกโด โตเกได
ตอนเย็นทานอาหารที่ ซับโปโร เบียร์ ฮอลล์ ครับ เป็นจุดที่อยากมามากจุดหนึ่งในทริปนี้เลย ร้านซับโปโร เบียร์นี่มีหลายสาขาในประเทศญี่ปุ่นนะครับ ที่เกียวโตก็มี  แต่ต้นตำหรับต้องที่นี่

"ณ ที่แห่งนี้ เราผลิตสาเก ที่เรียกว่าเบียร์ ด้วย มอลต์ และ ฮอปส์ "   ประโยคสุด classic ของสถานที่แห่งนี้ 
Yebisu ก็เป็นของ Sapporo beer นะครับ
Sapporo Beer Hall

Sapporo Beer Hall
 ที่นี่่เป็นมรดกฮอกไกโด ด้วยนะครับ ( Hokkaido heritage ) และเป็นพิพิธภัณฑ์ เบียร์แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น
Sapporo Beer Hall
 ภายในเป็นอาหารปิ้งย่างครับ  ควันเยอะเหม็นไปทั้งตัว แต่ก็สุขใจ

Sapporo Beer Hall
 อาหารทะเลที่ฮอกไกโด ไม่แพ้ที่ใดในโลกแน่นอน  ดูหอยเชลล์แบบบุฟเฟ่ต์ ยังดีขนาดนี้

Sapporo Beer Hall

 ราคาครับ  คอเบียร์สั่ง โนมิโฮได (All you can drink ) ไปเลยครับ

Sapporo Beer Hall
Sapporo Bier Garten
 กินเท่าไหร่ก็ได้ ในเวลา จำกัด 1 ชั่วโมงครึ่ง ครับ

Sapporo Beer Hall

ทิวลิปหน้าโรงแรม
ตื่นเช้าอีกวัน ทานข้าวแล้วก็ไปสนามบินแล้วครับ จบการเดินทางของทริป แต่เพียงเท่านี้

ที่โรงแรมมีน้ำผึ้งให้เลือกหลากหลายกลิ่น รส มากครับ  ทำจากน้ำหวานของดอกไม้คนละชนิดกัน

น้ำผึ้งหลากหลาย
ที่สนามบิน มี โดเรมอน สกายพาร์ค ด้วยครับ

Doremon Sky park
 แล้ว ก็ต้อนรับคนได้สุดๆ
ร้านค้าที่สนามบิน
 จบแล้วครับ สำหรับ รีวิวสี่ตอน ของการขับรถยนต์เที่ยงฮอกไกโด  ถ้าถามผมว่าดีไหม ผมก็ว่าดีนะ สำหรับคนที่ไม่เคยขับรถเที่ยวญี่ปุ่น การมีเพื่อนขับไปด้วยก็ดีกว่าขับคันเดียวเยอะเลย  แต่ผมว่าขบวนมันยาวเกินไปครับ

ผมว่าถ้ามาครั้งหน้า ผมก็คงจะขับรถเที่ยวเองดีกว่า ฮอกไกโดตะวันออกนี่ขับรถเที่ยวเองได้สนุกมาก  แต่ก็ต้องเลือกฤดูมาด้วยนะครับ ฤดูหนาวนี่มองไม่เห็นถนนเลยนะครับ อันตรายมาก

ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคงได้เห็นรายการทีวี รีวิวทริปนี้ครับ รวมทั้งหนังสือด้วยครับ  รอติดตามแล้วกันครับ สำหรับผม เท่านี้พอครับ ชอบฮอกไกโดมากๆครับ

 ขอบคุณสำหรับการติดตาม