วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560

รีวิวร้านอาหาร Menya Itto ซึเคเมง ที่น่าจะอร่อยที่สุดที่เคยทานมา

Menya Itto
ผมไม่ได้รีวิวร้านอาหารมานานมาก จนแทบจำไม่ได้ว่าร้านสุดท้ายที่เคยเขียนถึงร้านนั้นอย่างเดียวโดยไม่ต้องมีทริปรวมอยู่ด้วยคือร้านไหน เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าร้านทุกร้าน ที่เปิดช่วงหลังนี้ ไม่มีร้านไหนน่าสนใจเลย ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ทั้งบรรยากาศและทั้งอาหารก็ด้วย คือมันเหมือนๆ กันไปหมด มีอย่างเดียวที่เปลี่ยนไปคือ ราคาแพงขึ้น เว่อร์ มาก เทียบกับคุณค่าที่ได้กลับมา

แต่ร้านนี้ต้องเขียนถึงเลย  เพราะเพียงคำแรกที่ผมได้ชิมน้ำซุบ ของราเมงร้านนี้ ก็อุทานออกมาเลยว่า "น้ำซุบแบบนี้ผมไม่เคยทาน"  วันนั้นราเมงที่ลองจานแรกคือ ตัวที่เป็นน้ำใสครับ  รสชาติ จะกินง่าย มันจะไม่รู้สึกเค็มเกินไปหรือ ข้นเกินไป รสไม่เหมือนซุบจากร้านอื่นในไทยร้านไหนเลย ที่ผมเคยทานมา  รวมถึงร้านที่ญี่ปุ่นก็ด้วย ที่ซุปคล้ายกันคือ Tori paitan ที่กินซ่า แต่อันนั้นก็เป็นซุปไก่แบบข้นๆครับ

กลับมาก่อน มาดูว่าร้านนี้ดีเด่นอย่างไรบ้าง  ถ้าลอง search ร้านราเมงที่ติดอันดับหนึ่งของ Tabeblog ซึ่งเป็น Blog อาหารอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ก็จะได้ชื่อร้านนี้ขึ้นมาเป็นที่หนึ่งครับ

จากห้าหมื่นกว่าร้าน ก็ยังเป็นอันดับที่หนึ่ง


ไปกดดูใน ราเมงDB หรือราเมงดาต้าเบส ของญี่ปุ่นเหมือนกัน ก็จะได้  98.21 คะแนน


ที่สำคัญร้านนี้ไม่มีสาขาในต่างประเทศ และเหมือนว่าไม่มีสาขาในญี่ปุ่น  มาเปิดทีก็มาเปิดที่ไทยเลย  ด้วยแรงใจจากหุ้นส่วนชาวไทย ที่พามาช่วยกันทำ JV ในการเปิดร้านสาขานี้ที่ไทย และราเมงบางเมนู ที่มีที่ไทย ที่ญีั่ปุ่นก็ไม่มีครับ เช่นราเมง lobster นั่นแหละ เป็นการร่วมกันคิดสูตรใหม่ของอาหารที่ร้านนี้เลย

คิวยาวตลอดแม้จะเปิดมานานพอสมควรแล้ว

Menya Itto , Bangkok

Menya Itto , Bangkok


Signature ของร้านคือ Tsukemen ซุบที่เบส จากไก่ครับ

Menya Itto , Bangkok

Lobster Tsukemen ราคา 1450 บาท  ถ้ามาเป็นตัว เขาทำแค่ 25 จานต่อวัน และบอกว่าจะไม่ทำเมนูนี้แล้ว ปีหน้า  แต่ตอนนี้ลูกค้าเรียกร้องกันมาก อาจจะมีการต่อไปอีก

Menya Itto , Bangkok
ชามนี้ คือ Tsukeimen ที่เป็น Signature ครับ  ท่านว่า ซึเคเมง จริงๆ เป็นราเมงที่คิดค้นในญี่ปุ่น ไว้ให้ทานหน้าร้อน  เพราะราเมงมันร้อน ทานหน้าร้อนก็จะยิ่งร้อน แต่ถ้าแยกเส้นเอาไว้  เส้นมันยังเย็นๆ อยู่ไปจุ่มในน้ำซุบ มันก็จะได้อุณหภูมิที่กลมกล่อม พอเหมาะ ไม่ร้อนเกินไป

ซุปที่นี่รสชาติไม่เหมือนเจ้าอื่นในไทย  ถ้าทานจากที่อื่นแล้วไม่อร่อย ก็อย่าเพิ่งคิดว่า Tsukeimen ไม่อร่อย แต่เป็นเพราะร้านน้ำทำไม่ดีเอง

Tsukeimen
ซุปใส ที่ผมก็ชอบมาก เพราะว่ามันรสชาติกลมกล่อม กินง่าย ทานได้เรื่อยๆ ไม่ข้น ไม่จืด ไม่เค็ม เกินไป
เป็นซุปไก่ ใสๆ แถม ตัวเนื้อไก่ กับเนื้อหมูที่วางมาให้นั้น ก็รสชาติดีมาก นุ่มมาก เขียนไปยังติดใจไม่หายครับ


ยังไงต้องไปลองดูกันเองนะครับ แล้วมาแบ่งปันกันว่า มันดีหรือไม่ดีอย่างไร ถูกใจหรือไม่ครับ

https://www.facebook.com/menyaittobkk/

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

รีวิวโรงแรม SO Sofitel Hua Hin ( แต่จริงๆ อยู่ชะอำนะ)

So Sofitel Hua Hin
เพิ่งไปหัวหิน และเพิ่งไปบ่นโรงแรมเชอราตัน เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ก็ต้องไปชะอำหัวหินอีกแล้ว  ครั้งนี้ไปพักโรงแรมที่อยากไปมานานมาก อยากไปมานานจนเขาเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเจ้าของมาสองครั้งแล้ว จนครั้งสุดท้ายนี้อยู่ภายใต้ brand ของ So Sofitel  โรงแรมนี้ใช้ชื่อว่า So Sofitel หัวหิน แต่จริงๆ มันอยู่ยังไม่ถึงหาด ชะอำด้วยซ้ำไป น่าจะเรียกว่า So Sofitel ชะอำมากกว่า แต่ brand ชะอำ มันไม่แข็งแรงเท่า  Brand หัวหิน  และจริงๆแล้ว ชะอำกับหัวหินมันแตกต่างกันมาก มันไม่ใช่ที่เดียวกัน รวมถึงร้านอาหาร ที่อยู่ในย่านสองย่านนี้ก็คนละแบบ

หลังๆ ผมไม่ไปหัวหินเลย เพราะมันแออัด คือสาเหตุหลัก และสาเหตุสองที่ไม่ไป คือมัน "กรุงเทพ" มากๆ เลย  แต่ชะอำยังไม่เป็นแบบนั้น ผ่านไปยี่สิบปี สามสิบปี ก็ยังไม่แตกต่างจาก เมื่อก่อนที่ผมเคยรู้จักมันมากนัก  แม้ร้านอาหารที่ผมไปทานบ่อยๆ อย่างร้านปากคลองจะปิดไปแล้วก็ตาม  แต่มันก็มีร้านอร่อยร้านอื่นเกิดขึ้นมาแทน อย่างเช่นร้านวิวทะเล เป็นต้น

วิธีไป So Sofitel หัวหินก็คือ พอเห็นเขานางพันธุรัตน์แล้วก็เลี้ยวเข้าไปทางนั้นได้เลยครับ ไม่ต้องไปทางชะอำก็ได้  เพราะมันจะเลย

ภายในโรงแรมนี้ จะเต็มไปด้วยกระต่าย ไม่ทราบว่า เจ้าของท่านเกิดปีกระต่ายหรือเปล่า  แต่ทางโรงแรมเขาก็ว่า กระต่ายนี้ เป็นกระต่ายแห่งกาลเวลา ที่จะทำให้เวลาข้างนอกหายไป มีแต่เวลาแห่งความสุขและการพักผ่อน ภายในโรงแรมนี้  (ที่เขียนมานี่ จินตนการล้วนๆ นะครับ )

So Sofitel Hua Hin
 ทางเข้า Lobby อันเลื่องชื่อ  โรงแรมนี้ออกแบบโดยคุณดวงฤทธ บุนนาค  ต้องยอมรับว่า ออกแบบดีมาก ทั้งความสวยงาม และความดีงามของการใช้งาน  เข้าไปตรงนี้ ผ่าน lobby นี้ไป จะเป็นเหมือนอีกโลกนึง

So Sofitel Hua Hin

So Sofitel Hua Hin
 ช่วงนี้เป็นคริสมาสตร์ ก็เลยมีบรรยากาศคริสมาสตร์อยู่มากมาย

So Sofitel Hua Hin
ผมไม่รู้ว่าผมพักในห้องแบบไหนเหมือนกัน  ห้องใหญ่พอสมควรอยู่  และตรงหัวเตียง มีเตียงสองชั้นด้วย  เหมือนกับว่าเป็น family room ประมาณนึงเลย

So Sofitel Hua Hin
 มีระเบียงด้วยครับ แต่มองออกไปไม่เห็นวิวอะไรนะ สองข้างของห้องนี้ ไม่มีวิวอะไร

So Sofitel Hua Hin

So Sofitel Hua Hin

So Sofitel Hua Hin
 ถ่ายไม่ดี จุดนี้เป็นจุดเด่นของห้องเหมือนกัน คือ rain shower กลางห้องเลย
So Sofitel Hua Hin

So Sofitel Hua Hin
 กระต่ายอยู่ทุกที่เลย
So Sofitel Hua Hin
 จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ คือ มันจะมี คำพูด เท่ๆ คมๆ อยู่ตามพื้นที่ วัตถุต่างๆ ตามกำแพง ตามโต๊ะ บนหน้าเมนู ในแก้ว ที่ถุงใส่ผ้า อะไรอย่างนี้ครับ

So Sofitel Hua Hin

So Sofitel Hua Hin
ร้านอาหารจะมีที่หน้าหาด กับมีที่หน้าสระ อาหารจะไม่ค่อยเหมือนที่อื่น ร้านอาหารที่หน้าหาดชื่อว่า Beach society ครับ

อาหารไม่กี่อย่าง แต่ก็มีแต่ของดีๆ

Beach Society, So Sofitel 

Beach Society, So Sofitel 

Beach Society, So Sofitel 

Beach Society, So Sofitel 
ส่วนห้องอาหารในห้องแอร์ นั้นเป็นอาหารไทย และข้างบนมี Bar อยู่ ซึ่ง ช่วง Happy hour ก็ถึงดึกเลยครับ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง

ร้านนี้ชื่อร้าน White Oven ซึ่งตอนเช้าจะเป็นที่ทาน Brakfast ด้วย


White Oven, SO Sofitel

White Oven, SO Sofitel

White Oven, SO Sofitel

White Oven, SO Sofitel
So Sofitel
ตอนเช้า จะเป็น อีก ความรู้สึกนึงเลย
ที่ White Oven
ตอนเช้า อาหารไม่หลากหลาย เหมือนกับ Sheraton ที่ไปมาสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และผู้คนวุ่นวาย การจองโต๊ะนั่ง ไม่เป็นระเบียบ เป็นระบบ แย่งที่กันไปมา เพราะระบบ ไม่รู้ว่า โต๊ะไหนมีคนหรือไม่มีคน  พนักงาน งง งวย ไม่รู้จะดูแลสถานการณ์ไงดี  ที่จริง อยากจะยอมรับว่า พนักงาน Sheraton ดูมีระเบียบระบบ กว่าในเรื่องแบบนี้

White Oven ,SO Sofitel

White Oven ,SO Sofitel

White Oven ,SO Sofitel

White Oven ,SO Sofitel

White Oven ,SO Sofitel

White Oven ,SO Sofitel
ตรงหน้าหาด ค่อนเข้างชัน และมีชายหาดสั้น ในช่วงที่ไปนั้นน้ำขึ้นสูงตลอด ทำให้น้ำขึ้นมาติดกับ ส่วนของโรงแรมเลย  ก็เลยไม่มีหาดให้เดิน มีแค่สั้น ๆ 

SO Sofitel, Huahin

SO Sofitel, Huahin
 สามารถพบเห็นกระต่ายได้ทั่วไป  ในภาพคือกระต่าย กำลังวิ่งเข้าห้องพัก ผ่านกระจกวิเศษสองบานนี้ครับ

SO Sofitel, Huahin
 สระว่ายน้ำมีสองสระนะครับ  สระหน้าหาด กับสระหน้า fitness สระตรงหน้า fitness มีความเป็นส่วนตัวกว่า โดยเฉพาะช่วงเช้าที่คนรับประทานอาหารเช้า กันที่ White oven

SO Sofitel, Huahin

SO Sofitel, Huahin
 รวบรัดตัดความครับ  โรงแรม SO Sofitel Huahin เป็นโรงแรมที่ดีมาก ประทับใจมาก มีลูกค้าชาวอินเดียบ้าง เสียงดังบ้าง และลูกค้าเขาพูดไทยได้นะครับ อย่าไปนินทาเขามั่ว  แต่ทางพนักงานก็เข้าใจ มาคอยถามว่า พี่จะย้ายไหมพี่ เผื่อทนเสียงดังไม่ได้  ผมก็บอก พี่โอเค เพราะว่า สัปดาห์ก่อน หนักกว่านี้ ที่ Sheraton 

ถ้าอยากสงบ Hiso ใกล้ กทม. เลือกที่นี่ได้เลยครับ ไม่ต้องไปไกลถึงกุยบุรี เพื่อความสงบหรอก เอาเวลาที่ขับรถ มานอนชิลล์ ที่นี่แล้วกัน ถ้าวันที่แขกไม่เยอะเว่อร์อะนะครับ

SO Sofitel, Huahin

วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ทริป พิจิตร ภูทับเบิก เขาค้อ โรงแรมเมทนีดล

เดอะม้ง ภูทับเบิก
ครั้งนี้มีโอกาสขับรถไปที่พิจิตร แล้วก็ไปภูทับเบิก แล้วก็ขับรถไปเขาค้อ เที่ยวแถวๆนั้น สำหรัับการขับรถไปถึงพิจิตร ก็ขับรถก็ไม่ยากเลยครับ ตรงขึ้นเหนือ ไปทางอยุธยา อ่างทอง นครสวรรค์  จากตรงแถวๆนั้นจะมีทางแยกว่าจะไปกำแพงเพชร หรือไป พิจิตร ก็แค่เลือกเส้นทางที่ไปพิจิตร  การขับรถนั้นถนนดีตลอดทาง มีการก่อสร้างอยู่บ้าง  แต่ทางส่วนใหญ่ดีแล้ว ใช้ความเร็วได้ แต่มีกล้องจับความเร็วตลอดทางเหมือนกัน

จริงๆ มีอีกทางเลือก ก็คือนั่งเครื่องบินไปลงที่พิษณุโลก แล้วนั่งรถย้อนกลับมาครับ  แต่ว่า มันใช้เวลาพอๆ กันแหละครับ ต้องไปสนามบินต้องไปรออีก ขับรถไปก็สี่ชั่วโมง นิดๆ ก็ถึงแล้ว ใช้เวลาพอกันเลย

ไปพิจิตร ต้องขับรถวังนิดนึง เพราะในเมืองเขาขับรถกันช้า และเขาก็ไม่ระวังรถอื่นด้วย ส่วนตัวเมืองพิจิตร เข้าไปไม่ได้ทำอะไรมากครับ ไปดูงาน แล้วทีมงานก็พาไปทานข้าวที่ร้าน ลุงแว่น ปลาแม่น้ำ  อร่อยดีนะครับร้านนี้

facebook ร้านลุงแว่น

ลุงแว่น ปลาแม่น้ำ พิจิตร

ลุงแว่น ปลาแม่น้ำ พิจิตร

ลุงแว่น ปลาแม่น้ำ พิจิตร
เดินทางต่อไปภูทับเบิก จากตัวเมืองพิจิตรครับ ใช้เวลาอีกสองชั่วโมงนิดๆ เพราะว่า มันเป็นทางภูเขา และมันก็ไกลอยู่เหมือนกันครับ  เส้นทางจะเป็นทางพิจิตรมาหล่มสัก แต่เลี้ยวไปทางภูทับเบิกก่อน ทางดีใหญ่มาก  แต่เป็นทางภูเขา ต้องระวังนิดนึงถ้าคนไม่ชินทาง ระวังจะเร็วเกินไปตอนลงเขา จนถึงทางขึ้นภูนั่นแหละที่เป็นทางรถสวนกัน ซึ่งทางตรงนี้ จะชันมาก แต่รถธรรมดาก็ขึ้นได้ครับ

พอถึงทางขึ้นภูเท่านั้นแหละ อุณหภูมิก็ลดลงตลอดเลย


เขาค้อ


ที่พักบนภูทับเบิก มีเยอะมาก และแออัด ไม่รู้ว่าปลูกกันถูกกฎหมายหรือจับจอง กันมั่วหรือเปล่า
พักที่เดอะม้งภูทับเบิกครับ

ดูยูทูป ละกัน

https://www.youtube.com/watch?v=ANQPQ6e1HR4

เดอะม้ง ภูทับเบิก
 ที่พักมีแต่พัดลม ไม่ต้องมีแอร์ ส่วนที่ทำความร้อนก็เป็นแบบใช้แก๊ซ  ผ้าเช็ดตัว อาจจะอยากเอาไปเอง เพราะเขาจะมีแต่ผืนบางมากๆ ให้  ส่วนผ้าห่ม ก็อาจจะอยากมีเองเหมือนกัน ถ้าทำได้ครับ

ตอนกลางคืน จะเย็นลงเรื่อยๆ และลมก็แรง ทำให้หนาวมากทีเดียว

เดอะม้ง ภูทับเบิก

 กู๋ฮะเก๋อ เข้าใจว่าแปลว่า ฉันรักเธอ ในภาษาม้ง

เดอะม้ง ภูทับเบิก

อาหารเช้า ก็กินกันตรงที่ว่างของ รีสอร์ตนั่นแหละ

เดอะม้ง ภูทับเบิก

เดอะม้ง ภูทับเบิก
 อาหารเช้า มีขนมปังปิ้ง กับข้าวต้ม

เดอะม้ง ภูทับเบิก
 ทะเลหมอกจะเห็นหรือไม่ ต้องแล้วแต่ดวง  นี่คือรูปที่ถ่ายตอนจะเก้าโมงแล้ว ก็ยังไม่ค่อยมีแสงเท่าไหร่  เพราะบางทีตรงยอดนี้ ก็จะอยู่ในเฆม ไปเลย

เดอะม้ง ภูทับเบิก
จากนั้นลงภู ไปที่เขาค้อ โดยไปจุดแรกที่ทุ่งกังหันลมก่อนครับ  ตรงทุ่งกันหันลมนี่ต้องระวัง เพราะมันมีทางขึ้นหลายทาง มีป้ายหลายทาง เพราะมันจะพาไปแหล่งร้านค้าคนละร้านกัน  ซึ่งทางที่ผมไปนั้น เป็นทางที่ยังเป็นลูกรัง เยอะมาก รถขึ้นลำบาก ถ้าฝนตก คงขึ้นไม่ได้เลย  ให้ไปเลือกทางที่มีป้ายใหญ่ๆ สีน้ำเงินจะดีกว่า

มีรถนั่งชมทุ่ง กังหันลม ซึ่งจริงๆ ไม่มีอะไร

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ 

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ 

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ 
 Brand "ลืมผัว" เป็น Brand ที่ใช้กับหลายสิ่งอย่าง หลายสินค้า ที่เขาค้อ

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ 
 วิว พอได้อยู่
ทุ่งกังหันลม เขาค้อ 
ตรงนี้ ไปทานข้าวที่ไร่จันทร์แรม ซึ่งเป็นรีสอร์ทไปด้วย  เขามีจัดชุดให้อาหารทัวร์ ซึ่งรสชาติ ก็ใช้ได้ และวิวก็สวย

http://www.raichanram.com/
ไร่จันทร์แรมรีสอร์ท เขาค้อ

ไร่จันทร์แรมรีสอร์ท เขาค้อ

ไร่จันทร์แรมรีสอร์ท เขาค้อ

ไร่จันทร์แรมรีสอร์ท เขาค้อ
แล้วผมก็เลยขับรถไปดูพระตำหนัก เขาค้อ กับไปดู ทุ่งแสลงหลวง  ต้องบอกเลยว่าขับรถในเขาข้ออย่างเดียวก็ใช้เวลา เป็นสองชั่วโมง ในการดูสถานที่เหล่านี้

ที่แรก คือ ฐานอิทธิ เป็น พิพิธภัณฑ์ อาวุธและเรื่องราวของการสู้รบของทหาร ที่บริเวณนี้ จุดนี้เป็นจุดยิงสนับสนุน


ฐานอิทธิ เขาค้อ

ฐานอิทธิ เขาค้อ

ฐานอิทธิ เขาค้อ

ฐานอิทธิ เขาค้อ

ฐานอิทธิ เขาค้อ
พระตำหนักเขาค้อ เยี่ยมชมฟรี แต่มิได้ให้เข้าชมด้านใน เพราะยังอาจจะเสด็จมาทรงงานที่นี่อยู่ พระตำหนักนี้สร้างไว้สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จมาทรงงาน ในการสู้รบในสมัยที่มีการรบกันอยู่
พระตำหนัก อยู่ใกล้เคียงกับเขาย่า  

พระตำหนักเขาค้อ

พระตำหนักเขาค้อ
 จะเหมือนเป็นที่ทรงงานมากกว่า จะเป็นที่พักอาศัย เหมือนพระตำหนัก ดอยตุง

พระตำหนักเขาค้อ

พระตำหนักเขาค้อ
ไปรษณีย์ เขาค้อ
 จุดที่ไปรษณีย์เขาค้อ เป็นจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาตั้งเต้นท์ ไว้ เพราะตรงนี้ก็วิวสวยดี มองข้างล่าง เป็นหนองน้ำ

ไปรษณีย์ เขาค้อ
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
 อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง อยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักเขาค้อมาก แต่ไปแล้ว ไม่ค่อยจะมีอะไร หรือผมไม่ได้เข้าไปดูลึกๆ ก็ไม่รู้  มันก็จะเป็นทุ่งหญ้ากว้างๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก จากที่ตาเห็นได้  แต่อาจมีสิ่งพิเศษที่ตาเห็นไม่ได้อยู่

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
 พักที่โรงแรม เมทนีดล ครับ
โรงแรมนี้อยู่เข้าไปในซอยนิดหน่อย  พื้นที่โรงแรมกว้างพอสมควร เป็นพื้นที่ราบๆ  มองไม่เห็นวิวเท่าไหร่ แต่โรงแรมก็สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวก โอเค
อันนี้ทัวร์จัดมาให้

โรงแรมเมทนีดล เขาค้อ

โรงแรมเมทนีดล เขาค้อ

โรงแรมเมทนีดล เขาค้อ

โรงแรมเมทนีดล เขาค้อ
 มีห้องจัดเลี้ยง สำหรับ งานสัมนาบริษัท ได้สบายครับ

โรงแรมเมทนีดล เขาค้อ
 ส่วนห้องพักผ่อน
โรงแรมเมทนีดล เขาค้อ
โดยสรุปแล้ว ทริปนี้เป็นทริปที่ประสบความสำเร็จ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะเลย  ไม่เคยไปเขาค้อ ไม่เคยไปภูทับเบิกก็ได้ไปครับ  ถึงกับคิดอยากไปมีบ้านอยู่แถวเขาค้อเลย  ถ้าอากาศเย็นๆ ทั้งปีก็คงจะดีครับ