วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

สสส จอมบึงมาราธอน 2559 (จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31)

จอมบึงมาราธอน 2559
บทความนี้ เป็นบทความที่เขียนเกี่ยวกับประสบการณ์การไปจอมบึงมาราธอน ในปีเดือนมกราคม 2559 ที่เพิ่งผ่านมานี้เองครับ  การจัดจอมบึงมาราธอนครั้งนี้ เป็นการจัดครั้งที่ 31 แล้ว  และในการจัดแข่งขันครั้งนี้ เป็นการแข่งที่ได้รับความนิยมสูงมาก ได้ยินว่า เต็มกันตั้งแต่สองสามวันแรกที่เปิดสมัครกันเลยสำหรับระยะมาราธอน  ผมว่าสนามจอมบึงนี่เป็นสนามที่เหมือนเป็นสนามในตำนาน ของประเทศไทย ที่ว่าใครจะวิ่งมาราธอนต้องมาวิ่งบูชา กันที่สนามนี้ให้ได้ครับ  ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้น

จอมบึงมาราธอนครั้งนี้จัดในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2559 ซึ่งผมก็ขับรถจากกรุงเทพ ไปตั้งแต่เที่ยงของวันเสาร์ เพื่อที่จะไปรับ บิบ และไปดูว่างาน expo ที่จอมบึงมีอะไรบ้างครับ  ใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมง  เพราะการจราจรติดขัดบริเวณนครปฐม

พอไปถึงผมก็ไปจอดรถที่ศาลาว่าการอำเภอจอมบบึงครับ  ซึ่งจากตรงนั้นต้องเดินไปประมาณ หนึ่งกิโลเมตรกว่าๆ

ศาลาว่าการอำเภอเมืองจอมบึง
แต่ระหว่างทางที่เดินไป ก็ไม่เหงา เพราะมาน้องๆ มาจัดแถวต้อนรับคึกคัก ตลอดทาง

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
 มีทีมต่างๆมา กันมากมาย 
จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
ไปรับ race pack ที่หอประชุมครับ

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
 และเขาก็จะให้ เลือกว่า จะวิ่งใน block ไหน คือจะปล่อยตัว พวกวิ่งเร็วๆ ไว้ข้างหน้า จะได้ไม่ต้องแซงกันมาก  ผมก็เลย เลือกว่าจะวิ่งใน block C ที่บอกว่า วิ่งเข้าระยะมาราธอน ด้วยเวลาต่ำกว่า 5 ชั่วโมง

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
จอมบึงมาราธอน เข้ามีประวัติศาสตร์ยาวนาน ถึงความร่วมมือร่วมใจของชุมชน ที่ยินดีร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงานมาราธอน ในทุกๆปี  งานมันถึงได้ดีกว่าที่อื่น ที่หลายๆ แห่งชุมชนไม่ได้ยินดีด้วย  และที่หนักกว่า อาจถึงขั้นรู้สึกว่า จะมาวิ่งกันทำไม เกะกะถนน

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
ครั้งนี้ผมไปพักกับเพื่อนๆที่โรงแรม Western Grand ราชบุรี  โรงแรมนี้อยู่ในตัวเมืองราชบุรี  โรงแรมนี้ห่างจากที่วิ่งประมาณสามสิบกิโลเมตร  ทำให้วันที่วิ่งนั้นต้องตื่นมาเช้าพอควร  คือวิ่งกันตีสี่ เราก็ตื่นกันตีสองสี่สิบห้าครับ  เช้าสุดๆ  เรื่องห้องน้ำนี่ต้องเสี่ยงดวงกันไป  พยายามทำให้ได้จะได้ไม่ต้องเกิดอุบัติเหตุระหว่างกันแข่งขัน

โรงแรม Western Grand ราชบุรี

โรงแรม Western Grand ราชบุรี
เย็นนั้นเราก็ไปฉลอง กันที่ Bouno ตรงหอนาฬิการาชบุรีครับ

Bouno Dine and Wine

Bouno Dine and Wine

Bouno Dine and Wine

Bouno Dine and Wine
เติมเบียร์ เติมอาหารไปบ้างตอนเช้าจะได้ไม่หิวเวลาไปวิ่งครับ

พอถึงเวลาไปวิ่ง เราก็ตื่นกันตั้งแต่ตีสองสี่สิบห้า แล้วก็นั่งรถไปคันเดียวกัน  ไปถึงจุดสตาร์ท ทันเวลา

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
 พอใกล้ๆ จะปล่อยตัว เขาก็ปล่อยให้คน มาออ กันอยู่ดี
จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
วาร์ปไป ตอนที่ผมวิ่งเสร็จแล้วเลยละกัน เดี๋ยวค่อยมาเล่า เรื่องการวิ่งการซ้อมและความรู้สึกกันอีกทีนะครับ

เวลาตาม chip นะครับ ได้ 4.12 ชั่วโมง  ได้ที่ 64 ในรุ่นอายุ 40-45  ที่มีคนมาสมัครกันถึง 2428 คนกันทีเดียว  เป็นงานวิ่งที่คนมาลงระยะมาราธอนกันเยอะมาก

จอมบึงมาราธอนครั้งที่ 31
ผลจาก endomondo ครับ

เห็นได้ชัด ว่าผม "เริ่มหมด" ตั้งแต่วิ่งไปได้สองชั่วโมง  และหลังจากนั้นหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าจริงๆ ผมซ้อมไม่พอนั่นเองครับ


ว่าด้วยเรื่องการซ้อมในครั้งนี้

ผมวิ่งมาราธอนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครับ

ผมลงมาราธอนครั้งแรก เมื่อปี 2557 เดือนมิถุนา ที่ภูเก็ตมาราธอน ตอนนั้นยังตัวบวม มาก วิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 5.15 ชั่วโมง ครั้งนั้น เหนื่อยมาก ร้อนมาก เข้ามา นี่หมดสภาพ และเกิดอาการเข็ด มาราธอน ไปพักนึงเลยละ
กลับมาอีกที ปี 2558 เดือนมิถุนา ระหว่างนั้นทั้งปี ไม่ได้ลงวิ่งมาราธอนเลย สักครั้งเดียว ลงเพราะกลับไปแก้มือ ที่สนามเดิม หวังว่าต้องทำได้ดีกว่า จากการซ้อมง่อยๆ ไป แล้วหวังว่าจะดีขึ้นเยอะๆ ซึ่งปรากฎว่าเป็นไปไม่ได้ วิ่งเข้ามา เร็วกว่าครั้งแรก ไปประมาณสิบนาที ได้ เดินซะเยอะ เหมือนเดิม วิ่งมาที่เส้นชัยที่เวลา 4.58 ชั่วโมงครับ

มาราธอนครั้งล่าสุด ที่จอมบึงมาราธอน มกรา 2559 ซ้อมมาครึ่งปีหลังของปี 58 ตั้งแต่ โดนเพื่อนจับ ส่งระยะ หลังจากนั้น ก็ซ้อมวันละ สิบกิโลเมตร ทุกวัน ไม่ได้เข้า แผนใคร วันเสาร์ก็วิ่ง ยี่สิบกิโลเมตร หรือลงสนามระยะ half แต่ไม่เคยซ้อมยาวกว่านั้น สักครั้งเดียว ผลออกมา อย่างที่เห็นครับ  เข้าเส้น ที่ 4.12 ชั่วโมงเวลาตามชิบครับ

แต่ดูจาก กราฟใน endomondo ก็เห็นชัดเลย ว่า ซ้อมไม่พอครับ  แล้วก็สนามภูเก็ต เป็นสนามที่มีเนิน และก็อากาศร้อนอบอ้าว กว่าสนามจอมบึง มากๆ  สนามจอมบึงง่ายกว่าสนามภูเก็ตพอสมควรครับ แม้ครั้งนี้จะทำเวลาได้ ดีมากกว่าสองครั้งที่ภูเก็ตมาก  แต่ผมก็ต้องกลับไปวัดฝีมือที่ภูเก็ตมาราธอน อยู่ดี

จากครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า ต้องซ้อมให้หัวใจชินกับการวิ่งนานๆ กว่าสองชั่วโมง ถ้าอยากทำเวลาให้ดีกว่านี้ครับ

สำหรับการวิ่งมาราธอนนั้น  ผมว่าถ้าใครๆคิดจะมาทำให้จบ ใครๆก็ทำได้ครับ  ยิ่งสนามจอมบึงก็ไม่มี cut off ด้วย เขาก็รอไปจนถึงคนสุดท้ายจะเข้ามา   ผมคิดว่า หัวใจของการวิ่งมาราธอน นี่อยู่ที่การฝึกซ้อมครับ  แล้วถ้าไม่ไหว จริงๆ เราค่อยไป ใช้ความถึก ความอดทน เอาให้จบ กันตอนนั้น  แต่ไม่ใช่ว่า ไม่ซ้อม หรือซ้อมง่อยๆ แล้วหวังจะไป ถึก อดทน จนจบเอาที่สนามแข่ง  ผมว่าไม่ใช่แบบนั้น  ถ้าการวิ่ง 42 กิโลเมตรคือการวิ่ง แล้วอีก หลายพันกิโลเมตรที่ซ้อมมา ไม่ใช่การวิ่งหรืออย่างไรครับ  ถ้าวิ่งแบบไม่พร้อม ท่านอาจบาดเจ็บ และเป็นภาระแก่ตนเองและผู้อื่นได้ง่ายๆ เลยครับ   ซ้อมให้พอก่อนไปมาราธอนดีที่สุดครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่าน

  เพิ่มเติม  ( เขียนเพิ่มจากการส่งออกครั้งแรก)

1. การวิ่งครั้งนี้ มีที่ต่างจากทุกครั้งคือ ผมวิ่งแวะเข้าห้องน้ำข้างทางด้วยครับ  เวลาตื่นเช้าๆ นี่เรื่องห้องน้ำ ปั่นป่วนได้เลยนะครับ
2. ครั้งนี้ กิน Gel ไปชั่วโมงละหนึ่งซอง ซึ่งแตกต่างจากมาราธอนสองครั้งแรก ที่กิน Gel แค่ ซองเดียวจากการวิ่งทั้งงาน เพราะมี Gel อยู่แค่ซองเดียวเอง  ผมว่า Gel ก็มีส่วนทำให้วิ่งดีขึ้นครับ
3. งานจอมบึงมาราธอน นี่รอแจกถ้วย นานมาราธอน มากพอๆ กับวิ่งมาราธอนกันเลยทีเดียว  ผมว่าถ้านักวิ่งมาไม่ครบ ก็ข้ามๆ ไปบ้างก็ได้  เพราะถ้วยก็เยอะขนาดนั้น  การรอคนที่ไม่รู้หน้าที่ จะทำให้คนดีๆ ที่เขารู้หน้าที่ ต้องมานั่งรอนานมากนะครับ  เฉพาะถ้วยพระราชทาน ก็พอที่ต้องรอ  ส่วนพวกสปอนเซอร์ถ่ายรูปนี่ จริงๆ ถ่ายไปตั้งแต่วัน expo เลยก็ได้ เขาแค่จะเอาภาพไปลง PR หรือเปล่า (ความเห็นส่วนตัว)

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

สวัสดีปีวอก 2016 ครับ จาก Ichiro's blog

ร้านอาหารอินจัน, Sampran riverside
สวัสดีปีใหม่ครับ  Ichiro's blog ปีนี้ ก็เข้าปีที่ หกแล้ว ขอบคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่ทำให้เรายังมีวันนี้  จากการแค่เริ่มเขียนเล่นๆ ลองมาทำเป็นวีดีโอ  แล้วก็มีคนมาขอให้เขียน จนกลับไปถึงความรู้สึกที่ว่า เราควรทำเป็นแค่ Blog ส่วนตัวเฉยๆ  และปิด fanpage เสีย จะได้ไม่มีใครมาติดต่อกับเราได้อีกครับ

ปีใหม่ 2016 เป็นปี ของการละทิ้ง เป็นปีของการที่ผมรู้สึกว่าควรจะหยุด ควรจะเลิก เลิกทำสิ่งที่เป็นส่วนเกินของชีวิตไป  ละทิ้งความสำเร็จ ความล้มเลวและหลายๆ อย่างที่ทำให้เราเป็นเราจนวันนี้ครับ  ซึ่งอาจรวมถึง blog นี้ด้วย  แต่โชคดี ที่ blog นี้มีไว้เพื่อบันทึก ไม่ได้มีไว้ เพื่อสะสมตัวตน มันจึงน่าจะรอดจากการถูกทิ้ง   ปีใหม่ 2016 ผมจึงไม่ได้ไปไหนเลย แต่อยู่แต่ในกรุงเทพฯ และก็ไปทานที่ร้านอาหารอินจัน ที่สวนสามพราน ตรงนี้แต่ก่อนเป็น rose garden แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็น  สามพรานริเวอร์ไซด์ นานแล้วครับ  ดีนะที่นี่

ร้านอาหารอินจัน ที่ สามพรานริเวอร์ไซด์  อร่อย ไม่แพง วิวสวย ราคาโอเค  ดีงามทุกอย่าง แนะนำครับ

ร้านอาหารอินจัน, Sampran riverside

ร้านอาหารอินจัน, Sampran riverside

ร้านอาหารอินจัน, Sampran riverside

ร้านอาหารอินจัน, Sampran riverside
นอกจากไปร้านนี้ แล้วก็ไปเดินห้างครับ   ไปร้าน Paul กับ ร้าน St. Marc cafe  ครับ  ไปที่สาขา Central world

ร้าน St. Marc เป็นร้านที่ผมชอบไปกินครัวซอง มากๆ สมัยเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ  ที่ร้่านที่ญี่ปุ่นถ้าไปทานอาหารเขาจะให้ทานครัวซองฟรี  แต่พอทานที่ร้านเมืองไทยแล้วผมรู้สึกว่า มันไม่อร่อยเท่ากับที่ญี่ปุ่นครับ  รู้สึกผิดหวังนิดๆ

 ร้านนี้เป็นร้านที่ขายของหวานเป็นส่วนใหญ่


St. Marc Cafe', Central World

St. Marc Cafe', Central World

St. Marc Cafe', Central World

St. Marc Cafe', Central World


อีกร้านคือ ร้าน Paul  ร้าน Franchise  ซึ่งร้านนี้ผมเคยไปทานมาแล้วที่สาขา Central Embassy  ร้านนี้มีอาหารทานด้วยครับ

 
Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

Paul, Central Embassy

สุดท้ายแล้วครับ  ผมเหนื่อยครับ ปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีเลย  เหมือนล้ามาข้ามปี

เคยเหนื่อยไหมครับ คนเราเหนื่อยเพราะอะไร เพราะว่า ทำงานเยอะเลยเหนื่อย เพราะว่า ทำงานเยอะ แต่จุดหมายยังเลือนรางก็เลยเหนื่อย หรือเพราะว่า เราไม่รู้ว่าเรากำลังไปไหนกันแน่

ถ้าแม้น แม่น้ำทุกสาย ต้องมีมหาสมุทร เป็นจุดหมาย เพียงแค่เราลอยอยู่ในแม่น้ำ แม้จะไม่ว่ายน้ำ ก็ย่อมลอยไปถึงมหาสมุทร อยู่ดี ไม่ต้องพยายาม

หรือแท้จริงแล้ว เป้าหมายที่ใครๆ ตั้งขึ้นมานั้น ล้วนเป็นเพียงเป้าหมายชั่วคราว ที่ พอถึงแล้วก็มีเป้าหมายใหม่ เรื่อยๆไป ไม่มีวันสิ้นสุด รังแต่จะพาให้เหนื่อยกาย ใจ เพียงเท่านั้น

หากเราอยู่ในแม่น้ำที่ถูกสาย สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องไปถึงมหาสมุทรอันเป็นจุดหมายอยู่ดี ดังนั้นถ้าเราเลือกทางเดินที่ถูกทาง เลือกแม่น้ำที่ถูกสายแล้ว ก็คือเราอยู่ในจุดหมายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนพยายามมาก สุดท้ายก็ไปถึงจุดหมายของเราอยู่ดี แค่มีความสุขในทุกๆเวลาที่อยู่ในเส้นทางนั้น ก็ดีแล้ว

แต่ถ้าอยู่ เส้นทางที่ผิด ต่อให้พยายามแค่ไหน ก็ย่อม ไปถึงจุดหมายที่ผิด ครับ  ดังนั้น การค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องของตัวเองนั่นต่างหาก ที่คือจุดหมาย

สวัสดีปีใหม่ อีกที ครับ