|
Water Library Restaurant Bar |
ถือว่าโชคดีอีกแล้ว ที่ได้ไปทานร้านนี้นะครับ เพราะราคาในการรีวิวครั้งนี้ ถ้าต้องจ่ายเองคงจะพุ่งปริ๊ด ทำ new high ของการรีวิวร้านอาหารใน blog แห่งนี้อย่างแน่นอนครับ เมื่อสามปีที่แล้ว ผมเคยรีวิวร้านอาหาร Water Library สาขาแรกที่จามจุรีสแควร์ไปครับ
ตาม link นี้ และจนถึงทุกวันนี้ ร้าน Water Library ก็เป็นหนึ่งในร้านที่ผมมักจะแนะนำให้เพื่อนๆไปลองทานกันอยู่เสมอๆ ส่วนสาขาที่
The Grass Thonglor นี่ได้ข่าวว่าเปิดมาเป็นปีแล้วเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ไปรีวิวสักที เพราะราคาแพงเหลือหลายสำหรับผมครับ เผลอๆ ร้านนี้อาจเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่แพงที่สุดในกรุงเทพ ณ เวลานี้ก็เป็นได้
เมื่อเร็วๆนี้ได้ผมได้ข่าวว่า Water Library จะเปิดสาขาที่ธัญญะพาร์ค พอผมได้เจอท่านลูกชายเจ้าของร้านผมเลย เอ่ยปากบอกว่า "กะจะไปรีวิวที่ร้านใหม่เพราะได้ข่าวว่าจะราคาถูกกว่าเดิม ส่วนร้านที่ทองหล่ออยากไปรีวิวเหมือนกันแต่คงไม่มีปัญญาจะจ่าย" ท่านเลยตอบมาว่า "เดี๋ยวผมบอกคุณพ่อให้เชิญพี่ไปทานที่ร้านดีกว่า" แล้วท่านก็เงียบหายไปสักเดือนหนึ่ง จนจู่ๆกระทันหันเล็กน้อย ผมก็ได้มีโอกาสไปทดลองทานที่ Water Library สาขา Grass ทองหล่อจนได้ครับ นับเป็นโชคดีของผม และต้องขอบคุณท่านเจ้ามือด้วยครับ
อันนี้ facebook ของ Water library
ร้าน Water Library สาขาทองหล่อแห่งนี้เปิดมาได้ เกือบปีแล้วครับ ด้านล่าง เป็น Bar นั่งดื่ม ส่วนชั้นบน เป็นโต๊ะอาหารโต๊ะยาวๆ คล้ายๆแบบ Sushi bar คือเรานั่งหันหน้าเข้าหาคณะ Chef ครับ Chef จะทำอาหารให้เราดู พูดคุย และอธิบายถึงอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ ไปด้วย ที่นั่งนั้นรับเต็มที่ได้ 11 ที่ (หากมาด้วยกันทั้ง 11 ท่าน) ซึ่งปกติจะจัดโต๊ะไว้หลวมๆ กว่านั้นครับ ราว 8-10 ที่ และในแต่ละวัน เสริฟ ให้ลูกค้าแค่เท่านั้นท่าน จริงๆครับ
เนื่องจากที่ร้านอาหารนี่เรา serve พร้อมๆกันทุกคนครับ เมื่อเข้ามาถึงถ้ายังไม่พร้อมกัน หรืออาจมาเร็ว ก็นั่งรอข้างล่าง ดื่มเครื่องดื่มพิเศษที่ Manager จัดให้ก่อน ซึ่งก็อร่อยมากๆ
|
Welcome drink |
ด้านล่างของ Water Library ทองหล่อ เป็น Bar ครับ มีทั้งที่นั่ง indoor และ out door
|
ด้านล่าง Water Library ทองหล่อ |
ส่วนของการรับประทานอาหารขึ้นชั้นสองมา จะพบว่านั่งเรียงกัน เมื่อนั่งประจำที่จะพบกับจดหมาย
|
Water Library ทองหล่อ |
|
Water Library ทองหล่อ |
รายการอาหารเป็นอาหาร Course 12 อย่างครับ เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตอนที่ไปทานยังเป็นของ Summer อยู่ เพราะใช้ฤดูตามต่างประเทศ กว่าจะทานเสร็จใช้เวลาไปร่วม 3 ชั่วโมงได้
|
Course อาหาร |
รายการอาหารมีให้เลือกว่าจะ ทานอาหารเฉยๆ หรือจะ pairing กับเครื่องดื่ม หรือจะเลือก pairing กับเครื่องดื่มอย่างดี นะครับ ถ้าเลือก paring กับเครื่องดื่มอย่างดี ราคาจะพุ่งไปสองเท่าของ ราคาของอาหาร pairing กับเครื่องดื่มแบบไม่ exceptional ทีเดียว
ดูอาหารเลยดีกว่าครับ คู่แรก สาเก มาคู่กับ คาเวียร์
|
Tengumai Yamahai Junmai Ginjo |
|
Caviar |
ต่อด้วย Iwashi อาหารที่ตกแต่งเหมือนสวน มีปลา มีโฟกรา ส่วนที่เห็นคล้ายๆ cracker เสียบอยู่นั้น ทำจากกระดูกปลาซาดีน
|
Iwashi |
อาหาร course สองออกมาคู่กับ Joh.Jos Prum ปี 2007 จากเยอรมันนี
|
Joh Jos Prum |
ต่อด้วยอย่างที่สามใน course โดยที่ paring ยัง pair กะตัวเดิมข้างบน อย่างที่สามเป็น "Cerises Jaunes Tomatoes"
|
Tomatoes |
อย่างที่สี่ เป็นการเล่นสนุกนิดๆ ด้วยอาหารที่หน้าตาคล้ายโดนัท และใส่มาในกล่องที่สั่งทำพิเศษ สีของกล่องชวนให้นึกถึง mister donut จริงๆ
|
Doughnut? |
Homemade Glazed Doughnut
|
Doughnut?
|
ทานคู่กับ Deus Cuvee Prestige 2011 จาก Belgium
|
Deus |
จานนี้เป็นกุ้ง เห็ด Truffles อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่างครับ หน้าตาดี มี story และก็อร่อย
|
Carabineros |
สามสี่อย่างแรกนี่ pairing กะ wine สีขาวทั้งหมด รายการนี้ก็เช่นกัน pairing กับ Chablis จากแคว้น Burgundy ประเทศฝรั่งเศส
|
Chablis Domaine Faiveley 2010 |
wild ocean trout อันนี้เหมือนจะดิบ แต่จริงๆ สุกแล้วครับ
|
wild ocean trout |
เปลี่ยนเป็น wine แดงมั่งแล้ว เป็น Pinot noir จาก USA
|
Au Bon Climat, Knox Alexandra 2007, USA |
ทานคู่กับ Langoustine น่าจะเป็นหูหมู กับกุ้ง
|
Langoustine |
แล้วก็ต่อด้วย Quail นกกระทา
|
Quail |
Wine แดง Chateau Malescot St. Exupery Troisieme , Margaux France
|
Grand Cru Classe 2003 Margaux France |
ทานกับเนื้อ ฮิโรชิม่า จะสังเกตในรูปว่า ไวน์แดงเริ่มมีสองแก้ว เพราะดื่มไม่ทัน
|
Le Boeuf de "Hiroshima" |
ของหวานมีสามอย่างครับ อย่างแรก Fourme D'Ambert
|
Fourme D' Ambert |
Sparkling ไว้คู่กับของหวาน
|
Sparkling Grand Cuvee Italy |
ทานไปทานมา จะมีหลายแก้วแบบนี้ครับ
Peach ญี่ปุ่น
|
Momo |
Petit ห้า นี่จัดเป็นเหมือนจัดสวนญี่ปุ่นเลย
|
Petit ห้า |
ครับ ชมภาพอาหารและเครื่องดื่มกันจนอิ่มเลยทีเดียว สำหรับผมในวันนั้นเริ่มทานเริ่มดื่มราวๆ สามทุ่ม กว่าจะจบ course เข้าไปราวๆ เกือบเที่ยงคืนครับ เล่นเอาง่วงทีเดียว และค่อนข้างเมาเพราะหลายขนานมาก
สรุปสั้นๆ water library ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง แม้ว่าจะเคยไปทานแค่สามครั้งเท่านั้นเองครับ เพราะราคาค่อนข้างสูงสำหรับผม และก็เป็นการรีวิวที่มีราคาสูงที่สุดใน blog แห่งนี้ตั้งแต่รีวิวมา เรียกว่าทำสถิติสูงสุดใหม่ทีเดียว
ร้าน water library สาขาทองหล่อ นี่คงจะเหมาะกับนักธุรกิจไปนั่งคุยกัน หรือเหมาะกับ นักทานที่ชื่นชอบ ความสนุกสนานไปพร้อมๆกับการรับประทานครับ หากงบถึง รับรองไม่ผิดหวังครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น