|
The Luang Say Residence |
ความเดิมตอนที่แล้ว เราได้เดินทางมาที่เมืองหลวงพระบางเมืองมรดกโลก เป็นครั้งแรกครับ ตอนแรกได้พูดถึงการเดินทางและเรื่องทั่วๆ ไปเอาไว้
อ่านตอนแรกที่นี่ครับ
หลวงพระบางเป็นเมืองที่เป็นเมืองหลวงแรกของลาว มาตั้งแต่ราว 700 ปีก่อน เรียกว่ามีอายุพอๆ กับอาณาจักรอื่นๆในย่านอุษาคเนย์ และทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าแต่เดิมลานนากับลานช้าง นั่นก็เป็นอาณาจักรเดียวกัน หรือไม่ก็มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด
เมืองหลวงพระบางเป็นเมืองเล็กๆ ที่แม้แต่ในปัจจุบัน ก็มีประชากรอยู่ยังไม่ถึงหนึ่งแสนคน แต่มีประชากรที่เป็นพระอยู่ถึง เป็นพันรูปทีเดียว ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นมาบวชเรียน ไกด์เล่าให้ฟังว่าไกด์ที่พูดภาษาต่างประเทศได้หลายภาษาส่วนมาก มาบวชเรียนเป็นพระอยู่ที่วัดที่หลวงพระบางก่อน ทำให้นึกไปว่าประเทศไทยเราแต่ก่อนก็มีวัฒนธรรม บวชเรียน แบบนี้เหมือนกัน
ด้วยความที่เป็นเมืองที่เล็ก ประชากรน้อย หลวงพระบางจึงตกเป็นเป้าให้ถูกรังแกโดยประเทศที่มีจำนวนทรัพยากรมากกว่าเสมอๆ จนเมื่อครั้งบุเรงนองแห่งพม่า ยึดเอาล้านนาไปเป็นเมืองขึ้น ชาวหลวงพระบางก็เกรงว่าบุเรงนองจะมาบุกที่นี่ด้วย จึงได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เวียงจันทน์ ตั้งแต่ครั้งนั้นมา
กาลเวลาผ่านไปจนถึงสมัยอาณานิคม จากความเชื่อที่ว่าผู้ใดยึดทะเลได้ ผู้นั้นครองโลกได้ จึงเกิดการแข่งขันของชาติมหาอำนาจในการขยายอาณานิคมของตัวเอง และได้ส่งนักสำรวจมาสำรวจรวมทั้งสร้างเมือง อยู่ตามอาณานิคมต่างๆของตัวเอง ซึ่งในหมู่ประเทศในอุษาคเนย์ตะวันออกนั้น ได้รับอิทธิพลจากประเทศทางยุโรปคือประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศสก็เคยมาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยสมัยพระนารายณ์นะครับ
ส่วนประเทศลาวนั้น มีช่วงหนึ่งที่ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเลย แต่ที่เล่ามาตั้งยาวนี่ก็เพื่อให้เห็นภาพประวัติศาสตร์บ้าง เพื่อผสมผสานเข้ากับสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยอ้างอิงจากสตอรี่ ทางประวัติศาสตร์ครับ ซึ่งก็คือโรงแรม หลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง แห่งนี้ครับ
website ของโรงแรมครับ
http://www.luangsayresidence.com/
|
The Luang Say Residence |
บริการในเครือโรงแรม หลวงไซ มีทั้ง cruise และมีโรงแรม ซึ่งมีโรงแรม หลวงไซ ลอด์จ ด้วยครับ และอื่นที่ผมอาจจะไม่ทราบ แต่อยู่ในเครือหลวงไซ เช่นกัน และที่ผมอ่านว่าหลวงไซ ก็เพราะไกด์นี่แหละสอนมา เราเห็นภาษาอังกฤษอาจจะอยากอ่านว่า หลวง เซย์ ( Luang Say ) จริงๆ น่าจะเป็น หลวงไซ หรือหลวงทรายนี่แหละครับ
โรงแรมนี้กับ
โรงแรมปิงนครา ที่เชียงใหม่ มีความคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อยทีเดียวครับ
โรงแรม The Luang Say Residence เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นานนัก โรงแรมนี้อยู่ห่างตัวเมืองหลวงพระบาง เรียกว่าเดินไปก็ไกลอยู่ ในขณะที่โรงแรมชั้นนำจำนวนมากตั้งอยู่ที่ตรง down town หลวงพระบางเลยครับ แต่ข้อดีที่ได้มาก็คือคนไม่พลุกพล่าน รถไม่เยอะ อากาศดี ครับ
|
The Luang Say Residence |
|
The Luang Say Residence |
ด้านรางวัลนั้น ได้รางวัลมามากมายครับ แต่รางวัลที่โรงแรมภูมิใจมากที่สุดคือ รางวัล
World Luxury Hotel Awards 2012 ครับ ใน category Luxury Boutique hotel ครับ ของไทยในปีเดียวกันที่ติดก็มี เลอบัว กับ ดุสิต ครับ แต่ของประเทศลาวเอง มีโรงแรมนี้เท่านั้น
|
The Luang Say Residence |
|
The Luang Say Residence |
โรงแรมประกอบด้วยหมู่อาคาร ที่เป็นที่ตั้งของ Pioneer suite ขนาด 43 ตารางเมตร ที่ตรงหน้าอาคารจะมีรูปปั้นของนักบุกเบิก หรือนักสำรวจชาวฝรั่งเศส ที่เป็นผู้บุกเบิกในย่านนี้ รวมทั้งมีเรื่องราวของเขาเหล่านั้นติดให้ศึกษากันไว้ที่ผนังของอาคาร โรงแรมนี้สร้างจากแรงบันดาลใจของที่พักตามศิลปะในยุคที่นักบุกเบิกเหล่านั้นมาเยือนหลวงพระบางครับ
|
The Luang Say Residence |
Auguste Pavie (1847-1925) ท่านกงศุลหลวงพระบาง และ ท่านเคยมาประจำที่เมืองไทยหลังจากนั้น
|
Auguste Pavie |
Louise Delaporte ( 1842-1925) นักสำรวจ นักวาดรูป ผู้บันทึกเหตุการณ์เดินทางแห่งยุคสมัย
|
Louise Delaporte |
Henri Mouhot ( 1826-1861) ท่านเป็นนักสำรวจ นักธรรมชาติวิทยา นักแมลง ในรูป ท่านคงกำลังถือไม้จับแมลง
Henri Mouhot เป็นนักสำรวจชาวฝรั่งเศสที่ได้รับเงินสนับสนุนจากอังกฤษ เดินทางสำรวจดินแดนแถบนี้ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ของไทย ชื่อเสียงของท่านเกิดจากการที่พบนครวัด และเผยแพร่เรื่องนี้สู่สาธารณะ ในปี 1861 ท่านได้เดินทางอีกครั้งจากกรุงเทพ ไปหลวงพระบาง แต่ป่วยเป็นไข้ป่าและเสียชีวิตลงที่หลวงพระบางด้วยวัย 35 ปี
หลุมศพท่านอยู่ที่ หมู่บ้าน ทางตะวันออกของ หลวงพระบาง ริมแม่น้ำคาน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นบริเวณที่เคยเป็นค่ายพักแรมสำรวจ ที่ท่านเคยเขียนพรรณาความงามของคืนวันเพ็ญ ในสมุดบันทึกของท่าน ปัจจุบันหลุมศพของ Henri Mouhot เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป
|
Henry Mouhot |
Doudart de Lagree & Francis Garnier ทั้งสองท่านนี่เป็นทหาร ผู้นำกลุ่มสำรวจ French Mekong expedition ท่านแรกเสียชีวิตในหน้าที่
|
Doudart De Lagree |
|
Francis Garnier |
ผมเล่าจนครบทุกท่านเพราะไม่อยากตัดท่านหนึ่งท่านใดออกไป
|
The Luang Say Residence , Luang Prabang |
|
The Luang Say Residence , Luang Prabang |
อาหารเช้า ที่นี่ไม่มี buffet แต่เป็นเมนูให้เลือกครับ ห้ามพลาดขนมปัง เพราะอร่อยมากๆ เลย ชาวลาวได้เรียนรู้การทำขนมปังฝรั่งเศสไว้ด้วย
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
ที่นี่เขาเสริฟ อาหารเช้าเริ่มต้นด้วยผลไม้ครับ แต่เราจะเลือกบอกเขาให้เอามาทีหลังก็ได้
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
อาหารมีหลายแบบให้เลือกผมได้เลือกมาทุกอย่างเลย ในรูปนี้คือ ออมเลต ลาว มันเลยดูแบนๆ :)
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
Egg Benedict
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
ข้าวต้มปลา
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
ก๋วยเตี๋ยวลาว
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
Oat meal
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
คงจะประมาณนี้ สำหรับรีวิว ตอนที่สองของทริปหลวง พระบางเมืองมรดกโลกนี้ครับ ท่านนักสำรวจที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง ในยุคนี้ที่ทุกคนพูดว่า "วันนึงเราจะต้องตาย" แต่น้อยคนนักที่ดำรงชีวิต อยู่ด้วยการคิดอย่างนั้นจริงๆ คนจำนวนมากถูกโปรแกรมให้สะสมของ ฉันจะต้องได้ ฉันจะรวย ฉันจะเสพสุข ฉันจะมีชื่อเสียง น้อยคนที่จะมีความคิดว่า ฉันจะให้อะไรกับคนอื่น ให้อะไรกับโลกนี้ได้บ้าง หรือบ้างก็บอกว่า "ถ้าฉันมี ฉันจะได้ให้"
หลายคนให้ ก็เพียงด้วยความเชื่อว่า "ให้ แล้วจะได้มากกว่าที่ให้ไป " "ให้เพื่อจะ ได้ อะไร " ไม่ใช่ " ให้ เพื่อลดกิเลสของตน ให้เพราะเพื่อความดีขึ้นของคนอื่นและของสังคม "
ท่านนักสำรวจได้สอนผมว่า ชีวิตที่ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีแล้ว คือชีวิตที่หน้าจดจำ ชีวิต ที่อยู่เพื่ออุทิศให้กับงาน ให้กับสังคมนั้น คือแบบอย่างที่คนรุ่นหลังจะจดจำ
ไม่ใช่คนที่ "มี" มากที่สุดหรอก ที่จะถูกจดจำ แต่เป็น คนที่ "ให้" มากที่สุดต่างหาก ที่คนจะจดจำได้ครับ
|
โรงแรมหลวงไซ เรสซิเดนซ์ หลวงพระบาง |
ตอนต่อไป จะพูดเรื่องการท่องเที่ยวในหลวงพระบางครับ
|
วัดเซียงทอง |
หลวงพระบางตอนที่ 3 ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น