|
Umeda Sky Building |
อย่างที่พาดหัวไว้นั่นแหละครับ ว่าโอซาก้า ในวันที่พยากรณ์อากาศว่า พายุจะเข้า ( จากความเดิมตอนที่แล้ว
http://phongthon.blogspot.com/2014/10/1.html ) ตอนที่เราไปคันไซครั้งนี้นั้น มีพยากรณ์อากาศมาตั้งแต่ก่อนไป ว่าพายุหมายเลข 18 ของปีนี้ ( ที่ญี่ปุ่นเขาเรียกชื่อพายุ เป็นหมายเลขครับ ) จะเข้าตั้งแต่วัน อาทิตย์วันจันทร์ ทำให้รถไฟ กิจการต่างๆ ที่อยู่กลางแจ้ง มีการเตรียมตัวรับพายุ และเลื่อนเวลาเปิดปิด ส่วนถ้าเป็นรถไฟ ก็มีการให้วิ่งให้ช้าลง
ส่วนทางพวกเรานั้น ก็มีการเตรียมตัวด้านแผนการเที่ยวเหมือนกัน ด้วย"คิดไปก่อน" ว่าฝนจะตก และตกหนักพร้อมพายุด้วย ดังนั้นอะไรที่เราทำเราก็เตรียมไว้แบบว่า พายุจะมา แต่ปรากฎว่า พายุไม่มาครับ ฟ้าใสกิ๊ก เพราะพายุไปเข้าที่แถบคันโตแทน
ผมเลยได้ความคิดว่า การที่เตรียมอะไรไว้ มันก็ดี แต่อย่าคิดไปว่าสิ่งที่เราคิดไว้หรือเตรียมไว้มันต้องถูก เสมอไป เพราะถ้ามันไม่มาตามที่เราคิด แต่เรายังไปทำตัวเหมือนที่เราคิดว่ามันจะเกิดอยู่ จะทำให้เราเสียโอกาสหลายๆอย่างไปครับ จริงๆ เราเตรียมไว้ก็ดี แต่สิ่งที่ควรปฎิบัติ คือให้ปฎิบัติไปตามที่มันเกิดจริงๆ ครับ อย่าไปดึงดันว่าความคิดที่เราคาดไว้ก่อนจะต้องถูก
ส่วนผมก็เช่นกัน ด้วยความที่คิดว่า พายุจะเข้า ก็เลยเปลี่ยนโปรแกรม ไม่ไปโกเบ แต่ไปขึ้นตึก Umeda sky building ที่อยู่ข้างๆ โรงแรมก่อน
ตึกนี้เป็นตึกสองตึก ที่สร้างขึ้นมาขนานกัน แล้วก็เอา ทางเชื่อมมาวาง เลยกลางเป็นตึกที่มี หัวติดกันอยู่ แบบในรูปครับ ซึ่งตรงหัวติดกันนี้แหละ เค้าทำเป็นจุดชมวิว เรียกว่า Floating garden
ผมคิดว่า ไปที่ตึกนี้ตอนที่อากาศไม่หนาว ไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก นิดหน่อย จะเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดครับ
|
Umeda Floating garden |
|
Umeda Floating garden |
จากรูปด้านบน ที่เห็นเป็น ทางพาดๆ มันคือบันไดเลื่อน ลอยฟ้าครับ
|
Umeda Floating garden |
มาถึงด้านบนแล้ว ตื่นตาตื่นใจ ขนาดไฟยังไม่เปิด
|
Umeda Floating garden |
ที่ด้านบนเป็นทางเดินวงกลมเดินชมวิวได้รอบ
|
Umeda Floating garden |
มีที่คล้องกุญแจแห่งความรัก ด้วย
|
Umeda Floating garden |
|
Umeda Floating garden |
กุญแจแห่งรัก
|
Umeda Floating garden |
อย่างที่เห็นในรูปครับ ว่าอาคารนี้อยู่ข้างๆ กับโรงแรม the Westin Osaka เลย เดินไปได้
|
Umeda Floating garden |
บ่ายนั่งรถไฟไปชม Osaka Aquarium หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าครับ Osaka Kaiyukan ที่ web ของ Kaiyukan มีภาษาไทยด้วยครับ http://www.kaiyukan.com/language/thai/
วิธีการไป Kaiyukan ก็นั่งรถไฟสาย Chuo ไปลงสถานี Osakako ครับ
|
Osakako |
บัตรเข้า Kaiyukan ทำเป็น package พ่วงกับ บัตรชิงช้าสวรรค์ได้นะครับ ที่ตรงใกล้ๆ กันมีชิงช้าสวรรค์ (ชิงช้าสวรรค์ เทมโปซัง ) อันใหญ่ สูงติด Top 3 ของโลก น่าลองเหมือนกัน
|
Kaiyukan |
|
Temposan |
|
Temposan Osaka |
อันนี้คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มองจากชิงช้าสวรรค์ครับ ที่เห็นเรือข้างๆ เป็นเรือโจรสลัดปลอมๆ ไว้นั่งชมอ่าว ซึ่งทำเป็น package ได้เหมือนกัน
|
วิวของ Kaiyukan จาก Temposan |
|
Kaiyukan |
ผมแนะนำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สำหรับท่านที่มาโอซาก้าครั้งแรกครับ มันจะตื่นตาตื่นใจทีเดียว เสร็จแล้วก็ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ หรือนั่งเรือต่อไปเลยก็ได้
เสร็จแล้วผมก็กลับมาแถวๆ Umeda เหมือนเดิมครับ มาซื้อของ Yodobashi แล้วก็ไปทานข้าวที่ร้านข้างบนห้าง Daimaru ได้ทานซูชิดังในรูปด้านล่าง
|
Sushi |
|
Yodobashi Umeda |
อีกวันหนึ่งเราก็นั่งรถไฟจากสถานนี Hankyu Umeda ที่เป็นต้นทางของรถไฟสายนี้ เพื่อนั่งไปยัง สถานี Sannomiya แห่งโกเบ ใช้เวลานั่งไม่เกินครึ่งชั่วโมงด้วยรถไฟ Limited express ครับ ซึ่งมันจอดแค่บางสถานี
รถมันดูเก่าๆ หน่อย
|
Hankyu |
Hankyu Kobe Sannomiya
|
Hankyu Kobe Sannomiya |
จากตรงสถานี เดินไปใกล้ๆ ก็จะพบสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโกเบ หลายแห่งครับ
|
Flower road |
|
Kobe |
โกเบเป็นเมืองท่ามาแต่โบราณ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศญีุ่่ปุ่น และอยู่ติดทะเลในแผ่นดินที่ชื่อว่า Seto และก็ติดมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย (คล้ายๆ กับสงขลาของประเทศไทย ที่ติดทั้งทะเลน้อยและทะเลหลวง)
ปัจจุบันเป็นท่าการค้าใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น ทำให้โกเบ มีชาวต่างชาติ มาตั้งรกรากที่เมืองนี้หลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะตั้งแต่ญี่ปุ่นโดนนายพลเพอร์รี แห่งกองทัพสหรัฐ ยกเรือรบมาปิดท่า เพื่อบังคับให้เปิดประเทศในช่วงศตวรรษที่ 19
เราสามารถยังพบเห็นอาคารที่เป็นศิลปเหล่านี้ได้แม้ในปัจจุบัน นอกจากต่างชาติทางยุโรปแล้ว ที่โกเบก็มี China town ที่เดียวในญี่ปุ่น ข้อดีของการไปเดินไชน่าทาวน์ ที่นี่ก็คือ อาหารครับ มีหลากหลายให้ลองชิม และอาหารไม่เหมือนที่อื่นๆในญี่ปุ่นด้วย
|
Kobe flower clock |
|
Kobe |
|
Earthquake memorial |
บริเวณของ Port of Kobe
http://www.kobe-meriken.or.jp/english/ เป็นที่รวมของสถานที่สำคัญ และปฎิมากรรมหลายอย่าง บริเวณนี้ เช่น พิพิธภัณฑ์ทางทะเล (Kobe Maritime museum) หรือ โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ ( Kobe port tower ) ที่เรามักเห็นในรูปถ่าย หรือจะเป็น Kobe earthquake port memorial ที่เขายังเก็บความเสียหายไว้อย่างนั้น ไว้ให้ระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในโกเบ เมื่อปี 1995
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
|
Kobe port |
สถานที่เที่ยวอื่นๆในโกเบ ที่น่าสนแต่ผมไม่ได้ไปก็คือ Arima Onsen เป็น Onsen หรือบ่อน้ำร้อนแบบญี่ปุ่น ที่เป็นที่ชื่นชอบของโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ มาก แถวๆ Arima Onsen มีบ้านพักแบบญี่ปุ่นให้เลือกพักหลายสิบแห่ง ที่จริง คนไทยก็อาจจะคุ้นชื่อนี้ เพราะ Arima Onsen ชื่อเหมือนร้านนวดที่ พัฒพงษ์ในประเทศไทยเลยครับ ( ร้านนวดแบบธรรมดานะครับ )
และอีกที่หนึ่งที่ไม่ได้ไปเหมือนกัน ก็คือ Disaster reduction and Human renovation Institution (DRI) สถานที่นี้เกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหว ในโกเบครั้งใหญ่ปี 1995 เป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นั้น และแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการป้องกันชีวิต และทรัพย์สินจากเหตุการณ์ครั้งต่อไปที่อาจจะเกิดขึ้น
และทุกปี ช่วงปลายปี หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว โกเบ เขาจัด Kobe Luminaries festival ผมเคยไปมาสองครั้ง คนเยอะมาก แบบไหลไป แต่ก็คุ้มค่า ต่อการไปทดลองดูครับ เพราะจัดปลายปีด้วย แม้จะคนแน่น แต่ก็ไม่ร้อน
http://www.kobe-meriken.or.jp/english/
และสำหรับผม ที่ชื่นชอบมาก คือโกเบเป็นที่กำเนิดของ รองเท้า Onistuka Tiger มีร้านอยู่แถว Sannomiya นะครับ ลองหาดู แต่เดิม Onistuka เริ่มดังมาจากรอง เท้ากีฬาครับ ยี่ห้อ Asics
|
ร้าน Asics |
Brand Asics เกิดจากการรวมตัวของสามบริษัท ซึ่งหนึ่งในนั้นมีบริษัท Onisuka ของคุณ คิฮาชิโร โอนิทสึกะ จนภายหลังนี่แหละ ที่ Brand แฟชั่นชื่อ Onisuka Tigers มาดังแซง Brand Asics โดยเฉพาะในหมู่รองเท้า แฟชั่น
อีกอย่างที่พลาดไม่ได้ที่ โกเบ ก็คือการไปลองทานเนื้อโกเบ ที่โกเบ ดูว่าเป็นยังไง ผมอยากทานร้านชื่อ Wakkaqu แต่ปรากฎว่าร้านนี้ถ้าไม่จองไม่ได้ทานครับ
|
Wakkaqu |
ก็เลยไปกินอีกร้านนึงครับ ไม่ดัง ไม่แน่น เท่าร้านแรก แต่ก็อร่อยมากๆ เลยนะ
|
Kobe Gyuu |
|
Kobe Gyuu |
อีกที่ ที่น่าสนใจในโกเบ ก็คือ China town ครับ น่าสนในแง่ ไปหาของกินอร่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น