|
The Westin Osaka |
ปีนี้ไปญี่ปุ่นมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สามครับ เป็นทริปสั้นๆ 4 วัน สี่คืน จริงๆทริปนี้ใช้เวลานอนในโรงแรมมากกว่าเวลาเที่ยวด้วยซ้ำไป เพราะว่าวันแรก เราแลกตั๋วกันไปก็มีแต่ flight ที่ลงถึง Osaka Kansai ก็ตอนเย็นเข้าไปแล้ว และผมก็นั่งรถไฟ Haruka เหมือนเดิมตอนที่เข้า Kyoto ครั้งล่าสุดนั่นแหละครับ ตาม link นี้
http://phongthon.blogspot.com/2014/08/kyoto-okura-hotel.html
เมื่อไปถึงแล้ว รถไฟจะพาเราไปส่งที่สถานนี Shin Osaka ซึ่งอยู่ในย่านใกล้ๆ กับสถานี Osaka และสถานี Umeda และสถานี Hankyu ครับ ตรงนั้นเป็นชุมทางใหญ่เลย และมีรถไฟหลายสายมาชุมทางกันตรงแถวๆนั้น รถไฟที่ญี่ปุ่นเขาเป็นบริษัทเอกชน ที่แบ่งสายกันเดินรถครับ บางสายนี่เก่าแก่มาก เสียดายที่เมืองไทยไม่ได้พัฒนาไปไหนเท่าไหร่ ในเรื่องรถไฟ
เมื่อไปถึง ก็มุ่งตรงเข้า check in ที่ โรงแรม West in Osaka เลยครับ
http://www.westin-osaka.co.jp/ ที่โรงแรมนี้อยู่ย่านสถานีก็จริง แต่ออกห่างจากแหล่ง shopping หลักออกไปราว หนึ่งกิโลเมตร ซึ่งถ้าเดินก็คงจะได้อยู่ แต่คงไม่สะดวกเท่าพักตรงโรงแรมย่านนั้นเลย เช่น Hotel Granvia Osaka หรือโรงแรม Hankyu Osaka , Intercontinental Osaka เป็นต้นครับ
แต่ผมชอบโรงแรม Westin Osaka มากเหมือนกันครับ เพราะไม่พลุกพล่าน และสงบกว่าโรงแรมที่ระบุชื่อมาข้างบนเยอะ แต่ต้องแลกกับความห่างนิดนึงครับ โรงแรม Westin Osaka อยู่ข้างๆกับ The Umeda Sky Building ครับ ซึ่งผมจะไปขึ้นในวันที่เที่ยวที่โอซาก้า
การเดินทางครั้งนี้ เราพักที่ Osaka ทั้งสี่คืนเลย และเดินทางไปกลับเมืองต่างๆ ด้วยรถไฟ เพราะไม่ต้องการจะย้ายกระเป๋าไปมา และเข้า Check in Check out หลายๆ โรงแรมครับ
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
เหตุผลสำคัญอย่างหนี่งที่เลือก Westin ก็เพราะว่า ห้องกว้างขวาง และระบุการจองไปได้เลย ว่าจะมานอนกันกี่คน ที่ญี่ปุ่นเขาเข้มงวดเรื่องจำนวนคนพักมาก เช่นว่าห้องบอกจะนอนสองคน แต่เข้ามากันสี่คน อย่างนี้ไม่ได้ เขาคิดเพิ่ม ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ให้เกิดเหตุงบปานปลาย ผมก็เลยเลือกจองมาเลย ให้มีหลายๆเตียง
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
เครื่องสบู่ แชมพู ชาเขียว และที่โกนหนวด ครีมโกนหนวดมากมาย แม้ผู้ชายสามคนมาพัก ก็ยังพักได้
|
The Westin Osaka |
|
The Westin Osaka |
Check in แล้ว ต่อไปก็ไปทานปู ที่ร้าน Kani Douraku ร้านดังจาก Hokkai do ผมเคยกินร้านนี้หลายสาขาในญี่ปุ่นมาแล้ว ทุกที่มาตรฐานเลิศเหมือนกันหมด
Web ครับ Kanidouraku
http://douraku.co.jp/
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
ปูน้ำเย็น ให้มาสดๆ แบบนี้เอาไว้ย่าง
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
ปูขน
|
Kanidouraku |
อันนี้เป็นสาเก แต่เขาใส่ปูย่างลงไปใน สาเก ให้กลิ่นเหมือนปูย่างมากๆ สาเกแก้วนี้
|
Kanidouraku |
|
Kanidouraku |
ร้านนี้แม้จะเป็น chain แต่ผมว่าผมไม่เคยเอาออกจาก list ในการทานเลย กินแบบนี้ก็อร่อยแล้ว หาร้านก็ไม่ยาก มีทั่วไป
|
Kanidouraku |
|
The Westin Osaka |
ที่โรงแรมเขามีรถไปส่งที่สถานีรถไฟให้ฟรีครับ แต่รถออกเป็นรอบๆ และตรงเวลา
เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็นั่งรถ Shinganzen ไป Hiroshima
|
Hiroshima |
Hiroshima นี่มันไกลจาก โอซาก้า พอสมควรเลยครับ แต่ก็ไปเช้าเย็นกลับได้อยู่
|
JR Hiroshima |
ที่ญี่ปุ่นนี่มีความเป็น Local สูงมาก อย่าง Pretz ทีม Baseball ของ Hiroshima อันนี้
|
Pretz Hiroshima |
ไปฮิโรชิมา คงต้องไปที่ Peace memorial park สถานที่นี้เป็น พื้นที่ใหญ่ๆ ที่มีพิพิธภัณฑ์ อนุสาวรีย์ และ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ที่ฮิโรชิมา ในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เวลา 8.15 นาฬิกา ตอนเช้า
สถานที่นี้คือบริเวณที่ใกล้ๆ บริเวณที่เป็น ground zero ในวันระเบิดลงวันนั้นครับ
สถานที่แรกที่ไปคือ พิพิธภัณฑ์ครับ
http://atomicbombmuseum.org/
|
Atomic bomb museum, Hiroshima |
ภายในมีภาพ และประวัติต่างๆที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ ระเบิดในวันนั้น
|
Atomic bomb museum, Hiroshima |
|
Atomic bomb museum, Hiroshima |
นาฬิกาที่หยุดเดินที่เวลา 8.15
|
Peace memorial park |
หลังเหตุการณ์ระเบิด กัมมันตภาพรังสี ยังก่อให้เกิดความเจ็บป่วยต่อผู้คนมากมาย และหนึ่งในนั้นคือ ซาดาโกะ เจ้าของตำนาน นกกระเรียนพันตัว ซาดาโกะ พับนกกระเรียนจนครบพันตัว ก็ไม่สามารถรักษาโรคของเธอได้ เธอพับนกกระเรียนจนถึงเกือบวันสุดท้ายของชีวิต โดยที่นกกระเรียนตัวหลังๆ เป็นตัวที่เล็กๆ มาก ที่ต้องพับด้วยเข็ม แบบในรูปข้างล่าง
Sadako Sasaki ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Sadako_Sasaki
ตอนที่ ระเบิดลง เธอเพิ่งอายุสองขวบ และโดนกัมมันตภาพรังสี จากฝนดำ
|
นกกระเรียนของซาดาโกะ |
|
|
|
แบบจำลอง ground zero |
ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าระเบิด ปรมณูนั้นระเบิดอยู่กลางอากาศ ราว 600 เมตร
อันนี้เป็นสัญลักษณ์ที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมณู อันแรกๆที่สร้างขึ้น ตัวอักษรระบุว่า "โปรดพักผ่อนให้สงบเถิด พวกเราจะไม่ซ้ำรอยความผิดนั้นอีก"
|
Peace memorial park |
|
Peace memorial park |
อนุสาวรีย์ ซาดาโกะ รำลึกถึงผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากภัยสงคราม
|
Peace memorial park |
|
Peace memorial park |
|
Peace memorial park |
|
Peace memorial park |
สมัยก่อนที่จะโดนระเบิดนั้น ฮิโรชิมา ได้เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ญี่ปุ่นรบชนะรัสเซีย ในต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้ญี่ปุ่นมั่นใจในกองกำลังทหารของตนมาก และเมืองฮิโรชิมานี้ ก็เป็นเมืองอุตสาหกรรมมาตั้งแต่นั้น จนได้สร้างอาคารที่เป็นโดมที่เห็นในภาพขึ้นเพื่อโปรโมทอุตสาหกรรม
ภายหลังโดนระเบิด ตึกนี้ก็ยังคงอยู่ ทั้งๆที่อยู่ใกล้ ground zero มากๆ
|
The A bomb dome |
ระฆัง Peace bell ตรงจุดที่ตีไป เป็นตีไปที่ระเบิดนิวเคลียร์
|
Peace bell |
Aioi bridge สะพานที่เป็นรูปตัว T ซึ่งควรจะเป็นเป้าหมายในการทิ้งระเบิดในครั้งนั้น เพราะเป้าเป็นรูปตัวที มองเห็นง่ายจากทางอากาศ แต่การโจมตีพลาดเป้า ทำให้ระเบิดไประเบิดเหนืออาคาร โรงพยาบาล บนสะพานมีรถรางวิ่งอยู่ ซึ่งรถรางเหล่านี้วิ่งมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลก สะพานที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นสะพานที่สร้างใหม่ ในรูปแบบเดิม (สะพานเดิมหลังระเบิดลงก็ยังใช้การได้อีกหลายทศวรรษ)
|
Aioi bridge |
อาคารนี้พังไปครึ่งหลัง แต่ก็ยังยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
|
A Bomb dome |
อาหารเที่ยงใกล้ๆ peace park ที่ฮิโรชิม่า นี่เป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรม ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น เราเลือกร้านเอาใกล้ๆ แถวๆนั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ปรากฎว่าได้ร้านที่อร่อยใช้ได้
|
Hiroshima Oyster |
|
Eiko Hieki |
ถ้าเดินฮิโรชิมา ไปนานพอสมควรก็จะเจอร้านที่ขายหอยนางรม หลายร้านเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นหอยนางรม เอามาย่าง
|
Hiroshima Oyster |
|
Hiroshima Oyster |
|
Eiko Hieki |
ร้าน Nagataya อยู่ข้างๆ กัน คนต่อคิว เยอะกว่ามาก
|
Nagataya |
นั่งเรือไป เกาะมิยาจิม่าครับ (Miyajima)
|
Peace memorial park |
เกาะมิยาจิม่า เป็นเกาะที่ใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิมาแต่โบราณ ที่เกาะนี้มี Torii อยู่ในน้ำ และวัด Itsukushima ก็ปกติคงจะจมน้ำอยู่บ้าง แต่ตอนที่ไปนี่น้ำลด ทำให้มันตั้งอยู่บนทราย
วิวของ Torii เป็นหนึ่งในสามวิวสุดยอดของญี่ปุ่น (Nihon sankei) หนึ่งคือ Matsushima bay แถวๆ Zendai สองคือ Amanohashidate ที่ Kyoto และสามคือ Miyajima ที่ ฮิโรชิมา แห่งนี้
|
Nihon sankei |
|
Miyajima |
|
Miyajima |
|
Miyajima |
|
Miyajima |
Itshukushima shrine ในวันที่น้ำแห้ง
|
Itsukushima |
|
Miyajima |
ขากลับจากเกาะ ก็นั่งเรือ Ferry ของ JR มาเลยครับ มาถึงสถานีรถไฟ JR แล้วไปต่อ Shinganzen ได้เลย
|
Jr ferry |
|
Jr ferry |
ก็จบตอนแรกของทริปโอซาก้าครั้งนี้ แค่เท่านี้ครับ โปรดติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น