วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

โอซาก้า ฮิโรชิมา โกเบ ในวันที่เขาว่าพายุจะเข้า (ตอนที่ 1 )

The Westin Osaka
ปีนี้ไปญี่ปุ่นมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สามครับ  เป็นทริปสั้นๆ 4 วัน สี่คืน  จริงๆทริปนี้ใช้เวลานอนในโรงแรมมากกว่าเวลาเที่ยวด้วยซ้ำไป  เพราะว่าวันแรก เราแลกตั๋วกันไปก็มีแต่ flight ที่ลงถึง Osaka Kansai ก็ตอนเย็นเข้าไปแล้ว  และผมก็นั่งรถไฟ Haruka เหมือนเดิมตอนที่เข้า Kyoto ครั้งล่าสุดนั่นแหละครับ ตาม link นี้

http://phongthon.blogspot.com/2014/08/kyoto-okura-hotel.html


เมื่อไปถึงแล้ว รถไฟจะพาเราไปส่งที่สถานนี Shin Osaka ซึ่งอยู่ในย่านใกล้ๆ กับสถานี Osaka และสถานี Umeda และสถานี Hankyu ครับ  ตรงนั้นเป็นชุมทางใหญ่เลย และมีรถไฟหลายสายมาชุมทางกันตรงแถวๆนั้น  รถไฟที่ญี่ปุ่นเขาเป็นบริษัทเอกชน ที่แบ่งสายกันเดินรถครับ บางสายนี่เก่าแก่มาก เสียดายที่เมืองไทยไม่ได้พัฒนาไปไหนเท่าไหร่ ในเรื่องรถไฟ

เมื่อไปถึง ก็มุ่งตรงเข้า check in ที่ โรงแรม West in Osaka เลยครับ http://www.westin-osaka.co.jp/  ที่โรงแรมนี้อยู่ย่านสถานีก็จริง แต่ออกห่างจากแหล่ง shopping หลักออกไปราว หนึ่งกิโลเมตร ซึ่งถ้าเดินก็คงจะได้อยู่ แต่คงไม่สะดวกเท่าพักตรงโรงแรมย่านนั้นเลย เช่น Hotel Granvia Osaka หรือโรงแรม Hankyu Osaka , Intercontinental Osaka  เป็นต้นครับ

แต่ผมชอบโรงแรม Westin Osaka มากเหมือนกันครับ  เพราะไม่พลุกพล่าน และสงบกว่าโรงแรมที่ระบุชื่อมาข้างบนเยอะ  แต่ต้องแลกกับความห่างนิดนึงครับ  โรงแรม Westin Osaka อยู่ข้างๆกับ The Umeda Sky Building ครับ ซึ่งผมจะไปขึ้นในวันที่เที่ยวที่โอซาก้า

การเดินทางครั้งนี้ เราพักที่ Osaka ทั้งสี่คืนเลย และเดินทางไปกลับเมืองต่างๆ ด้วยรถไฟ เพราะไม่ต้องการจะย้ายกระเป๋าไปมา และเข้า Check in Check out หลายๆ โรงแรมครับ 

The Westin Osaka

The Westin Osaka

The Westin Osaka

The Westin Osaka
 เหตุผลสำคัญอย่างหนี่งที่เลือก Westin ก็เพราะว่า ห้องกว้างขวาง และระบุการจองไปได้เลย ว่าจะมานอนกันกี่คน  ที่ญี่ปุ่นเขาเข้มงวดเรื่องจำนวนคนพักมาก  เช่นว่าห้องบอกจะนอนสองคน แต่เข้ามากันสี่คน อย่างนี้ไม่ได้ เขาคิดเพิ่ม  ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ให้เกิดเหตุงบปานปลาย ผมก็เลยเลือกจองมาเลย ให้มีหลายๆเตียง

The Westin Osaka

The Westin Osaka

The Westin Osaka

The Westin Osaka
 เครื่องสบู่ แชมพู ชาเขียว และที่โกนหนวด ครีมโกนหนวดมากมาย  แม้ผู้ชายสามคนมาพัก ก็ยังพักได้
The Westin Osaka

The Westin Osaka
Check in แล้ว ต่อไปก็ไปทานปู ที่ร้าน Kani Douraku  ร้านดังจาก Hokkai do  ผมเคยกินร้านนี้หลายสาขาในญี่ปุ่นมาแล้ว ทุกที่มาตรฐานเลิศเหมือนกันหมด

Web ครับ Kanidouraku http://douraku.co.jp/

Kanidouraku

Kanidouraku

Kanidouraku

Kanidouraku


Kanidouraku


Kanidouraku

Kanidouraku

Kanidouraku
 ปูน้ำเย็น ให้มาสดๆ แบบนี้เอาไว้ย่าง
Kanidouraku

Kanidouraku
 ปูขน
Kanidouraku
 อันนี้เป็นสาเก แต่เขาใส่ปูย่างลงไปใน สาเก ให้กลิ่นเหมือนปูย่างมากๆ สาเกแก้วนี้

Kanidouraku

Kanidouraku
 ร้านนี้แม้จะเป็น chain แต่ผมว่าผมไม่เคยเอาออกจาก list ในการทานเลย กินแบบนี้ก็อร่อยแล้ว หาร้านก็ไม่ยาก มีทั่วไป

Kanidouraku
The Westin Osaka

ที่โรงแรมเขามีรถไปส่งที่สถานีรถไฟให้ฟรีครับ  แต่รถออกเป็นรอบๆ และตรงเวลา
เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็นั่งรถ Shinganzen ไป Hiroshima

Hiroshima
 Hiroshima นี่มันไกลจาก โอซาก้า พอสมควรเลยครับ แต่ก็ไปเช้าเย็นกลับได้อยู่

JR Hiroshima
 ที่ญี่ปุ่นนี่มีความเป็น  Local สูงมาก อย่าง Pretz ทีม Baseball ของ Hiroshima อันนี้

Pretz Hiroshima
ไปฮิโรชิมา คงต้องไปที่ Peace memorial park   สถานที่นี้เป็น พื้นที่ใหญ่ๆ ที่มีพิพิธภัณฑ์ อนุสาวรีย์ และ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ที่ฮิโรชิมา ในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เวลา 8.15 นาฬิกา ตอนเช้า
สถานที่นี้คือบริเวณที่ใกล้ๆ บริเวณที่เป็น ground zero ในวันระเบิดลงวันนั้นครับ

สถานที่แรกที่ไปคือ พิพิธภัณฑ์ครับ
http://atomicbombmuseum.org/

Atomic bomb museum, Hiroshima
 ภายในมีภาพ และประวัติต่างๆที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ ระเบิดในวันนั้น

Atomic bomb museum, Hiroshima
Atomic bomb museum, Hiroshima
นาฬิกาที่หยุดเดินที่เวลา 8.15






Peace memorial park
 หลังเหตุการณ์ระเบิด กัมมันตภาพรังสี ยังก่อให้เกิดความเจ็บป่วยต่อผู้คนมากมาย และหนึ่งในนั้นคือ ซาดาโกะ เจ้าของตำนาน นกกระเรียนพันตัว  ซาดาโกะ พับนกกระเรียนจนครบพันตัว ก็ไม่สามารถรักษาโรคของเธอได้  เธอพับนกกระเรียนจนถึงเกือบวันสุดท้ายของชีวิต โดยที่นกกระเรียนตัวหลังๆ เป็นตัวที่เล็กๆ มาก ที่ต้องพับด้วยเข็ม  แบบในรูปข้างล่าง

Sadako Sasaki ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Sadako_Sasaki 
ตอนที่ ระเบิดลง เธอเพิ่งอายุสองขวบ  และโดนกัมมันตภาพรังสี จากฝนดำ

นกกระเรียนของซาดาโกะ

แบบจำลอง ground zero
ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าระเบิด ปรมณูนั้นระเบิดอยู่กลางอากาศ ราว 600 เมตร
อันนี้เป็นสัญลักษณ์ที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมณู อันแรกๆที่สร้างขึ้น ตัวอักษรระบุว่า "โปรดพักผ่อนให้สงบเถิด พวกเราจะไม่ซ้ำรอยความผิดนั้นอีก"

Peace memorial park

Peace memorial park
 อนุสาวรีย์ ซาดาโกะ รำลึกถึงผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากภัยสงคราม
Peace memorial park

Peace memorial park

Peace memorial park

Peace memorial park
 สมัยก่อนที่จะโดนระเบิดนั้น ฮิโรชิมา ได้เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น  นับตั้งแต่ญี่ปุ่นรบชนะรัสเซีย ในต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้ญี่ปุ่นมั่นใจในกองกำลังทหารของตนมาก  และเมืองฮิโรชิมานี้ ก็เป็นเมืองอุตสาหกรรมมาตั้งแต่นั้น  จนได้สร้างอาคารที่เป็นโดมที่เห็นในภาพขึ้นเพื่อโปรโมทอุตสาหกรรม

ภายหลังโดนระเบิด ตึกนี้ก็ยังคงอยู่ ทั้งๆที่อยู่ใกล้ ground zero มากๆ

The A bomb dome
 ระฆัง Peace bell ตรงจุดที่ตีไป เป็นตีไปที่ระเบิดนิวเคลียร์

Peace bell
 Aioi bridge สะพานที่เป็นรูปตัว T ซึ่งควรจะเป็นเป้าหมายในการทิ้งระเบิดในครั้งนั้น  เพราะเป้าเป็นรูปตัวที มองเห็นง่ายจากทางอากาศ  แต่การโจมตีพลาดเป้า ทำให้ระเบิดไประเบิดเหนืออาคาร โรงพยาบาล   บนสะพานมีรถรางวิ่งอยู่ ซึ่งรถรางเหล่านี้วิ่งมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลก  สะพานที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นสะพานที่สร้างใหม่ ในรูปแบบเดิม  (สะพานเดิมหลังระเบิดลงก็ยังใช้การได้อีกหลายทศวรรษ)

Aioi bridge
 อาคารนี้พังไปครึ่งหลัง แต่ก็ยังยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
A Bomb dome
 อาหารเที่ยงใกล้ๆ peace park ที่ฮิโรชิม่า นี่เป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรม ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น  เราเลือกร้านเอาใกล้ๆ แถวๆนั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก  แต่ปรากฎว่าได้ร้านที่อร่อยใช้ได้

Hiroshima Oyster

Eiko Hieki
 ถ้าเดินฮิโรชิมา ไปนานพอสมควรก็จะเจอร้านที่ขายหอยนางรม หลายร้านเลยครับ  ส่วนใหญ่เป็นหอยนางรม เอามาย่าง  

Hiroshima Oyster

Hiroshima Oyster

Eiko Hieki

ร้าน Nagataya อยู่ข้างๆ กัน คนต่อคิว เยอะกว่ามาก
Nagataya


นั่งเรือไป เกาะมิยาจิม่าครับ (Miyajima)
Peace memorial park
 เกาะมิยาจิม่า เป็นเกาะที่ใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิมาแต่โบราณ  ที่เกาะนี้มี Torii อยู่ในน้ำ  และวัด Itsukushima ก็ปกติคงจะจมน้ำอยู่บ้าง  แต่ตอนที่ไปนี่น้ำลด ทำให้มันตั้งอยู่บนทราย

วิวของ Torii  เป็นหนึ่งในสามวิวสุดยอดของญี่ปุ่น (Nihon sankei)  หนึ่งคือ Matsushima bay แถวๆ Zendai  สองคือ Amanohashidate ที่ Kyoto  และสามคือ Miyajima ที่ ฮิโรชิมา แห่งนี้

Nihon sankei
Miyajima

Miyajima

Miyajima

Miyajima
 Itshukushima shrine ในวันที่น้ำแห้ง
Itsukushima

Miyajima
ขากลับจากเกาะ ก็นั่งเรือ Ferry ของ JR มาเลยครับ  มาถึงสถานีรถไฟ JR แล้วไปต่อ Shinganzen ได้เลย
Jr ferry
Jr ferry
 ก็จบตอนแรกของทริปโอซาก้าครั้งนี้ แค่เท่านี้ครับ โปรดติดตามตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น