|
Melbourne, Australia |
หลังจากความเดิมตอนที่แล้ว ที่เราไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน ซิดนีย์ เพื่อมาที่ เมลเบริ์น
http://phongthon.blogspot.com/2014/10/sydney-australia.html เราก็มาถึงเมลเบริ์นในวันเดียวกันนั้น เวลาเย็นๆ ครับ โดยสายการบิน low cost ท้องถิ่น
Jetstar วันที่เราเดินทางไปเมลเบริ์นนั้น นับเป็นวันที่มีผู้คนหลั่งไหลไปเมลเบริ์น มากๆที่สุดในรอบหลายปีครับ เพราะมีการประชุมทางศาสนา มีการแข่งรถมอเตอร์ไซด์ที่
Phillip island และก็ยังมีงานแข่งม้า เมลเบริ์นคัพ Melbourne cup มาพร้อมๆ กัน ทำให้ห้องพักใน Melbourne เต็มเพียบครับ และที่มีให้พักได้ ก็ราคาพุ่งไปสูงปริ๊ด ช่างเลือกวันไปได้เหมาะเจาะจริง
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Melbourne คือ รถราง ผมก็เลยพยายามหารูปรถรางมาขึ้นเป็นรูปแรก Melbourne เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย รองจาก ผมไปอยู่สองเมืองนี้ เมืองละแปปเดียว คงจะบอกไม่ได้ว่า ชอบเมืองไหนมากกว่า ผมว่าถ้าเป็นตัวเมือง มันก็เหมือนๆกันครับ แต่ที่ Melbourne มันมีสถานที่ท่องเที่่ยว ทางธรรมชาติ ที่หลากหลาย ที่อยู่ไม่ห่างออกไปจากตัวเมือง มากกว่า Sydney ครับ
เวลาเขาแข่ง เทนนิส ออสเตรเลียนโอเพ่น เขาก็มาแข่งกันที่เมืองนี้ด้วยนะเออ
คืนแรก ดีหน่อยได้พักที่ เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ กลางใจเมืองครับ ชื่อว่า Oaks ที่ Collins street
http://www.oakshotelsresorts.com/oaks-on-collins/
|
Oaks on Collins, Melbourne |
หนึ่งห้องน้ำ สองห้องนอน หนึ่งรับแขก และที่ทำครัว นับว่าเป็นคืนที่ดีที่สุดที่นอนที่ Melbourne ในครั้งนี้ ครับ
|
Oaks on Collins, Melbourne |
|
Oaks on Collins, Melbourne |
Oaks นี่อยู่ใกล้ ศาลาว่าการเมือง และไม่ไกลจากที่กินที่เที่ยวมากนัก คือเดินไปได้
|
Oaks on Collins, Melbourne |
|
Melbourne |
คืนแรก เราก็เลยเดินไปทานแถวๆ block place ครับ เป็นตรอกเล็กๆ ที่มีร้านมากมาย Block place เป็นที่ฮิตของทั้งคนท้องถิ่นและ นักท่องเที่ยว แต่ผมไม่รู้ไปทานร้านไหนดี ก็เลย จิ้มเอาได้ ร้าน
Olio Cucina มาครับ
|
Melbourne |
ร้านนี้ไม่เลว เหมือนกันครับ แต่ได้ความรู้ว่า อย่ามาหวังทานอาหารทะเลที่นี่ เพราะมัน เป็นอาหารทะเลแช่แข็งทั้งนั้น
|
Olio Cucina , Block place, Melbourne |
|
Olio Cucina , Block place, Melbourne |
|
Olio Cucina , Block place, Melbourne |
หลังจากจบวันแรก เราก็ออกเดินทางไปเที่ยวข้างนอกเมือง เมลเบริ์นกันเลย อย่างที่บอกว่าเมลเบริ์น อยู่ใกล้ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เราก็เลยเช่ารถออกจากเมือง เพื่อขับไปเที่ยวชมครับ
เส้นทางท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม สำหรับเมลเบริ์น ก็มี 1. เที่ยวขับรถไปทาง The great ocean drive ไปจนถึงจุดที่ชมหิน Twelve Apostles ครับ
2. เส้นทางชิมไวน์ ที่ Yarra valley และ 3. ไปชมนกเพนกวินพาเหรดที่ Phillip Island ครับ
ซึ่งในการเที่ยวครั้งนี้ เราไปครบทั้งสามเส้นทางเลย บอกเลยว่าเหนื่อยครับ ไปเยอะเกิน
|
แผนที่ท่องเที่ยว Melbourne และบริเวณข้างเคียงของผม |
ผมเดินทางโดยมีกำหนดการดังนี้ครับ คือเช่ารถที่ Melbourne เบอร์ 1 เพื่อไปยังหมายเลขสี่ คือ Twelve Apostles โดยใช้เส้นทางขับรถที่ว่ากันว่า สวยที่สุดในโลก คือ The great ocean drive จากนั้น ก็ขับรถมุ่งตรงไปหมายเลข ห้าเพื่อไปชม wine yard ที่ Yarra valley แล้ว ก็เอารถมาคืน จากนั้นซื้อทัวร์ เพื่อไปชมเพนกวิน ที่ Phillip Island ครับ ที่ไม่อยากขับรถ ก็เพราะ ว่ากว่าจะดู เพนกวินเสร็จ ก็ดึกมากแล้วครับ แล้วเราก็ไม่ชินทาง อีกอย่าง ที่พัก Phillips Island ก็เต็มด้วย เพราะวันที่ไปดูนั้น มันมี Motocross แข่งกัน
ก็สรุปการเดินทางได้ประมาณนี้ ต่อไปมาชมรูปกันดีกว่า
ลำดับแรก ต้องไปเอารถเช่าก่อนครับ ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลาย
|
Hertz Melbourne |
เราได้รถ สัญชาติ ออสเตรเลีย ยี่ห้อ โฮลเดน (Holden ) ครับ ยี่ห้อนี้ไม่ค่อยมีวิ่งในไทย เท่าไหร่แล้ว ผมว่ารถมัน มีเทคโนโลยี ตามไม่ทันพวกรถยุโรป รถยี่ปุ่น ไปแล้วครับ ขับก็นิ่มๆ ยวบๆ ด้วยคันนี้
|
รถเช่า เมลเบริ์น |
|
รถเช่า Melbourne |
ขับรถที่ออสเตรเลีย ไม่ยากครับ รถทุกคันขับที่ speed limt พอดีๆ ก็เลย ขับเร็วเท่าๆกันหมด
ผมไปแวะพักจุดแรกที่ เมือง Torquay ซึ่งชื่อเมืองนี้ มันไปตรงกับชื่อเมืองในประเทศอังกฤษเลยครับ ชื่อเมืองหลายๆ เมืองใน Australia นี่ก็มีชื่อเหมือนๆ เมืองในอังกฤษ
Torquay เป็นจุดเริ่มของถนน The great ocean drive และก็เป็นเมืองหลวงของชาว Surf หรือชาวนักกระดานโต้คลื่นด้วยครับ และก็เป็นสถานที่กำเนิดของ Brand ดังหลายๆ Brand ที่มีต้นกำเนิดจาก การขายผลิตภัณฑ์สำหรับนักโต้คลื่น ถ้าดูในแผนที่ด้านบน จุดนี้คือหมายเลข 2 ครับ
|
Torquay, Australia |
ร้าน Sticks and Stones เป็นร้าน ที่มีให้ทานได้ตรงนี้ อีกร้านนึงเป็นร้าน ญี่ปุ่น ( ปลอมๆ )
|
Torquay, Australia |
ที่นี่ มี Surf museum ด้วยครับ ถ้ามีเวลาก็น่าจะแวะเข้าไปเยี่ยมชม
|
Torquay, Australia |
|
Torquay, Australia |
|
Surf museum Torquay |
The great ocean drive มันเป็นสวรรค์ ของนักขับรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์ จริงๆครับ เพราะถนน สวย มีทั้งเลียบหาด และผ่านไปในภูเขา ผ่านป่า ผ่านอุทยาน เสียตรงที่มันจำกัดความเร็ว และรถทุกๆ คัน ก็วิ่งที่ความเร็วสูงสุด ที่จำกัดไว้นั่นแหละ เท่าๆกันหมด
|
The great Ocean drive |
|
The great Ocean drive |
หลังจาก สงครามโลก ทหารผ่านศึกจำนวนมาก ได้กลับมาที่ ออสเตรเลีย และก็ไม่มีงานทำ ทางการก็ เลยสร้างโครงการ The great ocean road ที่เป็นถนนเรียบมหาสมุทร แห่งนี้ ผ่านเมืองต่างๆ เพื่อให้เป็นถนน สำหรับท่องเที่ยว ของประเทศออสเตรเลีย นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก
|
The great Ocean drive |
เมือง Lorne เป็นเมืองระหว่างทาง มีที่พัก ดีๆ เหมาะแก่การพักเช่นกัน
|
Lorne, The great Ocean drive |
|
Torquay, Australia |
|
Lorne, The great Ocean drive |
ส่วนพวกผมก็ ขับต่อไป ผ่าน Lorne ไปเพื่อหยุดพักที่ Appolo bay (http://en.wikipedia.org/wiki/Apollo_Bay) ทั้งเมืองมีคนอยู่พันกว่าคน เป็นการขับรถ มาราว แปดชั่วโมง ขับๆหยุดๆ
(Appolo Bay ก็คือหมายเลข สามในแผนที่ด้านบนครับ ใช้เวลาในการขับรถแบบท่องเที่ยว จากหมายเลข หนึ่ง มานอนพักหมายเลขสอง แปดชั่วโมง)
และผมไม่เอารูปมาให้ดูนะ เพราะผมก็ไม่ประทับใจเท่าใดนัก นอนที่ Youth hostel ด้วย ราคา พันกว่าบาท ครับ ใช่แล้ว หน่วยเป็นบาทครับ นับเป็นคืนที่พักด้วยราคาที่ถูกที่สุดใน ทริปนี้ครับ
ตื่นมาอีกวันหนึ่งก็ขับรถต่อเลยครับ เพื่อไป Twelve Apostles
|
The great ocean road wild life park |
|
The great ocean road wild life park |
|
The great ocean road wild life park |
ถนนช่วงนี้ เป็นการขับผ่านอุทยานแห่งชาติ คล้ายๆเขาใหญ่เมืองไทย และก่อนถึง Twelve apostle นิดหน่อย จะพบกับ The great ocean road wildlife park ซึ่งเป็นคล้าย ๆสวนสัตว์ เปิดขนาดใหญ่ แต่มันใหญ่มากๆ และธรรมชาติ มากเลยครับ สัตว์ก็ดูสุขภาพดี ทัวร์ก็ไม่ค่อยมี ผมแนะนำให้ แวะที่จุดนี้ด้วยครับ
http://www.greatoceanroadwildlifepark.com/
|
The great ocean drive |
แล้วในที่สุด หลังจากผ่านโค้ง มาหลายพันโค้ง เราก็มาถึง The twelve apostles ที่เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ที่น่าจะมาแวะชม คล้ายๆ ไปชมแกรนแคนยอน ของสหรัฐอเมริกา น่ะครับ
ที่ Visitor center มีบริการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปชมด้วยครับ
|
twelve Apostles visitor center , Australia |
Twelve Apostles เป็น เสาหินปูน ในมหาสมุทร ซึ่งเกิดจากการซัดกร่อนของน้ำ ตามธรรมชาติ รู้สึกว่าจริงๆ แล้วจะนับเสาไม่ได้ครบสิบสองต้น แต่การตั้งชื่อเป็น เสาหินอัครสาวกทั้งสิบสอง นี่ก็เรียกผู้แสวงบุญ (เช่นผม) ให้มาชมได้ดีทีเดียว เสาหินพวกนี้เป็นเสาธรรมชาติ ตอนนี้มีแปดต้น เพิ่งล้มไปต้นนึงเมื่อปี 2002 ครับ และถ้าน้ำทะเลซัด อย่างนี้ทุกวัน มันก็คงล้มไปหมดในไม่ช้าครับ อัตราการกัดกร่อนอยู่ที่ราว สองเซนติเมตร ต่อปีครับ น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน ถ้าซัดมาแรงขนาดนี้ จะไม่กร่อนได้ยังไงครับ
สิ่งที่เป็นผู้ให้กำเนิดมัน ก็ทำลายมันได้เหมือนกัน ครับ รีบไปชมนะครับ
Twelve Apostles คือหมายเลขสี่ในแผนที่ครับ
|
12 Apostles , Australia |
|
12 Apostles , Australia |
|
12 Apostles , Australia |
ขับรถต่อไปอีกนิดเดียว ก็ถึงเมือง Port Campbell ที่เป็น เมืองท่าเล็กๆ ชื่อเดียวกับวนอุทยาน Port Campbell
เมืองนี้ มีร้านสวยอยู่ร้านนึงริมหาดครับ ร้านี้อาหารอร่อย และก็มี Beer ที่ปรุงเองที่ร้าน ชื่อว่าร้าน 12 Rocks Beach Bar ครับ
http://www.12rocksbeachbar.com.au/
|
Port Campbell |
ร้านนี้วิวสวย อาหารอร่อย อย่าลืม ลองเบียร์ Prickly Moses ครับ
|
12 Rocks beach bar, Port Campbell |
|
12 Rocks beach bar, Port Campbell |
|
12 Rocks beach bar, Port Campbell |
|
12 Rocks beach bar, Port Campbell |
หลังจากนั้น เราก็ขับรถไกลมาก จากหมายเลขสี่ในแผนที่ ไปยังหมายเลขห้าในแผนที่ครับ แต่เนื่องจาก ขากลับไม่ได้กลับทางเส้น The great ocean road แล้ว แต่วิ่งไปยังถนนสายหลัก ผ่าน Colac วิ่งตรงๆ เข้า Melbourne แล้วก็ ไปยังย่านปลูกไร่องุ่น ที่เรียกว่า Yarra valley ที่อยู่ยังหมายเลขห้า ในแผนที่ของผมด้านบนครับ
ออกจาก Port campbell หลังเที่ยง ก็ไปถึง Yarra Valley ราวๆ เกือบหกโมงพอดี เราพักกันที่ Balgownie estate Vineyard นับเป็นสถานที่ที่สุดแสนวิเศษสุด ในทริปนี้ และราคาก็ไม่แพงมากด้วยครับ
http://www.balgownieestate.com.au/
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
จากห้องพัก มองเห็นวิว มันคล้าย ๆ อยู่ไร่องุ่นที่วังน้ำเขียว เพียงแต่ วิวมันดูกว้างไกลกว่า
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
มีโปรโมชั่น ให้ขับ รถ Super car ที่จอดเรียงกันเหล่านี้ พร้อมรับประทานอาหารที่ Vineyard ในราคา ไม่แพงมาก
ผมว่า โอเคอยู่นะ ได้ขับ เฟอรารี่ ในถนนที่สวยงาม กินอาหารดีๆ และพักสวยๆ ในราคาประมาณนี้ครับ (หลักหมื่นบาท ต้นๆ ไปทางกลางๆครับ )
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
่
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
ห้องพักครับ
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
ผมอยู่นี่ สัก สามสี่วัน ก็ได้ครับ
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
Dinner ที่ รีสอร์ต นี้ ราคาไม่แพงนะครับ ผมว่าที่ที่ผมพักนี่มันสำหรับ คนกลางๆ ไม่ใช่สำหรับคนรวยๆ หรอก ดูจาก คนอื่นๆที่มาพักที่นี่กันน่ะครับ
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
Steak ค่อนข้างแข็ง น่ะครับ
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
|
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia |
พักแค่คืนเดียวครับ อีกคืนนึง ก็เข้ามานอน ที่ Melbourne แล้ว เป็นคืนสุดท้ายที่ Australia ด้วย แต่กว่าจะได้เข้าโรงแรมก็ดึกมากครับ เพราะว่าเราไปทัวร์ ดูเพนกวินพาเหรดที่เกาะ ฟิลลิป มาก่อน ที่เกาะนี้อยู่ที่เบอร์หกในแผนที่ครับ คือเดินทางจากเบอร์ 5 ไปเบอร์ 1 เพื่อนั่งรถทัวร์ไปที่เบอร์ 6 แล้วก็กลับมาค้างที่เบอร์ 1 เหมือนเก่าครับ
รอบนี้พัก Tune Hotel Melbourne ซึ่งเป็นโรงแรม low cost แต่ปรากฎว่า คืนนั้นโรงแรมที่ Melbourne เต็มหมด เพราะมีแข่งม้า Melbourne cup และมี งานทางศาสนา งานใหญ่ที่ผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ทำให้ ราคาห้องพักของ Tune Hotel ในคืนนั้น พุ่งไปเป็นห้องละหมื่นบาททีเดียวครับ ( แพงเว่อร์ เลยละครับ )
ที่นี่ ค่าผ้าเช็ดตัว ยังคิดเลยครับ ฝากกระเป๋า ไว้ก็คิด ยุบยับไปหมด
|
Tune Hotel , Melbourne |
|
Tune Hotel , Melbourne |
|
Tune Hotel , Melbourne |
|
Tune Hotel , Melbourne |
ไปเที่ยว Phillip island เราใช้ทัวร์ไปครับ ขึ้นรถไปตอนบ่าย ใช้เวลาราวสองชั่วโมง แต่เขาพาไปแวะ สวนสัตว์ ไปดู โคอาล่า ก่อน แล้วก็ไปแวะกินข้าวเย็นอีกที ก่อนจะไปดูเพนกวิน เพราะนกเพนกวิน จะมาเดินพาเหรดกลับรัง ราวๆ สองทุ่มของทุกวัน
|
สวนสัตว์ |
|
สวนสัตว์ |
ที่ Phillip Island มีงาน Motocross ใหญ่จัดอยู่ ผู้ใหญ่แว้นเพียบ
|
Motor cross |
มาแวะทานข้าวที่ ตัวเมือง ของ Phillip Island ครับ แนะนำร้าน Kristos เลย แทนที่จะไปทานพวก fish and chips ไปทานร้าน อาหารกรีก ดีกว่า อร่อยด้วย
|
Phillip Island, Australia |
|
Phillip Island, Australia |
|
Phillip Island, Australia |
|
Phillip Island, Australia |
ที่ Phillip Island ตรงที่มีรังของพวกเพนกวินอยู่ เป็นเขตอนุรักษ์ เขาซื้อที่ดินจากประชาชน กลับมาเป็นของรัฐ และอนุรักษ์สัตว์ทั้งหลายเอาไว้
|
Phillip Island, Australia |
การมาชมเพนกวินพาเหรด มิใช่การมาดูสวนสัตว์ แต่เป็นการชมปรากฎการณ์ และพิธีทางธรรมชาติ ของเพนกวินจิ๋ว ที่เดินทางจากทะเล เพื่อกลับสู่บ้านในทุกๆ วัน และที่เขาต้องกลับกันตอนสองทุ่ม ก็เพราะต้องรอให้แสงหมดก่อน เพื่อแน่ใจว่า ผู้ล่าหลับกันหมดแล้ว จะได้เดินทางเข้ารังอย่างปลอดภัย
|
Phillip Island, Australia |
ส่วนภาพถ่าย เพนกวิน นั้นไม่มี เพราะเขาห้ามถ่ายรูปเพนกวิน ไม่ว่าจะใช้ Flash หรือไม่ก็ตาม(แต่ก็มีคนแอบถ่ายอยู่นะ) และกว่าจะดูเสร็จ กว่าจะกลับถึง Melbourne ก็เกือบเที่ยงคืนเลยครับ
ถ้าจะไปชมเพนกวิน เตรียมเสื้อหนาวไว้เผื่อสักหน่อย เพราะลมแรงครับ และสำหรับที่นั่งเขาก็มีให้เลือกด้วย ว่าจะไปอยู่อัศจรรย์ พิเศษที่มีเพนกวินผ่านเยอะๆ หรือเปล่า หรือจะเลือกแบบมี Guide พาชมก็ได้ มันมีหลายแพคเกจ ลองเลือกดูครับ
ตื่นเช้ามาอีกวันนึง เป็นวันสุดท้ายแล้ว ก็อุทิศให้กับการ Shopping ครับ ตอนเช้า ทานโจ๊กที่ mr. Kitchen ที่นี่มีโจ๊ก และน้ำเต้าฮู้
|
Mr.Kitchen, Melbourne |
|
Mr.Kitchen, Melbourne |
ที่ ออสเตรเลียนี่ของค่อนข้างแพง ยกเว้นพวกผลิตภัณฑ์สำหรับเล่นกีฬา หรือของ Brand ที่เป็นยี่ห้อของเครือจักรภพ รวมถึงครีมของที่นี่ และรองเครื่องหนัง Ugg ที่เป็น brand ของที่นี่เช่นกัน
|
Melbourne |
ขอสรุป การท่องเที่ยว Australia ของผมในครั้งนี้แต่เพียงเท่านี้ครับ ประทับใจ แต่ว่า ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับของที่ได้ครับ
รูปสวยมากเลยค่ะอันนี้ :)
ตอบลบ