วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เที่ยวออสเตรเลีย ตอนที่ สอง ไปเยี่ยมเพนกวิน ที่ Phillip island และแสวงบุญกับหินอัครสาวกทั้งสิบสอง ที่ Melbourne

Melbourne, Australia 
หลังจากความเดิมตอนที่แล้ว ที่เราไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน ซิดนีย์ เพื่อมาที่ เมลเบริ์น http://phongthon.blogspot.com/2014/10/sydney-australia.html เราก็มาถึงเมลเบริ์นในวันเดียวกันนั้น เวลาเย็นๆ ครับ โดยสายการบิน low cost ท้องถิ่น Jetstar   วันที่เราเดินทางไปเมลเบริ์นนั้น นับเป็นวันที่มีผู้คนหลั่งไหลไปเมลเบริ์น มากๆที่สุดในรอบหลายปีครับ  เพราะมีการประชุมทางศาสนา มีการแข่งรถมอเตอร์ไซด์ที่ Phillip island  และก็ยังมีงานแข่งม้า เมลเบริ์นคัพ Melbourne cup มาพร้อมๆ กัน ทำให้ห้องพักใน Melbourne เต็มเพียบครับ  และที่มีให้พักได้  ก็ราคาพุ่งไปสูงปริ๊ด  ช่างเลือกวันไปได้เหมาะเจาะจริง

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Melbourne คือ รถราง ผมก็เลยพยายามหารูปรถรางมาขึ้นเป็นรูปแรก  Melbourne เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย รองจาก ผมไปอยู่สองเมืองนี้ เมืองละแปปเดียว คงจะบอกไม่ได้ว่า ชอบเมืองไหนมากกว่า ผมว่าถ้าเป็นตัวเมือง มันก็เหมือนๆกันครับ  แต่ที่ Melbourne มันมีสถานที่ท่องเที่่ยว ทางธรรมชาติ ที่หลากหลาย ที่อยู่ไม่ห่างออกไปจากตัวเมือง มากกว่า Sydney ครับ

เวลาเขาแข่ง เทนนิส ออสเตรเลียนโอเพ่น เขาก็มาแข่งกันที่เมืองนี้ด้วยนะเออ

คืนแรก ดีหน่อยได้พักที่ เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ กลางใจเมืองครับ ชื่อว่า Oaks ที่ Collins street http://www.oakshotelsresorts.com/oaks-on-collins/

Oaks on Collins, Melbourne
 หนึ่งห้องน้ำ สองห้องนอน หนึ่งรับแขก และที่ทำครัว นับว่าเป็นคืนที่ดีที่สุดที่นอนที่ Melbourne ในครั้งนี้ ครับ
Oaks on Collins, Melbourne

Oaks on Collins, Melbourne
 Oaks นี่อยู่ใกล้ ศาลาว่าการเมือง และไม่ไกลจากที่กินที่เที่ยวมากนัก คือเดินไปได้
Oaks on Collins, Melbourne

Melbourne
คืนแรก เราก็เลยเดินไปทานแถวๆ block place ครับ เป็นตรอกเล็กๆ ที่มีร้านมากมาย Block place เป็นที่ฮิตของทั้งคนท้องถิ่นและ นักท่องเที่ยว  แต่ผมไม่รู้ไปทานร้านไหนดี ก็เลย จิ้มเอาได้ ร้าน Olio Cucina มาครับ

Melbourne
 ร้านนี้ไม่เลว เหมือนกันครับ  แต่ได้ความรู้ว่า อย่ามาหวังทานอาหารทะเลที่นี่ เพราะมัน เป็นอาหารทะเลแช่แข็งทั้งนั้น
Olio Cucina , Block place, Melbourne

Olio Cucina , Block place, Melbourne

Olio Cucina , Block place, Melbourne
หลังจากจบวันแรก เราก็ออกเดินทางไปเที่ยวข้างนอกเมือง เมลเบริ์นกันเลย  อย่างที่บอกว่าเมลเบริ์น อยู่ใกล้ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เราก็เลยเช่ารถออกจากเมือง เพื่อขับไปเที่ยวชมครับ

เส้นทางท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม สำหรับเมลเบริ์น ก็มี 1. เที่ยวขับรถไปทาง The great ocean drive ไปจนถึงจุดที่ชมหิน Twelve Apostles ครับ
2. เส้นทางชิมไวน์ ที่ Yarra valley   และ 3. ไปชมนกเพนกวินพาเหรดที่ Phillip Island ครับ

ซึ่งในการเที่ยวครั้งนี้ เราไปครบทั้งสามเส้นทางเลย  บอกเลยว่าเหนื่อยครับ ไปเยอะเกิน

แผนที่ท่องเที่ยว Melbourne และบริเวณข้างเคียงของผม
ผมเดินทางโดยมีกำหนดการดังนี้ครับ คือเช่ารถที่ Melbourne เบอร์ 1 เพื่อไปยังหมายเลขสี่ คือ Twelve Apostles โดยใช้เส้นทางขับรถที่ว่ากันว่า สวยที่สุดในโลก คือ The great ocean drive  จากนั้น ก็ขับรถมุ่งตรงไปหมายเลข ห้าเพื่อไปชม wine yard ที่ Yarra valley  แล้ว ก็เอารถมาคืน จากนั้นซื้อทัวร์ เพื่อไปชมเพนกวิน ที่ Phillip Island ครับ  ที่ไม่อยากขับรถ ก็เพราะ ว่ากว่าจะดู เพนกวินเสร็จ ก็ดึกมากแล้วครับ  แล้วเราก็ไม่ชินทาง อีกอย่าง ที่พัก Phillips Island ก็เต็มด้วย เพราะวันที่ไปดูนั้น มันมี Motocross แข่งกัน

ก็สรุปการเดินทางได้ประมาณนี้  ต่อไปมาชมรูปกันดีกว่า

ลำดับแรก ต้องไปเอารถเช่าก่อนครับ ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลาย

Hertz Melbourne
 เราได้รถ สัญชาติ ออสเตรเลีย ยี่ห้อ โฮลเดน (Holden ) ครับ ยี่ห้อนี้ไม่ค่อยมีวิ่งในไทย เท่าไหร่แล้ว  ผมว่ารถมัน มีเทคโนโลยี ตามไม่ทันพวกรถยุโรป รถยี่ปุ่น ไปแล้วครับ  ขับก็นิ่มๆ ยวบๆ ด้วยคันนี้

รถเช่า เมลเบริ์น
รถเช่า Melbourne
ขับรถที่ออสเตรเลีย ไม่ยากครับ รถทุกคันขับที่ speed limt พอดีๆ ก็เลย ขับเร็วเท่าๆกันหมด

ผมไปแวะพักจุดแรกที่ เมือง Torquay ซึ่งชื่อเมืองนี้ มันไปตรงกับชื่อเมืองในประเทศอังกฤษเลยครับ  ชื่อเมืองหลายๆ เมืองใน Australia นี่ก็มีชื่อเหมือนๆ เมืองในอังกฤษ

Torquay เป็นจุดเริ่มของถนน The great ocean drive และก็เป็นเมืองหลวงของชาว Surf หรือชาวนักกระดานโต้คลื่นด้วยครับ  และก็เป็นสถานที่กำเนิดของ Brand ดังหลายๆ Brand ที่มีต้นกำเนิดจาก การขายผลิตภัณฑ์สำหรับนักโต้คลื่น  ถ้าดูในแผนที่ด้านบน จุดนี้คือหมายเลข 2 ครับ

Torquay, Australia
ร้าน Sticks and Stones เป็นร้าน ที่มีให้ทานได้ตรงนี้ อีกร้านนึงเป็นร้าน ญี่ปุ่น ( ปลอมๆ )
Torquay, Australia
 ที่นี่ มี Surf museum ด้วยครับ ถ้ามีเวลาก็น่าจะแวะเข้าไปเยี่ยมชม
Torquay, Australia

Torquay, Australia
Surf  museum Torquay
 The great ocean drive มันเป็นสวรรค์ ของนักขับรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์ จริงๆครับ เพราะถนน สวย มีทั้งเลียบหาด และผ่านไปในภูเขา ผ่านป่า ผ่านอุทยาน  เสียตรงที่มันจำกัดความเร็ว และรถทุกๆ คัน ก็วิ่งที่ความเร็วสูงสุด ที่จำกัดไว้นั่นแหละ เท่าๆกันหมด

The great Ocean drive

The great Ocean drive
 หลังจาก สงครามโลก ทหารผ่านศึกจำนวนมาก ได้กลับมาที่ ออสเตรเลีย และก็ไม่มีงานทำ  ทางการก็ เลยสร้างโครงการ The great ocean road ที่เป็นถนนเรียบมหาสมุทร แห่งนี้ ผ่านเมืองต่างๆ เพื่อให้เป็นถนน สำหรับท่องเที่ยว ของประเทศออสเตรเลีย  นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่งนัก

The great Ocean drive
 เมือง Lorne เป็นเมืองระหว่างทาง มีที่พัก ดีๆ เหมาะแก่การพักเช่นกัน
Lorne, The great Ocean drive
Torquay, Australia

Lorne, The great Ocean drive
ส่วนพวกผมก็ ขับต่อไป ผ่าน Lorne ไปเพื่อหยุดพักที่ Appolo bay  (http://en.wikipedia.org/wiki/Apollo_Bay) ทั้งเมืองมีคนอยู่พันกว่าคน เป็นการขับรถ มาราว แปดชั่วโมง ขับๆหยุดๆ

(Appolo Bay ก็คือหมายเลข สามในแผนที่ด้านบนครับ ใช้เวลาในการขับรถแบบท่องเที่ยว จากหมายเลข หนึ่ง มานอนพักหมายเลขสอง แปดชั่วโมง)

และผมไม่เอารูปมาให้ดูนะ  เพราะผมก็ไม่ประทับใจเท่าใดนัก  นอนที่ Youth hostel ด้วย ราคา พันกว่าบาท ครับ ใช่แล้ว หน่วยเป็นบาทครับ  นับเป็นคืนที่พักด้วยราคาที่ถูกที่สุดใน ทริปนี้ครับ

ตื่นมาอีกวันหนึ่งก็ขับรถต่อเลยครับ เพื่อไป Twelve Apostles

The great ocean road wild life park

The great ocean road wild life park

The great ocean road wild life park
ถนนช่วงนี้ เป็นการขับผ่านอุทยานแห่งชาติ คล้ายๆเขาใหญ่เมืองไทย และก่อนถึง Twelve apostle นิดหน่อย จะพบกับ The great ocean road wildlife park ซึ่งเป็นคล้าย ๆสวนสัตว์ เปิดขนาดใหญ่  แต่มันใหญ่มากๆ และธรรมชาติ มากเลยครับ สัตว์ก็ดูสุขภาพดี ทัวร์ก็ไม่ค่อยมี  ผมแนะนำให้ แวะที่จุดนี้ด้วยครับ

http://www.greatoceanroadwildlifepark.com/
The great ocean drive
แล้วในที่สุด หลังจากผ่านโค้ง มาหลายพันโค้ง เราก็มาถึง The twelve apostles ที่เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ที่น่าจะมาแวะชม  คล้ายๆ ไปชมแกรนแคนยอน ของสหรัฐอเมริกา น่ะครับ

ที่ Visitor center มีบริการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปชมด้วยครับ
twelve Apostles visitor center , Australia
 Twelve Apostles เป็น เสาหินปูน ในมหาสมุทร ซึ่งเกิดจากการซัดกร่อนของน้ำ ตามธรรมชาติ   รู้สึกว่าจริงๆ แล้วจะนับเสาไม่ได้ครบสิบสองต้น แต่การตั้งชื่อเป็น เสาหินอัครสาวกทั้งสิบสอง นี่ก็เรียกผู้แสวงบุญ (เช่นผม) ให้มาชมได้ดีทีเดียว  เสาหินพวกนี้เป็นเสาธรรมชาติ ตอนนี้มีแปดต้น เพิ่งล้มไปต้นนึงเมื่อปี 2002 ครับ  และถ้าน้ำทะเลซัด อย่างนี้ทุกวัน มันก็คงล้มไปหมดในไม่ช้าครับ  อัตราการกัดกร่อนอยู่ที่ราว สองเซนติเมตร ต่อปีครับ  น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน  ถ้าซัดมาแรงขนาดนี้ จะไม่กร่อนได้ยังไงครับ

สิ่งที่เป็นผู้ให้กำเนิดมัน ก็ทำลายมันได้เหมือนกัน ครับ รีบไปชมนะครับ

Twelve Apostles คือหมายเลขสี่ในแผนที่ครับ

12 Apostles , Australia

12 Apostles , Australia

12 Apostles , Australia
ขับรถต่อไปอีกนิดเดียว ก็ถึงเมือง Port Campbell ที่เป็น เมืองท่าเล็กๆ ชื่อเดียวกับวนอุทยาน Port Campbell 

เมืองนี้ มีร้านสวยอยู่ร้านนึงริมหาดครับ ร้านี้อาหารอร่อย และก็มี Beer ที่ปรุงเองที่ร้าน ชื่อว่าร้าน 12 Rocks Beach Bar ครับ http://www.12rocksbeachbar.com.au/
Port Campbell
 ร้านนี้วิวสวย อาหารอร่อย อย่าลืม ลองเบียร์ Prickly Moses  ครับ
12 Rocks beach bar, Port Campbell

12 Rocks beach bar, Port Campbell

12 Rocks beach bar, Port Campbell

12 Rocks beach bar, Port Campbell
หลังจากนั้น เราก็ขับรถไกลมาก จากหมายเลขสี่ในแผนที่ ไปยังหมายเลขห้าในแผนที่ครับ  แต่เนื่องจาก ขากลับไม่ได้กลับทางเส้น The great ocean road แล้ว แต่วิ่งไปยังถนนสายหลัก ผ่าน Colac วิ่งตรงๆ เข้า Melbourne แล้วก็ ไปยังย่านปลูกไร่องุ่น ที่เรียกว่า Yarra valley  ที่อยู่ยังหมายเลขห้า ในแผนที่ของผมด้านบนครับ

ออกจาก Port campbell หลังเที่ยง ก็ไปถึง Yarra Valley ราวๆ เกือบหกโมงพอดี เราพักกันที่ Balgownie estate Vineyard นับเป็นสถานที่ที่สุดแสนวิเศษสุด ในทริปนี้ และราคาก็ไม่แพงมากด้วยครับ

http://www.balgownieestate.com.au/

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia
 จากห้องพัก มองเห็นวิว  มันคล้าย ๆ อยู่ไร่องุ่นที่วังน้ำเขียว เพียงแต่ วิวมันดูกว้างไกลกว่า
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

 มีโปรโมชั่น ให้ขับ รถ Super car ที่จอดเรียงกันเหล่านี้ พร้อมรับประทานอาหารที่ Vineyard  ในราคา ไม่แพงมาก

ผมว่า โอเคอยู่นะ ได้ขับ เฟอรารี่ ในถนนที่สวยงาม กินอาหารดีๆ และพักสวยๆ ในราคาประมาณนี้ครับ (หลักหมื่นบาท ต้นๆ ไปทางกลางๆครับ )

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia
 ่
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia
 ห้องพักครับ

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia
 ผมอยู่นี่ สัก สามสี่วัน ก็ได้ครับ
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia
 Dinner ที่ รีสอร์ต นี้ ราคาไม่แพงนะครับ  ผมว่าที่ที่ผมพักนี่มันสำหรับ คนกลางๆ  ไม่ใช่สำหรับคนรวยๆ หรอก ดูจาก คนอื่นๆที่มาพักที่นี่กันน่ะครับ
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia
 Steak ค่อนข้างแข็ง น่ะครับ
Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

Balgownie Estate Vineyard, Yarra , Australia

พักแค่คืนเดียวครับ อีกคืนนึง ก็เข้ามานอน ที่ Melbourne แล้ว เป็นคืนสุดท้ายที่ Australia ด้วย  แต่กว่าจะได้เข้าโรงแรมก็ดึกมากครับ  เพราะว่าเราไปทัวร์ ดูเพนกวินพาเหรดที่เกาะ ฟิลลิป มาก่อน ที่เกาะนี้อยู่ที่เบอร์หกในแผนที่ครับ  คือเดินทางจากเบอร์ 5 ไปเบอร์ 1 เพื่อนั่งรถทัวร์ไปที่เบอร์ 6 แล้วก็กลับมาค้างที่เบอร์ 1 เหมือนเก่าครับ

รอบนี้พัก Tune Hotel Melbourne ซึ่งเป็นโรงแรม low cost แต่ปรากฎว่า คืนนั้นโรงแรมที่ Melbourne เต็มหมด เพราะมีแข่งม้า Melbourne cup และมี งานทางศาสนา งานใหญ่ที่ผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ทำให้ ราคาห้องพักของ Tune Hotel ในคืนนั้น พุ่งไปเป็นห้องละหมื่นบาททีเดียวครับ  ( แพงเว่อร์ เลยละครับ )
ที่นี่ ค่าผ้าเช็ดตัว ยังคิดเลยครับ ฝากกระเป๋า ไว้ก็คิด ยุบยับไปหมด

Tune Hotel , Melbourne 

Tune Hotel , Melbourne 
Tune Hotel , Melbourne 


Tune Hotel , Melbourne 
 ไปเที่ยว Phillip island เราใช้ทัวร์ไปครับ ขึ้นรถไปตอนบ่าย ใช้เวลาราวสองชั่วโมง แต่เขาพาไปแวะ สวนสัตว์ ไปดู โคอาล่า ก่อน แล้วก็ไปแวะกินข้าวเย็นอีกที ก่อนจะไปดูเพนกวิน เพราะนกเพนกวิน จะมาเดินพาเหรดกลับรัง ราวๆ สองทุ่มของทุกวัน

สวนสัตว์

สวนสัตว์
 ที่ Phillip Island มีงาน Motocross ใหญ่จัดอยู่  ผู้ใหญ่แว้นเพียบ
Motor cross
 มาแวะทานข้าวที่ ตัวเมือง ของ Phillip Island ครับ  แนะนำร้าน Kristos เลย  แทนที่จะไปทานพวก fish and chips ไปทานร้าน อาหารกรีก ดีกว่า อร่อยด้วย
Phillip Island, Australia

Phillip Island, Australia

Phillip Island, Australia

Phillip Island, Australia
 ที่ Phillip Island ตรงที่มีรังของพวกเพนกวินอยู่ เป็นเขตอนุรักษ์ เขาซื้อที่ดินจากประชาชน กลับมาเป็นของรัฐ และอนุรักษ์สัตว์ทั้งหลายเอาไว้
Phillip Island, Australia
 การมาชมเพนกวินพาเหรด มิใช่การมาดูสวนสัตว์ แต่เป็นการชมปรากฎการณ์ และพิธีทางธรรมชาติ ของเพนกวินจิ๋ว ที่เดินทางจากทะเล เพื่อกลับสู่บ้านในทุกๆ วัน  และที่เขาต้องกลับกันตอนสองทุ่ม ก็เพราะต้องรอให้แสงหมดก่อน เพื่อแน่ใจว่า ผู้ล่าหลับกันหมดแล้ว จะได้เดินทางเข้ารังอย่างปลอดภัย

Phillip Island, Australia
ส่วนภาพถ่าย เพนกวิน นั้นไม่มี เพราะเขาห้ามถ่ายรูปเพนกวิน  ไม่ว่าจะใช้ Flash หรือไม่ก็ตาม(แต่ก็มีคนแอบถ่ายอยู่นะ)  และกว่าจะดูเสร็จ กว่าจะกลับถึง Melbourne ก็เกือบเที่ยงคืนเลยครับ

ถ้าจะไปชมเพนกวิน เตรียมเสื้อหนาวไว้เผื่อสักหน่อย เพราะลมแรงครับ  และสำหรับที่นั่งเขาก็มีให้เลือกด้วย ว่าจะไปอยู่อัศจรรย์ พิเศษที่มีเพนกวินผ่านเยอะๆ หรือเปล่า  หรือจะเลือกแบบมี Guide พาชมก็ได้ มันมีหลายแพคเกจ ลองเลือกดูครับ

ตื่นเช้ามาอีกวันนึง เป็นวันสุดท้ายแล้ว ก็อุทิศให้กับการ Shopping ครับ  ตอนเช้า ทานโจ๊กที่ mr. Kitchen ที่นี่มีโจ๊ก และน้ำเต้าฮู้

Mr.Kitchen, Melbourne

Mr.Kitchen, Melbourne
 ที่ ออสเตรเลียนี่ของค่อนข้างแพง ยกเว้นพวกผลิตภัณฑ์สำหรับเล่นกีฬา หรือของ Brand ที่เป็นยี่ห้อของเครือจักรภพ รวมถึงครีมของที่นี่ และรองเครื่องหนัง Ugg ที่เป็น  brand ของที่นี่เช่นกัน

Melbourne
ขอสรุป การท่องเที่ยว Australia ของผมในครั้งนี้แต่เพียงเท่านี้ครับ  ประทับใจ แต่ว่า ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับของที่ได้ครับ

1 ความคิดเห็น: