|
เกียวโต |
" เราไม่มีทางรู้ว่า เราจะได้ทำอะไร เป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีทางรู้ว่าการเจอกับเขาครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า เราจะได้มีโอกาสเจอกันอีกไหม" ด้วยความคิดนี้ วนไปวนมา ไม่มีสิ้นสุด คนอายุถึงสี่สิบ อย่างผม ถ้าเป็นการวิ่งแข่ง ก็คงเลยครึ่งทางมาแล้ว หรือที่ผมชอบพูดว่า " เลยจุดกลับตัว" มาแล้วนั่นแหละ ถ้าไม่กลับตัวตอนนี้ ก็คง ไม่ถึงเส้นชัยแล้วมั้ง คงไปไหนต่อไหน ออกนอก เป้าหมายไปไกล ขึ้นเรื่อยๆ
ปีที่แล้วในช่วงเดียวกันนี้ เป็นวันที่ผมได้ไปเกียวโตมาเหมือนกัน ไปครั้งนั้นก็เพราะว่า อาจารย์ของผมท่านเสีย ผมจึงได้เดินทางไปร่วมในงานของท่าน ผมได้เจอ อาจารย์ของผมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะเสีย ก็ที่เกียวโตนี่แหละ ตอนนั้นที่สถานีเกียวโต และก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน ว่าครั้งนั้นแหละจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย
ครั้งนี้ ผ่านไปปีหนึ่ง เพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน ลูกศิษย์อาจารย์คนเดียวกัน นัดกันเพื่อไปเคารพอาจารย์กันอีกครั้ง เนื่่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปี ของการจากไปของท่าน
ทีแรกผมก็จองโรงแรมไว้แล้วละ แล้วก็ยกเลิกไปแล้ว ด้วย เพราะช่วงนี้เดินทางบ่อยมาก แทบไม่ได้อยู่บ้านกันทีเดียว แต่สุดท้าย ก็เพราะความคิด ที่ว่า "เราไม่มีทางรู้ว่า ครั้งที่เพื่อนๆ จะนัดเจอกันนี้ เป็นครั้งสุดท้าย หรือเปล่า นั่นแหละ" ผมถึงได้มาจนได้
ปรากฎว่า วันที่มา ตอนกลางของญี่ปุ่นโดนพายุลูกใหญ่ชื่อ Nangka เข้าเต็มๆ แบบนี้เลยครับ นี่คือภาพถ่ายจาก เวป Mashable ภาพนี้เป็นภาพเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 ส่วนผม ไปเกียวโตครั้งนี้วันที่ 17 กรกฎาคม 2558 และแถมเพิ่งมารู้ทีหลังว่า พายุนี้ใหญ่มาก ระดับ Super Typhoon ระดับ 4 ( จาก 5 ระดับ ตาม scale ที่วัด ความแรงพายุ ต่างกันไปตามแต่ละถิ่นของโลกครับ) เพราะถ้ารู้เช่นนั้น ผมอาจยกเลิก ทริปนี้ไปเหมือนกันครับ
|
JMA Satellite 15 July 2015 |
ผลปรากฎเมื่อลงเครื่องมาถึงสนามบินคันไซก็คือ รถไฟที่วิ่งเร็วๆ ที่มีปลายทางเป็นเกียวโต หยุดวิ่งในเช้าวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ที่ผมไปถึงสนามบินครับ จะเปิดวิ่งกันอีกที ตอนบ่ายสองโมงของวันนั้น
|
Kansai-airport |
รถด่วนสาย สนามบินคันไซ ไปเมืองเกียวโต ที่ชื่อฮารุกะ หยุดวิ่งครับ ทำให้ผมเกิดการผจญภัยเล็กๆ เพราะปกติจากสนามบินคันไซ ไปเกียวโต ผมก็นั่งฮารุกะทุกทีเลย ไม่เคยเรียนรู้วิธีอื่นเท่าไหร่
|
Haruka train |
เอาละ ได้เรียนรู้ก็คราวนี้ คือนั่งรถไฟ สายด่วนสนามบินคันไซ ไปโอซาก้า ก่อน แล้วจากนั่น ก็นั่งรถหวานเย็น ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนรถอีกสองที ก็จะถึง เกียวโตได้ครับ
|
Nankai train |
ที่สนามบิน เขาจะมีชุดบัตรรถไฟ แบบนี้อยู่แล้ว ไปบอกเขาจะไปเกียวโต เขาจะให้บัตร รถด่วน Nankai กับรถไฟปกติมา เราก็จะได้บัตรสองใบ
|
ตั๋วรถไฟ |
รถไฟ Namkai หน้าตาเป็นแบบนี้ เพิ่งเคยขึ้นเหมือนกัน ถ่ายรูปไว้สักหน่อย
|
Nankai train ไป Namba , Osaka |
|
Nankai train |
|
Nankai train |
ไปลงสถานี โดทมบุริ แล้ว ต่อรถ Hankyu หวานเย็น ไปครับ เพราะวันนั้นแม้แต่ Hankyu ที่เป็นรถด่วน ก็ไม่วิ่งกันทั้งหมด เหลือแต่รถ แบบวิ่งช้าๆ เพราะว่า ที่เมืองเกียวโต เช้าวันนั้น เกิดน้ำท่วมครับ จากฝนที่ตกหนักเมื่อคืนก่อนที่จะไปถึง
ตั้งแต่ เรียนอยู่ที่นี่และได้มา ก็เพิ่งเคยเจอ เกียวโตน้ำท่วม เหมือนกันครับ แต่เค้าท่วมอยู่แค่ช่วงเช้า แปป เดียวแล้วก็ไม่มีแล้วครับ เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
|
Dotombori station |
ในเมืองเกียวโต นั้นมีเทศกาลที่สำคัญมากๆ ที่มีคนมาเที่ยวเยอะๆ น่าจะมีอยู่หลักๆ สองครั้งในช่วงฤดูร้อนครับ คือเทศกาล กิออน ( Gion Matsuri) กับเทศกาล โอบ้ง (Obon Matsuri) ซึ่งตอนที่ผมมานั้น กำลังอยู่ในช่วงที่สองของเทศกาล กิออน
สมัยก่อนนั้น ( ไม่นานมานี้เอง) กิออน มัสซึริ น้้น มีการจัดแค่ช่วงเดียว ครั้งเดียวต่อปี ผมก็เพิ่งทราบว่า ตอนนี้เขาจัดงานนี้แบ่งเป็นสองช่วงแล้ว อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละ แต่แบ่งจัดเป็นสองช่วง
ในเทศกาลนี้จะมีการนำ "ย่าม่า" กับ "โฮโกะ" ออกมาตั้งให้ชมก่อน เสร็จแล้วเมื่อถึงวัน ก็จะทำการแห่ไปรอบๆ เมือง ดังนั้นในช่วงนี้จะมีการปิดถนน อยู่หลายจุด และการจราจรในเกียวโต จะค่อนข้างติดขัดเลยครับ
ถ้าได้เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กันแล้ว ก็เลิก เป็นไม่ได้ครับ ความเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง ในสำนัก ก็เช่นกัน
|
Kyoto Tokyu Hotel |
|
Kyoto Tokyu Hotel |
ร้านอาหารเช้า เลือกได้สองที่ ที่หนึ่งเป็น บุฟเฟ่ต์ คือ ที่ Kazahana กับอีกที่ เป็นอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น มาเป็นชุด
|
Kyoto Tokyu Hotel |
|
Kyoto Tokyu Hotel |
Egg Benedict แบบเกียวโต
|
Kyoto Tokyu Hotel |
|
Kyoto Tokyu Hotel |
พลาดไม่ได้กับ ผักดอง ของเกียวโต เขามีชื่อเสียงมาก เพราะเกียวโตเป็นเมืองไม่ติดทะเลด้วย การรักษา ถนอมอาหารของเกียวโต จึงพิเศษกว่าที่อื่นๆ
และถ้าสามารถทานได้ พลาดไม่ได้เลยกับ นัตโตะ
|
Kyoto Tokyu Hotel |
เลม่อน ที่มีที่คั้น เอง สดๆ ( แต่จริงๆ ผมไม่รู้ว่า เค้าเอาไว้ให้กินเป็นน้ำผลไม้สด หรือว่า เอาไว้ใส่กับชากาแฟ กันแน่ ไม่รู้เหมือนกัน)
|
Kyoto Tokyu Hotel |
บรรยากาศนั่งกินคนเดียว มองไปตรงกลางจะเห็นเป็นวิว น้ำ สวยๆ กลางโรงแรมครับ
|
Kyoto Tokyu Hotel |
เนื่องจากผม check out แล้ว เพราะนอนแค่คืนเดียว อีกคืนก็กลับแล้วครับ และกว่าเครื่องบินจะออก ก็มีเวลาอีกพอสมควร ก็เลยแวะไปชม พิพิธภัณฑ์การ์ตูน Kyoto International Manga Museum ที่ แถวๆ สถานี Karasuma ครับ ตรงแถวๆนี้ ไม่ห่างจาก พระราชวังเกียวโต เท่าไหร่นัก ใกล้กันมากครับ
สถานที่นี่ น่าจะเคยเป็นโรงเรียนมาก่อนครับ และก็มาแปลงเป็นสถานที่รวมรวมหนังสือการ์ตูน ไว้จำนวนมาก เหมือนเป็น ห้องสมุดการ์ตูนใหญ่ๆ แห่งหนึ่งเลย และก็มีการจัดแสดงเรื่องราว ประวัติศาสตร์การ์ตูนญี่ปุ่น ที่เรียกว่า มังกะ Manga เอาไว้บ้าง คือพื้นที่ส่วนใหญ่ อุทิศให้กับการเป็นห้องสมุดเสียมากกว่า และถึงแม้จะบอกว่า เป็น "International" ก็ตาม เอาเข้าจริง ก็มีหนังสือการ์ตูนเป็นภาษาญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เลยครับ ถ้าอ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นไม่ออก อาจรู้สึกไม่คุ้มค่าเงิน ที่เสีย ตอนเข้าชมได้ เพราะเขาให้คนเข้าไปนั่งๆ นอนๆอ่านการ์ตูนกันในนั้น เยอะเลย
ถ้าถามว่าผมชอบที่นี่ไหม ผมชอบครับ
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
|
Kyoto Manga Museum |
แล้วก็ไปขึ้นรถเมล์ครับ จริงๆแล้วการเดินทางในเกียวโตนั้น เดินทางโดยรถเมล์ สะดวกกว่าครับ เข้าใกล้ เข้าถึง สถานที่เที่ยวสำคัญ แต่ถ้าเป็นวันในช่วงเทศกาลกิออน เช่นนี้ ก็จะรถติด ค่อนข้างมาก
ตรงที่แม่น้ำมารวมกัน Demaji Yanagi
|
Kamo gawa |
รถเมล์ เกียวโต
|
รถเมล์ เกียวโต |
Tera machi (เทรา มาจิ ถนนแห่งวัด ซึ่งตอนนี้ กลายเป็นศูนย์กลางเมืองของเกียวโต ไปเลยทีเดียว)
|
Tera Machi |
แผนที่แสดง ตำแหน่งที่ตั้ง ยาม่า และโบโกะ ในช่วงเทศกาล Obon นี้
|
แผนที่ |
แล้วผมก็เดินทาง ไปสนามบินคันไซ เลยครับ ไม่ใช้ว่าไม่อยากอยู่เกียวโตต่อนะ แต่วันนั้น เป็นวันที่นักท่องเที่ยว มาเกียวโต เยอะมาก ทำให้สถานีรถไฟก็คนพลุกพล่านมากครับ ผมเลยตัดสินใจ ไปนั่งรอที่สนามบินดีกว่า
ที่สนามบินคันไซ จะมีส่วนขายของฝาก ตั้งแต่อยู่ด้านนอก ก่อนผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และมีส่วนขายของฝาก ที่อยู่ด้านในที่เรียกกันติดปากว่าส่วน Duty free หรือส่วนปลอดภาษี ซึ่งความจริงแล้วในส่วนด้านนอก เราก็สามารถทำปลอดภาษีได้เหมือนกัน และของที่ขายด้านนอก กับด้านใน ไม่เหมือนกันนะครับ
และถ้าจะมาหาซื้อ Tokyo Banana ที่สนามบินคันไซ บอกเลยว่าอาจต้องผิดหวัง เพราะที่สนามบินคันไซ ก็ขายของฝากที่เป็นของของถิ่นคันไซ เป็นส่วนใหญ่เลยครับ เช่น โอซาก้า บานาน่า ใช่ครับ โอซาก้า บานาน่า หรือ โกเบ พุดดิ้ง หรือ ผักดองเกียวโต และชาเขียวเกียวโต (ชาเขียวเกียวโตนี่ มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นนะครับ ชาเขียว จากเมือง อุจิ ไง )
ข้อควรระวังคือของฝากบางอย่าง ถือขึ้นเครื่องไม่ได้ ต้อง load ไปในกระเป๋าใหญ่นะครับ จัดแจงเตรียมพื้นที่ไว้ใส่ อันนี้พูดถึงกรณีที่ซื้อของก่อนจะ check in ครับ
|
ของฝาก ที่สนามบินคันไซ |
และของฝากที่ผมแนะนำให้ลองซื้อมา ก็คือ โกเบ พุดดิ้ง ที่เป็นรส เรมิมาแตงค์ ครับ ลองเลย
|
ของฝาก ที่สนามบินคันไซ |
สนามบินคันไซ มีร้านอร่อยหลายร้านนะครับ และส่วนใหญ่ อยู่ข้างนอกโซน ที่ยังไม่ได้ check in ครับ
|
ซูชิ ที่สนามบินคันไซ |
เช่นเคย ผมชอบนั่ง counter
|
ซูชิ ที่สนามบินคันไซ |
ก็คงมีประมาณนี้ครับ สรุปสำหรับ ทริปญี่ปุ่น เกียวโต ครั้งนี้ของผม และหวังว่าจะได้ไปอีกในเร็วๆนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม เสมอมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น