วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

ทริป World Expo 2017 Future Energy ที่กรุง Astana Kazakhstan ตอนที่สอง

Astsna Kazakshatn, World Expo 2017
ความเดิมตอนที่แล้ว เราไปดูงาน Expo 2017 ที่ Kazakhstan เป็นงานใน Theme Future Energy  ในตอนที่แล้วเพิ่งดูได้แค่วันแรกครับ  ไปวันที่สองอีกวัน ตื่นเช้าไปเหมือนเคย

ความเดิมตอนที่แล้วตาม link

วันที่สองตั้งใจจะมาดู Pavilion ของไทยและของเกาหลีครับ  แล้วก็ไล่เก็บ ประเทศอื่นๆตามทางด้วย  วันที่ผมไปนี่เป็นวันชาติของรัสเซีย เขาก็เลยมีงานวันชาติ  และอีกอย่างตอนที่ไปเป็นวันเกือบสุดท้ายของการจัดงาน Expo ครั้งนี้แล้วครับ  ประมาณว่าสองวันสุดท้าย

National Day Russian Fedeation
ด้วยความที่ไปเช้า ทำให้หลายๆ Pavilion ยังไม่พร้อมจะให้เข้าชมครับ ก็เดินเข้าไปคนก็ยังไม่ค่อยจะมากัน  ตั้งใจมาดู Thailand Pavilion เลย

Thailand Pavilion, World expo 2017
เนื่องจากเป็นงาน Expo ที่ไม่ใช่ขนาดใหญ่ที่สุดที่ได้รับการรับรองจาก BIE เหมือนงานในปี 2015 ที่กรุงมิลานอิตาลี  เราจึงไม่ได้เห็น Pavilion อันใหญ่ยักษ์ แต่เป็นคล้ายๆ การจัดงานในอาคารพื่นที่ที่เตรียมเอาไว้ เหมือนไปเมืองทองธานี  โดยประเทศไทย จัดใน Theme พลังงานจากพืช  เพราะในขณะที่ประเทศอื่นๆ อาจมีน้ำมัน มีแร่ธาตุ มีทรัพยากรธรรมชาติพลังงานมากมาย มีเทคโนโลยี   แต่ประเทศไทยเป็นประเทศทางการเกษตรกรรม ผมว่าเราเอานวตกรรมพลังงานจากการเกษตร ก็นับว่าไม่เลวเหมือนกัน

อันนี้แอบไปถ่ายข้างบนมา  เรายกครัวการบินไทยและอาหารไทยมาไว้ในงาน ในส่วนร้านอาหารไทยด้วย
Thailand Pavilion, World expo 2017
 ห้องนำแสดงแบ่งเป็นสามห้อง ห้องแรก คล้ายๆเป็น introduction  เข้าไปก็ไปยืนฟังบรรยายนิดหน่อย
Thailand Pavilion, World expo 2017
 ประเทศไทยมาใน Theme พลังงาน Bio diesel  แต่เอาข้าวโพด มาเป็น mascot เพราะ ผู้จัดของไทยแจ้งว่า จากการทำการบ้าน พบว่าผู้เข้าชมงาน expo ส่วนใหญ่จะเป็นชาว Kazakhstan เอง และชาว คาซัค ชอบทานข้าวโพด มากๆ  และ mascot ที่เป็นข้าวโพด เข้าใจง่าย และน่าจดจำ  จึงได้เลือก mascot ตัวนี้มา

อ้อ mascot น้องข้าวโพดตัวนี้ชื่อว่า "พลัง"

Thailand Pavilion, World expo 2017
 เข้าไปห้องที่สองเป็นห้องชมหนังสามมิติ เกี่ยวกับการผลิตพลังงานทาง Bio

Thailand Pavilion, World expo 2017
 ห้องสามเป็นห้องผสมผสาน มีการเอาช้างไปวางไว้ และมีข้าวโพดยักษ์  และก็มีมูลช้าง  เพราะมูลช้างผลิตพลังงานได้ และแถมตัวช้างเอง ก็เป็นจุดสนใจ ที่ผู้เช้าชมพาวิลเลียน มาถ่ายรูปด้วย

คล้ายๆ กับเวลาไปพาวิลเลียนอียิปต์ ก็ถ่ายรุปคู่กับสฟิงค์  พอมาพาวิลเลียนไทย ก็ถ่ายรุปคู่กับ ช้าง

Thailand Pavilion, World expo 2017
 ข้างบนมี คาเฟ่ อเมซอน

Thailand Pavilion, World expo 2017

Thailand Pavilion, World expo 2017
 มีบูทนวดไทยด้วยครับ
Thailand Pavilion, World expo 2017
การที่ประเทศไทยไปออก พาวิลเลียนแบบนี้ หลักๆ คือการประชาสัมพันธ์ประเทศ  ผมคิดว่าไปจัดแบบนี้ คนคาซัคสถานก็รู้จักประเทศไทยขึ้นเยอะ  จากที่ไม่รู้จักประเทศเราเท่าไหร่  ขนาดไปยังต้องขอวีซ่า  และขอเข้าประเทศยากมาก ครับ

เวลาประเทศไทยเราเดิน ทรูป กันด้วยผีตาโขน นะครับ เรียกแขกได้มาก เพราะผมว่าดนตรีมันสนุก และผีตาโขนก็สีสดใส ชาวต่างชาติไม่เคยเห็น มาถ่ายรูปกันใหญ่

ผมคิดว่าถ้าเอา kpi มาจับเป็นว่า ลงทุนไปเท่าไหร่แล้วได้รับความสนใจเท่าไหร่  ผมคิดว่า ทำแบบประเทศไทย ก็ดีเหมือนกัน  จริงๆไม่ค่อยมีเทคโนโลยีไฮเทค อะไรเท่าไหร่ แต่ความน่าสนใจเยอะมาก และเป็นที่น่าจดจำ ทำให้ Pavilion ของไทยเป็น Pavilion ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดติด อันดับหนึ่งในสี่ของ Pavilion ทั้งหมด จากกว่าหนึ่งร้อยประเทศ

Thailand Pavilion, World expo 2017

Thailand Pavilion, World expo 2017


Thailand Pavilion, World expo 2017

Thailand Pavilion, World expo 2017

Thailand Pavilion, World expo 2017


Thailand Pavilion, World expo 2017

Thailand Pavilion, World expo 2017
อีกสองพาวิลเลียนที่อยากพูดถึงคือ พาวิลเลียนของประเทศเกาหลี กับของประเทศเยอรมันนีครับ

แต่เอารูป อียิปต์มาแปะเฉย  ผมว่าถ้า Pavilion มีอะไรน่าจดจำ มันก็คงเป็นพวกนี้แหละ ที่คนไปจะถ่ายรูป

Astana Expo , World expo 2017

เหตุที่อยากเขียนถึง Pavilion เกาหลีเยอะหน่อย ก็เพราะว่า พาวิลเลียนนี้ มีการผสมผสานระหว่างความเป็นศาสตร์และศิลปเข้าด้วยกัน มีทั้งเทคโนโลยี และงานแสดง

ห้องแรกเป็นห้องเปิด ก็จะมีฉายหนัง เรื่องราวของเกาหลี และเรื่องราวของพลังงานประเทศ

Korea Pavilion, Astana Expo 2017

Korea Pavilion, Astana Expo 2017
 พอจบ ฉากก็จะเปิดออกมา เหมือนบานพับ เพื่อส่งคนเข้าไปที่ห้องที่สองต่อ
Korea Pavilion, Astana Expo 2017
 ห้องที่สองเป็นหนัง ที่ฉายลงบนฉาก ที่เป็นริ้วๆ เป็นหนังเรื่องราวเกี่ยวกับ ชายหนุ่มที่ขับเครื่องบินที่ใช้น้ำมันดีเซล แล้วหลงบินตกไปยังเมืองที่เป็น smart city ที่เขาไม่มีการใช้น้ำมันกันแล้ว

Korea Pavilion, Astana Expo 2017

เล่นหนังอยู่ ก็จะมีคนวิ่งออกมาทะลุจอ เหมือนดูหนังแบบทะลุจอ แต่ก่อน
Korea Pavilion, Astana Expo 2017
ห้องสุดท้าย เป็นห้องที่เสนอ นวตกรรม  เข้าไปถึงเขาจะแจก Samsung note คนละอัน และพอเดินเข้าไปใกล้เสา ตัวเรื่องราวในนั้นก็จะขยายใหญ่ขึ้นมา  เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับคนเคยเห็นครั้งแรก  แต่อีกหน่อย เทคโนโลยีนี้ คงใช้กันทั่่วไป  ผมว่ามันจะช่วยขายของได้ดีมาก

Korea Pavilion, Astana Expo 2017
อีกพาวิลเลียน สุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ ของเยอรมันนี   คือไปต่อคิวรอนานมากเลยต้องเขียนถึงสักหน่อย  ที่พาวิลเลียนนี้มีขายเบียร์เยอะมันที่ตรงทางออกด้วยครับ

ที่เยอรมันก็ขายเมืองต่างๆของเขาเหมือนกัน  และทีเทคโนโลยี เป็นแท่งบวกลบ คล้ายๆถ่าน เอาไปวางตรงช่องที่เป็นสิ่งที่เขานำเสนอ แล้วภาพมันจะขึ้นมาตามภาษาที่เราต้องการ

Germany Pavilion, Astana Expo 2017
 ห้องสุดท้าย เป็นการแสดงแสงสีเสียง และเทคนิค อลังการ

ที่ผมจำได้ดีสุดในพาวิลเลียนของเยอรมันนี คือ การที่ทำกระแสไฟจากแรงน้ำ ที่มีความต่างศักย์ต่ำๆ  ถ้าเป็นแบบนี้ น้ำในท่อประปา ท่อระบายน้ำเสีย ก็น่าจะปั่นไฟได้

Germany Pavilion, Astana Expo 2017

Germany Pavilion, Astana Expo 2017
จบแล้วสองตอน เขียนเท่านี้ ตอนหน้าจะมาเขียน ถึงบ้านเมืองของคาซัคสถาน และเรื่องอาหารการกินบ้างครับ

ส่วนตอนนี้จะสรุปว่า ผมภูมิใจที่ได้ไปเยี่ยมไทยพาวิลเลียน ที่งานนี้ ผมว่าจัดดีกว่างาน ของ Thai pavilion ที่ มิลาน Expo 2015 อีกครับ  อีกครับ อันนี้ link ของอันเก่า 

ไทยพาวิลเลียน ไม่ได้สร้างไว้ให้คนไทยดูเป็นหลักครับ  เพราะมันคืองาน pr ประเทศ เราสร้าง ไทยพาวิลเลียนไว้ให้คนต่างชาติดูครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น