วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รีวิวทริป เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน แบบไปตามโปรแกรมทัวร์ครับ

หอคำหลวง (Royal Pavilion)
 รอบนี้ไปเชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน แม่สะเรียง แล้วกลับมางาน Royal Flora 2011 แล้วก็กลับกรุงเทพ ฯ ครับ เป็นการไปกับบริษัททัวร์หนุ่มสาวทัวร์ครับ

ข้อดีของการไปกับทัวร์ก็คือ ทัวร์เขาคิดให้หมด ได้ดูที่เที่ยวหลายที่ ในเวลาอันจำกัด และงบอันประหยัดกว่าไปเองในบางกรณี แต่ข้อเสีย ก็คือเรื่องเดียวกันนั่นเอง คือเรื่องเวลาอันจำกัดนั่นเองครับ ทำให้การไปรอบนี้ เหมือนกับไปแตะๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แค่ใช้เวลานั่งรถก็หมดไปทั้งวันแล้วครับ

ผมจะเล่าให้ฟังตามโปรแกรมทัวร์เลยแล้วกัน  วันแรกลงเครื่องแล้วนั่งรถตู้จากเชียงใหม่ มุ่งหน้าไปแม่ฮ่องสอน ซึ่งทางนี้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยว หลายแห่ง และร้านน่ารักน่าแวะหลายที่ แต่ผมไม่ได้แวะเลย ทัวร์ก็พานั่งรถไปแวะที่แรกคือ น้ำพุร้อน โป่งเดือดครับ

น้ำพุร้อนโป่งเดือด นี่อยู่แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นน้ำพุร้อนที่ มีความร้อน และมีน้ำผุดสูงเป็นช่วงๆ จากความดันใต้ผิวดิน เมื่อลงรถแล้ว ต้องเดินเข้าไปอีกราว 500 เมตรครับ เป็นทางราบๆ เดินเข้าไปไม่ลำบาก

อันนี้รูปครับ รูปแรก สถานที่ที่เคยเป็นที่ประทับแรมเต็นของสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ที่ประทับแรมเต็นของสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
น้ำพุร้อนโป่งเดือด ที่มีไอน้ำ พุ่งตลอดเวลา และมีกลิ่นกัมมะถันครับ ส่วนข้อมูลสามารถหาได้ใน อินเตอร์เน็ตครับ ผมไม่เขียนซ้ำละกัน
น้ำพุร้อนโป่งเดือด
อันนี้บ่อต้มไข่ เดินไปได้สักครึ่งทางจากปากทาง จะเจอคนขายไข่ อยู่แล้วก็ให้เราเอาไข่ไปต้มเองครับ เข้าใจว่าบ่อนี้น้ำไม่ค่อยร้อนมากเท่าไหร่ (70-80 องศา) กว่าไข่จะสุก ก็นานอยู่นะครับ

บ่อต้มไข่

เดินทางไปอีกเท่าไหร่ก็ไม่ทราบครับ หนทางคดเคี้ยวเล็กน้อย แต่ร่มรื่น จะมาถึง อุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง ตรงนี้จะอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอนแล้ว ที่นี่มีสโลแกนว่า "ไปกอดทะเลหมอก ที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง"
อุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง
เวลาที่ผมไปนั้น เป็นตอน 12.00 นาฬิกาครับ หมอกยังจัดขนาดนี้ ตามรูปครับ ตรงที่จอดรถจะเป็นจุดที่สูง ให้เดินลงไปด้านล่าง จะเห็นหมอก ได้ชัดเจนเลยครับ  ขึ้นมาพักที่ตรงนี้ ก็ได้  เวปนี้ รูปสวยจังนะครับ ดูรูปที่ เวปเขาดีกว่า เนื่องจากผมไปกับทัวร์ ทำให้เวลาในการถ่ายรูปตามจุดต่างๆ น้อยมากๆครับ เรียกว่าไปแตะๆ เอง ( web ครับ )
ห้วยน้ำดัง
ต่อจากจุดนั้น ทัวร์ก็พาไปแวะทานข้าวที่ ปายครับ คนเยอะมากครับ รูปแรกเป็นรูปที่ร้าน coffee in love ครับ จริงๆ รูปสวยก็พอมีแหละครับ คนเยอะเกิน เลยไม่เอารูปลงซะดื้อๆ ครับ
Coffee in Love ที่ ปาย
ข้าวเที่ยงมาทานที่ร้าน ปาย ยูนานครับ เป็นร้านอาหารที่อยู่ในชุมชน ของชาวจีน อาหารอร่อยดีนะครับ เพิ่งเคยมา และเพิ่งรู้ว่ามี แบบนี้ที่ปายด้วย ขาดไม่ได้ หมั่นโถว กับขาหมูครับ
ร้านปาย ยูนาน
อันนี้ เป็นเครื่องเล่นแบบชิงช้า ใช้มือปั่น ค่าเล่นคนละ 25 บาท ครับ
ชิงช้า 
ของฝาก ฮิต ที่นี่คือ ชา แบบต่างๆครับ
หมู่บ้าน ชาวจีน ยูนาน ที่ปาย
ที่หน้าวัดน้ำฮู นี่เรายังสามารถพบเห็น ปั้มน้ำของ รฟช. แบบใช้มือปั้มได้อยู่นะครับ  ส่วนหลวงพ่อวัดน้ำฮู นี่ท่านว่า ศักดิ์สิทธิ์ ที่เกศาของหลวงพ่ออุ่นเมือง ( องค์เล็กตรงกลาง)  เปิดออกได้ครับ และมีน้ำขึ้นมาจนเต็มพระเกศา ได้เอง ท่านว่าไว้เช่นนั้น
วัดน้ำฮู
ที่ด้านหลังอุโบสถของวัดน้ำฮู จะมี เจดีย์ ที่ตำนานเล่าว่ามีพระเกศาของ พระพี่นางสุพรรณกัลยา บรรจุอยู่ครับ  นับว่าวัดน้ำฮูเป็นจุดแวะจุดหนึ่งของคนที่มาปาย ทีเดียว
วัดน้ำฮู
เจดีย์ วัดน้ำฮู
เจดีย์ วัดน้ำฮู
ต่อไป นั่งรถต่ออีกยาว ไปแวะพักที่จุดชมวิว มีชาวเขามาขายของ เป็นพวกข้าว พวกไม้

จุดชมวิว ปางมะผ้า
ชาวบ้านที่มาขายของ
จุดชมวิว ปางมะผ้า

ไปอีกหน่อยก็ถึงแม่ฮ่องสอนครับ  ผมว่าแม่ฮ่องสอนตอนนี้ สงบกว่าปายอีกนะครับ  อันนี้รูปแรกถนนคนเดิน แม่ฮ่องสอน ใกล้ๆ วัดจองกลาง จองคำ

ถนนคนเดิน แม่ฮ่องสอน
วัดจองกลาง  วัดจองคำเป็นวัด อยู่ในรั้วเดียวกัน หากมาจากถนนคนเดิน เอาหลังไปทางบึง วัดจองกลางจะอยู่ทางขวาครับ  ภายในมี ภาพวาดบนแผ่นกระจก เรื่องพระเวสสันดร ชาดก ครับ และมีห้องแสดงตุ๊กตาแกะด้วยไม้ เป็นพุทธประวัติครับ  ผมชอบศิลปะที่อยู่ภายในวัด ทั้งสองนี้มากครับ
ภาพวาด พระพุทธประวัติหลังกระจก
พระอุปคุตต์ ในวัดแห่งนี้ และมีประเพณีตักบาตร ตอนเที่ยงคืนครับ  วัดแห่งนี้ เต็มไปด้วยศิลปะ และประเพณีแบบพม่าครับ ที่จริง หลายๆวัดในแม่ฮ่องสอน ก็ใช่ด้วยครับ
พระอุปคุต

วันต่อมา ทัวร์พาลงเรือไป หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ครับ  รูปแรก เป็นรูปการผูกเรือด้วยเบ็ด 
เบ็ดผูกเรือ
รูปต่อไปนี้ เป็นรูปชุดของการเดินทางไปที่ หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวครับ  เด็กๆที่นี่เขาเรียนสามภาษาเลย คือ พม่า ไทย อังกฤษ
คนเรือ
ภายในหมู่บ้านนี้ ผู้คนมีรายได้จากการท่องเที่ยวกัน นั่งรอให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปด้วย และให้ตังค์เขา
กะเหรี่ยงคอยาว เล่นกีตาร์
เด็กในหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
เด็กได้เงินทีละ 20 บาท จากการ นั่งให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปด้วย
เด็กในหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
ประทับใจที่สุด คือโบสถ์ คาทอลิกในหมู่บ้านแห่งนี้ ครับ
โบสถ์ คาทอลิกในหมู่บ้าน กะเหรี่ยงคอยาว
 ที่นี่ เขาสวดเป็นภาษาพม่า
หนังสือเพลง เป็นภาษาพม่า

ต่อไป ขึ้นพระธาตุวัดพระธาตุดอยกองมู ครับ ที่นี่เห็นวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้ชัดเจน วัดนี้เดินขึ้นก็ได้ หรือจะนั่งรถขึ้นมาก็ได้ครับ
หากเดินขึ้นมา จะผ่านวัดพระนอน ที่อยู่ทางด้านล่าง ที่วัดพระนอนก็มีห้องเก็บสะสมพระเก่า และของเก่าที่น่าแวะชมครับ
วัดพระธาตุดอยกองมู
ศิลปะไทใหญ่
วัดพระธาตุดอยกองมู
ส่วนวัดนี้ วัดหัวเวียงครับอยู่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนั่นเอง เป็นวัดที่มีพระพุทธรูป องค์งาม พระเจ้าพาราละแข่ง พระองค์นี้จำลองมาจากพระมหามุนี แห่งเมือง มัณฑเลย์ ที่ถูกล้อมไว้ด้วย กรงทั้งสี่ด้านครับ เนื่องจากองค์พระทำด้วยทองเหลืองแต่พระพักต์นั้น มีทองคำผสมอยู่ด้วยครับ

 ผมอยากให้ชื่อภาพข้างล่างนี้ว่า "ปกป้องความดี หรือความดีนั้นถูกขัง"
พระเจ้าพาราละแข่ง
วัดหัวเวียง

จากแม่ฮ่องสอน เดินทางต่อไปแม่สะเรียง และกลับมาที่เชียงใหม่  เส้นทางช่วงนี้ โหดกว่าช่วงที่มาจากเชียงใหม่ ผ่านปาย มาแม่ฮ่องสอนมากครับ แม้จะทานยาแก้เมารถไปแล้ว ก็อาจจะเอาไม่อยู่ครับ โค้งเยอะและต่อๆกัน เลยครับ  อ้อ มีจุดแวะคือถ้ำแก้วโกมลครับ  แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะเขาไม่ให้เอากล้องเข้าไป 
ผมไปถ้ำนี้มาครั้งนึงเมื่อห้าปีก่อนครับ ตอนนั้นไม่เหมือนตอนนี้ครับ ผมว่าถ้าปิดไม่ให้คนเข้าบ้าง มันก็อาจจะดี  แต่ถ้าปิดจริงชาวบ้านก็คงขาดรายได้จากการท่องเที่ยวอีก ก็เลยไม่รู้ว่าทำยังไงจะดีกันแน่ครับ 

สุดท้ายในชุดนี้ คืองาน Royal Flora Rajapruek 2011 ครับ งานนี้มีเลื่อนกำหนดเปิด ไปเป็นวันที่ 14 ธันวาคม จากเหตุน้ำท่วมในปีนี้ ทำให้เตรียมงานไม่เสร็จทัน  แต่ท่านที่มีบัตรอยู่ก่อน และอยากเข้าก่อน ก็เข้าได้ แต่ว่างานปิดเร็ว และไม่มี light up และงานยังไม่เสร็จหลายจุดครับ
Royal Flora Rajapruek

Royal Flora Rajapruek
Royal Flora Rajapruek หอคำหลวง
อันนี้ ของเล่นใหม่ครับ เพิ่งเปิดรอบแรกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ กระเช้าราชพฤกษ์ 120 บาทต่อคนครับ รอบนึงราว 6 นาที
กระเช้าราชพฤกษ์
จบแล้วครับ สำหรับ สรุปทริปครั้งนี้  ผมชอบการท่องเที่ยวในเส้นทางนี้ครับ แต่ผมมีความเห็นว่าขับรถไปเอง อาจจะดีกว่า จะได้มีเวลาในแต่ละจุดมากกว่านี้ ส่วนเวลาที่คิดว่า พอสมควรสำหรับการท่องเที่ยวใน เส้นทางนี้ ผมว่าควรจะไม่น้อยกว่า 4 วันครับ และหลีกเลี่ยงช่วงคนเยอะได้ก็ดีครับ
 เมืองไทยเราสวยน่าเที่ยวครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น