วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เกียวโต ใน ฤดูร้อน กับ Kyoto Okura hotel

Heian Shrine (Heian Jingu) Kyoto
จู่ๆ ก็มีเหตุที่จะต้องกลับไปเกียวโต เป็นการไปเพียงหนึ่งคืนที่เกียวโต และอีกสองคืนบนเครื่องบินครับ  เพื่อไปร่วมงานศพของอาจารย์ที่เคารพที่ญี่ปุ่น  คือพอผมทราบว่าท่านเสีย ก็ทราบต่อเลยว่า จะมีพิธีแค่สองวัน คือวันหนึ่งเป็นของครอบครัว กับอีกวันเป็นของญาติมิตร แล้วก็นำไปทำพิธีเลย  ทำให้ผมต้องจองตั๋วและเดินทางในกลางคืนของวันต่อมาจากที่ทราบข่าว

คือชีวิตคนเรานี่ เมื่อคิดถึงความตายแล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่สำคัญทั้งนั้นแหละครับในชีวิต  และผมก็พบว่า จริงๆ กิจกรรมประจำวันที่ทำอยู่ รวมทั้งนัดหมายต่างๆ ที่เราว่าสำคัญ เอาเข้าจริงมันก็ยกเลิกได้ทั้งนั้นครับ

Flight ที่ไปนี่เป็นเที่ยวบิน A380 ของเที่ยวกลางคืน จากกรุงเทพ ถึงโอซาก้า และไปถึงตอนหกโมงเช้า เวลาที่ประเทศญี่ปุ่นครับ

สถานีรถไฟ อยู่ติดกับสนามบินเลยครับ  จริงๆ แล้วเหมือนเคยเขียนไปแล้วรอบนึง ใน blog นี้ http://phongthon.blogspot.com/2012/11/2012-3-lets-go-kansai.html  แต่ตอนนั้น ผมนั่งรถไฟมาจากโตเกียว


Kansai Airport (KIX) 

Kansai Airport (KIX)
 หลายที่ในญี่ปุ่น เขียนภาษาอังกฤษกันแล้ว แต่ตรงนี้ ยัง ก็ให้มากดตู้ซื้อตั๋วได้เลย ครับ มันจะมีภาษาอังกฤษที่ตู้ ให้เลือก Haruka express มันจะเป็น รถด่วน ไปเกียวโต ราคา ประมาณ 3000 เยน ซึ่งราคานี้ ไม่เปลี่ยนเลย ตั้งแต่สมัยผมเรียนเมื่อสิบปีก่อน ก็ราคานี้


Kansai Airport (KIX)
 ตั๋วต้องมีสองใบ ใบหนึ่งเป็นตั๋วรถไฟ อีกใบ เป็นค่า รถด่วน  แต่ถ้าซื้อไม่ครบไม่เป็นไร พอขึ้นไปนั่งแล้ว จะมีพนักงานมาตรวจตั๋ว ถ้าเขาเห็นเรามีตั๋วไม่ครบ เขาจะให้เราจ่ายเอาตรงในรถได้เลยครับ ไม่ต้องเครียด ซื้อๆ แล้วก็ขึ้น Haruka ไปเตอะ


Haruka express
 รถจะมีสองแบบ คือแบบ รถตู้เขียว กับตู้ธรรมดา ตู้เขียวจะเป็นพวก ตู้ที่มีที่นั่ง fix ส่วนตู้ ธรรมดา ก็นั่งตรงไหนก็ได้ครับ ก็เลือก Jiyu Seki ไป  รถ Haruka มี ตารางเวลา ซึ่งรถที่นี่ออกตรงเวลามากๆ ครับ  แต่จำนวนก็มีบ่อยๆ อยู่ ดังนั้น พลาดไปก็ไม่ต้องเครียดเหมือนกัน

Haruka express
 นั่งรถไปสักชั่วโมงครึ่ง ก็จะถึง Kyoto Eki ( Kyoto Station )
Kyoto eki

กด foursquare มีคนแนะนำร้านราเมงใกล้ๆ สถานนี เลยเดินไปทาน แต่ปรากฎว่า มันก็งั้นๆ แหละครับ ไม่ต้องตามผมมาก็ได้ร้านนี้ ข้อดีของร้านนี้คือมีเมนู เป็นภาษาอังกฤษ ก็อาจเป็นสาเหตุให้มีคนแนะนำกันใน foursquare  แต่เดี๋ยวผมจะมีเรื่องเกี่ยวกับ foursquare ในการนี้มาเล่าต่อ  อ่านต่อๆไปครับ

ราเมง ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต

ราเมง ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต

ราเมง ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต

ราเมง ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต

เนื่องจากไปถึงตอนเช้า และพิธีศพอยู่ตอนบ่ายโมง ทำให้มีเวลา เหลืออยู่บ้างจึง เดินทางไปที่  Shimogama Jinja ซึ่งเป็นหนึงในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และหนึ่งใน 17 มรดกโลกทางประวัติศาสตร์ ที่องค์การยูเนสโกมอบให้ประเทศญี่ปุ่นครับ  ประวัติวัดนี้ย้อนไปกว่า พันปี

ทางเดินที่ผ่านเข้าวัด เรียกว่า  Tadasu no mori  (Mori นั้นคือป่า)  ป่าทางเดินแห่งความจริง ความถูกต้อง สมัยก่อนซามูไร และจักรพรรดิ ก็เดินผ่านทางนี้ เพื่อเข้าไปที่วัด  ว่ากันว่าทางนี้ถ้าคนไม่ดี พูดไม่จริง ก็จะเดินผ่านแล้วโดนเปิดโปง

Shimogamo Shrine Kyoto

Shimogamo Shrine Kyoto

Shimogamo Shrine Kyoto
 เดินไปไกลพอควร ถึงเข้าวัดได้
Shimogamo Shrine Kyoto
 เขาเอาหินมากองไว้หน้าวัด เพื่อมาบริจาค นำไปบรูณะวัด  คล้ายๆที่ไทย มีประเพณีขนทรายเข้าวัด
Shimogamo Shrine Kyoto

Shimogamo Shrine Kyoto
ดูจากแผนที่จะเห็นว่าส่วนหนึ่งของแม่น้ำ Kamo นี่เข้ามาในวัด ซึ่งตรงนี้ในฤดูร้อน จะมีพิธีเดินผ่านน้ำศักดิ์สิทธินี้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
Shimogamo Shrine Kyoto

 แต่ตอนที่ผมไปนี่พิธีผ่านไปแล้ว และน้ำก็แห้งอยู่
Shimogamo Shrine Kyoto
Kawai Jinja  วัดแห่งความสวยงาม ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของ Shimogamo Jinja นี่เอง ผมอยู่เกียวโตมาหลายปี ก็เพิ่งจะเคยมา และเพิ่งจะทราบว่ามีวัดชื่อแบบนี้ด้วย  "วัดคนน่ารัก"

ไม่ใช่ Kawaii นะครับ Kawai  แต่เสียงพ้องกันมาก ป้ายหน้าวัดบอกว่าเป็นวัดที่มีเทพพระเจ้าแห่งความงามเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น

Kawai Jinja Kyoto
 กระจก
Kawai Jinja Kyoto
 ป้ายขอพร จะเป็นทรงกระจกส่องหน้าแบบนี้  เรียกว่า Kagami ema
Kawai Jinja Kyoto
 ของที่ระลึกในวัด Kawai
Kawai Jinja Kyoto
 และก็มีน้ำดื่ม ที่ดื่มแล้วสวย ด้วยครับ
Kawai Jinja Kyoto
บริเวณวัด มีบ้านของ Kamo no Chomei ที่สร้างขึ้นมาใหม่  เขาเป็นศิลปิน ผู้แต่งโคลง Hojoki สมัยคามาคูระ หรือเมื่อเกือบพันปีก่อน (อีกแล้ว) ประเทศญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมที่ย้อนไปได้ไกลมาก และบันทึกไว้อย่างดี 

วรรคแรก Hojoki คงประมาณนี้นะครับ 

"ถึงแม้แม่น้ำจะเป็นแม่น้ำสายเดิม แต่น้ำที่ไหลผ่านไป เป็นน้ำที่ไม่ใช่น้ำเดิม ที่บ่อน้ำ ฟองน้ำที่ผิวน้ำผุดขึ้นมาแล้วก็แตกไป แล้วก็มี ฟองน้ำใหม่ มาแทนที่ผ่าน ไม่มีฟองน้ำฟองไหนที่คงทนถาวร เหมือนกับผู้คนในโลกนี้ และที่อยู่อาศัยของพวกเขา มันเปลี่ยนแปลงไปเสมอ....."

อันนี้อย่าเชื่อถือมันมาก เพราะผมแปลมั่วๆ เอาเองนะครับ 

บ้านของ Kamo no Chomei
จากนั้นก็เข้า check in ที่โรงแรม Hotel Okura Kyoto ครับ  แต่ก่อนโรงแรมนี้ชื่อว่า Kyoto Hotel แต่ตอนนี้ เป็น Chain ของ Okura ไปแล้ว  และก็บริการดีมากๆครับ

Web site ของโรงแรมครับ http://okura.kyotohotel.co.jp/

ผมอยากพักที่นี่มานานแล้ว  มันตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก คือ Shijo Kawaramaji สามารถไป Shopping หรือไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้โดยแค่เดินไป  และอยู่ริมแม่น้ำ สามารถตื่นมาวิ่งที่ริมแม่น้ำ Kamo ก็ได้ด้วยครับ 

คือถ้ามีงบพอ เลือกโรงแรมนี่ได้เลยครับ ถ้ามาเกียวโต  คู่เทียบของที่นี่อาจจะเป็น Hyatt Regency Kyoto แต่ทำเลก็ไม่ดีขนาดนี้นะครับ

Kyoto Okura Hotel
Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel
ถ้าไปเกียวโตในช่วงเทศกาล เช่นช่วงกลางเดือนสิงหาคม ในเทศกาล Obon หรือไปช่วง Gion สองช่วงนี้จะคนเยอะมาก เพราะแค่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่มาเกียวโตก็เยอะแล้วครับ  และราคาห้องจะแพงมากๆ  ตอนที่ผมมานิ เป็นช่วงก่อน Obon แป๊ปนึง นับเป็นเวลามาเกียวโต อย่างเหมาะเหม็ง เพราะคนญี่ปุ่นก็รอ Obon ทำให้ไม่ค่อยมีคนเที่ยว ราคาก็เลยไม่แพงมาก  ผมเลยเดาเอาเองว่า วันหลังถ้ามาเกียวโต ผมจะหาช่องจังหวะมาก่อนหรือ หลัง Obon นี่แหละครับ  แม้ว่า จะร้อนไปก็ตามเพราะช่วงดังกล่าวเป็นฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น และเกียวโต

Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel
 ห้องอาหารอยู่ชั้น 17 ครับ ได้ชมวิว เมืองเกียวโตด้วย
Kyoto Okura Hotel

Kyoto Okura Hotel
คืนวันนั้นผมทานอาหารกับเพื่อนๆ และอาจารย์ที่ร้าน ยากินิคุ ฮิโร ครับ  แนะนำมากๆเลยครับ ร้านนี้ เป็นร้านที่ทำกิจการมาหลายสิบปี (เผลอๆ เป็นร้อย) เป็นกิจการร้านขายเนื้อ แล้วภายหลังก็มาทำเป็นยากินิคุของตัวเอง  มีหลายร้านในชื่อเดียวกัน( คาดว่า 4-5 ร้านครับ )  มีทั้งที่ร้านสวยๆริมน้ำ Kamo และร้านแบบ classic

Trip advisor ให้เป็นร้านอาหารแนะนำอันดับสองในเกียวโต เลยนะเออ http://www.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g298564-d3635404-Reviews-Kyo_no_Yakiniku_Hiro_Sembon_Sanjo_Honten-Kyoto_Kyoto_Prefecture_Kinki.html

ร้านอยู่ Sanjo Shijo ก็มีครับ ใกล้ๆ โรงแรม Kyoto Okura นั่นแหละครับ เดินไปได้

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro
เนื้อมีใบ certificate ว่ามาจากแหล่งผลิตไหน และได้รับรางวัลอะไรด้วยนะครับ
Kyo no Yakiniku Hiro

Kyo no Yakiniku Hiro
อีกวันหนึ่งตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็วิ่งรอบเมืองเกียวโตครับ  ที่เกียวโตมีแม่น้ำ Kamo (Kamokawa แม่น้ำเป็ด) เป็นแม่น้ำสายหลัก และมีภูเขาที่มีสัญลักษณ์อยู่บนเขา อยู่ 5 ลูกรอบเมือง เป็นเมืองที่น่าอยู่มากๆ เมืองหนึ่งในโลกนี้

แล้วผมก็นั่งๆนอนๆอยู่ในโรงแรมจนถึงเที่ยงแล้ว check out 

Kamo Kawa
 บอกตามตรงว่า อากาศในเมืองเกียวโต ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ร้อนสุดๆไปเลยครับ  ที่เห็นฟ้าใสๆ น่ะ ร้อนมาก

ว่าแล้วออกเดินตามหา ร้าน Michelin star ( แต่ไม่เจอหรอก)

 
Michelin
เกนจิโมโนกาตาริ
 เกนจิโมโนกาตาริ

และก็มาพบกับป้ายเกียวโตมาราธอน รับสมัครอยู่ งานนี้เริ่มวิ่ง เก้าโมงเช้า  เพราะเวลาแข่งเป็นเดือนกุมภาพันธ์ เดือนที่เกียวโตหนาว มากๆๆๆ

เกียวโตมาราธอน
 เดินตามหาร้านอาหาร เลยไปแวะถ่ายภาพที่ Heian Jingu  ที่นี่ใครมาเกียวโตคงต้องได้มา พอๆกับอีกที่คือวัดน้ำใส คิโยมิซึ 
Heian Jingu

Heian Jingu
 ป้ายขอพร ปกติจะเป็นแบบนี้
Heian Jingu

Heian Jingu

Heian Jingu
 เดินทางมาใกล้ๆ Heian Jingu เพื่อตามหาร้าน Ranmaru แต่ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะร้านเปิดเฉพาะตอนเย็น  แป่ววว  อด

Ranmaru

Ranmaru
 ว่าแล้ว ก็เดินไปสู่ร้านราเมงเจ้าประจำของผม ที่ผมชอบมากๆๆๆ ราเมง chain ร้านนี้ Tenkaippin แต่ปรากฎว่า ไม่ได้กินอีก  เพราะว่า ร้านปิดวันอังคาร  โอววว  (เทนกะอิปปิง มีหลายสาขา เป็นร้านที่แพร่หลายทั่วไป มีทั้งในคันโต และคันไซครับ ที่ชิบูย่าก็มีร้านนี้ )
Tenka ippin
 ผมก็เลยไปกินร้านราเมงข้างๆร้านนี้  ชื่อร้าน Shina Soba  สาขาโยชิดะ เพราะว่าร้านนี้อยู่หน้ามหาวิทยาลัยเกียวโตครับ  และร้านราเมงร้านบนก็คือร้านโปรดของผมสมัยเรียนมหาลัยเกียวโต นั่นเอง

เขาบอกว่า ชิน่าโซบะ (Chinese Soba ) มันก็คือ แม่ของชิโอ ราเมง ในปัจจุบันนี้ 

Shina Soba
 จากการทดลอง สรุปได้ว่า ร้านนี้ก็อร่อยเหมือนกันครับ  ดีกว่าร้านข้างสถานีรถไฟเกียวโต เยอะครับ
Shina Soba

 
เสร็จแล้วผมก็เดินทางออกตามหา ออนเซน ของเกียวโต ซึ่งจริงๆในตัวเมืองเกียวโตไม่น่าจะมีออนเซน เพราะก็ไม่ใช่เมืองภูเขาไฟอะไร  และอีกอย่าง หน้าร้อนใครเขาจะมาอาบออนเซน ให้ร้อนกันไปใหญ่  สรุปว่าผมบ้ามาก แต่ก็ได้ความรู้ครับ  เดินทางตามหาร้านอาบน้ำร้านนี้ ซึ่งเป็นร้านอาบน้ำเก่าแก่มากๆของเกียวโต  ( คงเปิดมาเป็นร้อยปี อีกตามเคย )

เดินไปเดินมา เจอ Takeisao Shrine ( Kenkun Shrine) วัดที่มีหลุมศพของ Oda Nobunaga อยู่ 
Takaisao Shrine

 นี่ครับ Funaoka onsen ค่าอาบน้ำ 400 เยน เท่านั้น และมี Rotempuro ด้วย คือที่อาบน้ำแบบ เปิดหลังคา  สถานที่สองแห่งนี้ เหมาะสำหรับ ท่านที่เคยมาเกียวโตจนบ่อยแล้ว และอยากหาที่ที่ไม่เคยไปบ้าง ไปสัมผัสชีวิตผู้คน ถึงได้มาสองที่นี่ครับ  เพราะสองที่นี้ ไม่มีนักท่องเที่ยวเขามากันหรอก  มีแต่ผมที่บ้าไปอยู่
 
Funaoka onsen
หลังจากนั้นผมก็เดินทางไปสถานีรถไฟเกียวโต เพื่อทานข้าวเย็น ก่อนขึ้นเครื่องเที่ยวกลางคืน อีกเช่นเคย

ที่สถานีเกียวโต มีห้าง โยโดยาบาชิ เป็นห้างที่มีของเกือบทุกอย่าง สำหรับการ shopping ครับ  มาตรงนี้เลย ไม่ต้องไป Shop ที่อื่น ไป Yodoyabashi นะครับ

ขึ้นไปชมดาดฟ้าของเกียวโตเอกิ ครับ

Kyoto eki

Kyoto eki
ที่ชั้นบนๆ ของ Kyoto eki มี food paradise อยู่ครับ  มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน และเป็นร้านที่ ok ทีเดียว เหมาะกับท่านที่ไม่มีเวลาเดินหา มาหาทานเอาที่สถานีรถไฟเลยก็ได้

ร้านทงคัตซึ ร้านดังแห่งเกียวโต คัสซึคุระ มีสาขาที่สถานีรถไฟด้วย
Kataukura Kyoto eki
Satuki อุด้ง โซบะ เทมปูระ
Kyoto eki
ร้านนี้ warai เป็นร้าน โอโคโนมิยากิ
Warai Kyoto eki
ร้านแกงกระหรี่

สุดท้ายมาลงเอย ร้านอาหาร "อาหารเกียวโต อีจูอัน" Eijuan

Eijuan Kyoto
ร้านนี้เป็นร้านอาหาร set ที่ราคาสูงนิดหน่อย ถ้าเทียบกับร้านข้างๆ มัน  ร้านนี้ serve อาหารเกียวโต 

อาหารเกียวโตมีลักษณะพิเศษ และแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆนะครับ  ที่เกียวโตนี่ อาหารย้อนไปก่อนสมัย เอโดะ อีก


ผม สั่ง set อาหารของฤดูกาลนี้ คือชุด ปลาฮาโมะ ครับ (คล้ายๆปลาไหล)
Eijuan Kyoto
ทุกอย่างใน set เป็นปลา ฮาโมะ หมด
Eijuan Kyoto

Eijuan Kyoto


Eijuan Kyoto

Eijuan Kyoto
ปลาฮาโมะ แบบต่างๆ

Eijuan Kyoto
สาเก ค่อนข้างแพง แต่ก็เป็นสาเก ที่ทำในเกียวโต และผลิตสำหรับฤดูร้อนนี้ ซึ่งมันก็รสชาติ ดีมากๆครับ จริงๆ ผมว่า ราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในไทย ก็แพงมากครับ พอๆ กับญี่ปุ่นแล้ว เดี๋ยวนี้

Eijuan Kyoto

Eijuan Kyoto
จบด้วยข้าว  ข้าวมาใส่น้ำซุบ กลายเป็นคล้ายๆข้าวต้ม
Eijuan Kyoto
และของหวาน
Eijuan Kyoto
และผมก็จบการเดินทางสั้นๆ แบบวันเดียวเที่ยวเกียวโต แต่เพียงเท่านี้

สิ่งดีๆ ความสวยงามที่เราพบเห็นทุกวัน จนเราคิดว่ามันเป็น "ความธรรมดา"  เรามองผ่านมัน เราไม่ให้ความสำคัญกับมัน  เราอาจฝันถึงวันข้างหน้าอื่นๆ ที่ "ดีกว่า" แต่ในความเป็นจริงนั้น เราอาจกำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของเรา และได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมกับคนที่ ดีที่สุดในชีวิตของเราอยู่แล้ว ก็เป็นได้ครับ

พบกันใหม่ อีกครั้งที่ เกียวโต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น