Ichiro's Blog: รีวิวร้านอาหาร ซูชิ อิจิ Sushi Ichi ซูชิจากกินซ่า แต่กินที่ไทยได้ในราคาเท่ากินที่ญี่ปุ่น

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รีวิวร้านอาหาร ซูชิ อิจิ Sushi Ichi ซูชิจากกินซ่า แต่กินที่ไทยได้ในราคาเท่ากินที่ญี่ปุ่น

Sushi Ichi

รีวิวร้านอาหาร อีกร้านหนึ่งครับ คือร้าน ซูชิ อิจิ ที่อยู่ที่ เอราวัณพลาซ่า แยกราชประสงค์ ข้างๆโรงแรมเอราวัณ ร้านอยู่ชั้นใต้ดินชั้นหนึ่ง ถ้าออกจากที่จอดรถใต้ดินมาจะอยู่ทางซ้ายครับ ร้านนี้เพิ่งเปิดไปเมื่อ วันที่ 22 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันก็มีคนรีวิวไปแล้วมากพอสมควร

ร้านนี้เป็นร้านจากกินซ่า ประเทศญี่ปุ่น โดยร้านเปิดโดยความร่วมมือระหว่าง หุ้นส่วนญี่ปุ่น และหุ้นส่วนไทย โดยก่อนที่จะมาเปิดที่เมืองไทยนั้น ร้านได้ไปเปิดสาขาที่สิงคโปร์ มาเลเซียมาแล้ว สำหรับร้านแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น เคยได้ Michelin Star มาแล้วครับ สำหรับหุ้นส่วนชาวไทยของร้านนี้ เป็นคนดังอยู่หลายท่าน แต่ท่านว่าท่านไม่ต้องการออกสื่อแต่ประการใด เนื่องจากมีหุ้นส่วนชาวญี่ปุ่นอยู่ด้วย

อันนี้ เป็น website ของร้านที่ญี่ปุ่นครับ http://sushichi.com/
Facebook ครับ https://www.facebook.com/GinzaSushiIchi

ร้านนี้เป็นร้านที่เอาปลา ส่งมาจากตลาดปลา Tsugiji ที่ญี่ปุ่นทุกวันตอนเช้าครับ และวัสดุจานชามที่ใช้ รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ล้วนมาจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น ดังนั้นวันจันทร์จึงเป็นวันหยุด เพราะตลาดปลาที่ญี่ปุ่นหยุด และอย่างสัปดาห์หน้า ที่เป็นเทศกาล Obon ของญี่ปุ่น (คล้ายๆเชงเม้ง ก็เป็นวันหยุดยาวครับ) ตลาดปลาปิด ไม่รู้ร้านจะปิดด้วยหรือเปล่า เพราะใช้ปลาสดใหม่ทุกวัน

Sushi Ichi Bangkok

ร้านเป็นร้านเล็กๆ มีห้องหลัก สองห้องมั้งครับ จุคนได้สองห้องรวมราวยี่สิบคน คือถ้าจะไปทานควรจะจองไปก่อนอย่างยิ่งเพราะว่าเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่งครับ แล้วก็จะเป็นโต๊ะที่หันหน้าหา Chef ทั้งหมด คือทานไปชมการทำอาหารของ Chef ไปด้วยครับ

อันนี้เป็นวีดีโอที่รีวิวร้านนี้ครับ ของ Ichiro's Blog

ร้านมีอาหารเป็น set ครับ ถ้าเป็นมื้อกลางวัน ราคาอยู่ที่ 1300 บาท -4000 บาท ส่วนถ้าเป็นตอนเย็น ก็ 4000 ถึง 10000 บาทครับ อาหารจะเป็น Chef 's menu ( Omakase) คือ ทาง Chef จะเป็นคนเลือกให้เราเองว่าจะทานอะไร ตามวัตถุดิบที่มีในวันนั้นๆ ส่วนถ้าจะทานพวกอาหารพิเศษเช่นปูขน ก็ต้องสั่งต่างหาก

สำหรับเรื่องราคาผมว่าโอเคมาก เพราะว่าร้านนี้มีราคาเดียวกับราคาที่ร้านที่ประเทศญี่ปุ่น กล่าวคือ เราสามารถทานอาหารรสชาติเดียวกับที่ญี่ปุ่นมากที่สุด ในราคาที่เท่าๆกันได้ ทั้งๆที่ต้นทุนของร้านนี้สูงกว่าร้านที่ญี่ปุ่น เพราะว่า ร้านที่เมืองไทยต้นทุนสูงกว่าในแง่วัตถุดิบต้องส่งขึ้นเครื่องบินมาทุกวัน