|
Fushimi Inari |
ตั้งใจว่าจะเขียนตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของ Trip นี้แล้วครับ และดูเหมือนว่าตอนที่สามจะเป็นตอนที่ยาวที่สุดก็เป็นได้ เพราะเหลือเรื่องราวให้เขียนมากเหลือเกิน อาจเป็นเพราะว่าผมเรียนที่แถบคันไซ นี้ก็เป็นได้นะครับเลยมีอะไรอยากเขียน
ย้อนความหลัง กับทริปญี่ปุ่น 2012
ตอนที่ 1 และ
ตอนที่ 2 ครับ
ความเดิมตอนที่แล้วเราอยู่ที่ชิบูย่า กับคุณท่านน้องหมา ฮาชิโกะ ซึ่งตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเขามีอนุสาวรีย์ เจ้าของของ ฮาชิโกะด้วยนะครับ จากสถานีชิบูย่า เรามาขึ้นรถไฟ JR ที่สถานีโตเกียว ที่สถานีโตเกียวมีขนมที่คนนิยมซื้อฝากกันมาก คือโตเกียวบานาน่า ซึ่งผมว่ามันก็นานแล้วและใครๆ ก็ซื้อ แถมจริงๆ ที่สนามบินทั้งนาริตะ ฮาเนดะ และสนมบินคันไซ ก็สามารถซื้อโตเกียวบานาน่าได้ครับ เพราะมันฮิตมาก แต่ผมว่าที่สถานีโตเกียวมีขนมอื่นๆให้ทดลองเยอะเหมือนกันนะครับ และก็อร่อยด้วย
ถ้าจะไปเกียวโต โอซาก้า ก็จะไปขึ้นที่ชานชลาดังรูปครับ เราจะไปสายโตไกโด ส่วนบัตรชินคันเซน มาซื้อได้ที่ตู้ โปรดดูว่ารถไฟที่ขึ้นเป็นแบบเร็ว หรือแบบช้า รถไฟมีหลายแบบ คือแบบช้ามันจอดทุกสถานี จะราคาถูกสุด แต่มันก็เป็นชินคันเซนเหมือนกัน รถไฟที่เร็วที่สุดตอนนี้ของสายโตไกโด คือแบบโนโซมิ (แปลว่า ความหวัง) มันจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆครับ วิ่งจากโตเกียวไปโอซาก้า ที่ระยะทาง 515 กิโลเมตร ใช้เวลาราว สองชั่วโมงครึ่ง
|
สถานีโตเกียว |
|
รถโนโซมิ |
เลือกรถได้แล้ว ว่าจะไปโนโซมิ ก็มาเลือกต่อว่าจะเอาแบบ fix ที่นั่งหรือแบบ ไม่ fix ที่นั่ง จะเอาตู้ธรรมดา หรือตู้ Green Car ( Business class) ถ้าไปทัวร์ ร้อยทั้งร้อยจะให้นั่งแบบตู้ธรรมดา และไม่ fix ที่นั่ง ก็คือถูกสุด ครับ หากเลือก แบบ Green Car ราคาจะแพงกว่าแบบตู้ธรรมดาราว 1 เท่าตัว
|
ภายใน Green Car ของ Nozomi |
ที่นั่งของ Green Car จะฟังเพลงได้ กับเก้าอี้ใหญ่กว่า จริงๆถ้าไปเที่ยว เอาแบบตู้ธรรมดาก็พอแล้วผมว่า
|
ภายใน Green Car ของ Nozomi |
ระหว่างนั่งรถไฟก็ขอแนะนำ Tokyo Banana Raisin ญาติกับโตเกียวบานาน่า แต่เก็บได้นานกว่า
|
Tokyo Banana Raisin |
ถึงสถานีเกียวโตแล้วสถานีใหญ่โตอลังการ นับเป็นสถานีใหญ่แห่งหนึ่ง ที่จริงมีโรงแรมอยู่ในนี้ด้วย แต่ว่ามันแพงเกินสำหรับผม
|
สถานีรถไฟเกียวโต |
เลยมานอนโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามสถานีเกียวโต ซึ่งจริงๆก็คงจะเป็นของการรถไฟแถบคันไซนี่แหละ เดาจากชื่อมันซึ่งก็คือ Hotel Hankyu Kyoto ครับ ที่เห็นด้านหลังคือหอเกียวโต
|
Hotel Hankyu Kyoto |
|
Hotel Hankyu Kyoto |
ช่วงนี้เป็นช่วงใบไม้แดง มีผักตามฤดูกาลให้เป็นอาหารเช้า
|
Kyou no O bansai |
การกินอาหารเป็นถาดหลุมแบบนี้ สามารถกินผสมผสานกันได้หลายๆแบบ
|
อาหารเช้า |
ข้าวกับหน่อไม้ และเห็ด แบบญี่ปุ่น
|
ข้าวกับหน่อไม้ |
สำหรับมื้อเย็น ได้ไปทานที่ร้านที่อยู่ในเกียวโตเอกิ เป็นร้านสุกี้ และชาบู ชื่อว่า โมริย่า อยู่ชั้น บนๆ ของเกียวโตเอกิ ที่เป็นชั้นร้านอาหารครับ มีดีๆ หลายร้าน
|
เกียวโตเอกิ |
|
โมริย่า |
|
โมริย่า |
|
Matsusaka Gyou
|
ที่เกียวโตมีวัดหลายที่เลย สมัยที่ผมเรียนอยู่ผมเคยไปถ่ายรูปวัดต่างๆแล้วขึ้น web ไปเยอะเลยครับ แต่ตอนนี้ web นั้นหายไปแล้ว รอบนี้นำเสนอได้แค่ส่วนหนึ่งของที่ผมคิดว่าน่าสนใจควรไป
ที่แรกคือ Kiyomitzu Tera และ Hei -an Jingu เป็นที่ที่ทัวร์จะพาไปลงเป็นประจำครับ ทั้งสองแห่งน่าสนใจทั้งคู่ เหมือนมากรุงเทพ ต้องไปวัดพระแก้ว วัดโพธิ์อย่างไรอย่างนั้น Hei - an Jingu เป็นศาลเจ้าที่มี โทริ อันใหญ่มากๆ ตั้งอยู่กลางถนน ถ้าจะได้แบบนั้น คงต้องไปอยู่กลางถนน ที่ตำแหน่งไกลๆ จากศาลเจ้ามากพอควร
|
Hei-an Jingu |
วิวนี้ มุมประจำของ คิโยมิซึ เทระ เป็นวิวของอาคารหลักของที่วัด ซึ่งสมัยก่อนนั้นมีเรื่องเล่าว่าจอมโจรโกเอมอน ก็เคยมาที่นี่ มีคำเปรียบเปรยการกระทำอะไรที่เสี่ยงและยากลำบากว่าเหมือนเป็นการ "กระโดดจาก ระเบียงวัดแห่งนี้ " มีความเชื่อว่าถ้าโดดแล้วรอด การกระทำอะไรก็จะสำเร็จ และจากข้อมูลในเนต บอกว่ามีคนมาโดดจริงๆ และรอดถึง 84% อันนี้ ก็ต้องลองไปโดดดู แต่ผมว่า น่าจะรอดยากเหมือนครับ
|
Kiyomitzu Tera |
ที่วัดนี้มีปลูกต้นซากูระไว้เต็มเลย ตอนที่ไป ต้นซากูระใบร่วงหมดแล้ว เพราะตอนนี้เป็นช่วงของการดูใบไม้แดง หรือโคโย ซึ่งที่วัดนี้ก็เป็นที่หนึ่งในเกียวโต ที่มีโคโย ที่สวยงามมากครับ ส่วนหน้าซากูระ ก็มีซากูระ มากมายสวยงามเช่นกัน เรียกว่ามาได้ทั้งปี
|
Kiyomitzu Tera |
น้ำศักดิ์สิทธิ์สามสาย สายน้ำแห่ง ความร่ำรวย สุขภาพ และสติปัญญา เห็นทางวัดจัดขวดไว้ให้บรรจุเอากลับบ้านได้ด้วยครับ แต่คิวยาวจัง ผมว่าสิ่งที่คนเรากลัวมากๆ สามอย่างคือสิ่งเหล่านี้แหละ คือไม่อยากจน ไม่อยากเจ็บป่วย (รวมไม่อยากแก่) และไม่อยากโง่ครับ
|
Kiyomitzu Tera |
คนจำนวนมากไปวัดนี้โดยข้าม จิชูจินจาไป จิชูจินจา อยู่ภายในพื้นที่ของวัดคิโยมิซึ นี้ โดยเมื่อเดินผ่านระเบียงใหญ่ไปก็จะถึงเลย อยู่ทางซ้าย
ที่นี่เป็นศาลเจ้าแห่งความรัก ภายในศาลเจ้ามีหินสองก้อน เชื่อกันว่า หากเดินหลับตาจากหินก้อนหนึ่งไปอีกก้อนหนึ่งได้ โดยไม่ออกนอกทาง จะสมหวังในความรักครับ
|
Jishu jinja |
ต่อไปเป็นที่ที่ ทัวร์ไม่ค่อยไปละครับ ที่แรก Kitano Tenmanku ที่นี้สมัยเรียนผมไปบ่อยๆ เพราะเป็นวัดไว้ขอพรด้านการศึกษาครับ วัดนี้ไปช่วงต้นๆปี ไปดูดอกบ๊วยก็สวยมากนะครับ แล้วก็อย่าลืมซื้อธนูมาด้วย แต่ละปีจะมีรูปนักษัตร ต่างๆกันไป
|
Kitano Tenmanku |
ธนู เพื่อความหลักแหลม
|
Kitano Tenmanku |
วัวโดนลูบหัวจนหัวมันไปหมด ลูบหัววัวแล้วก็มาลูบหัวตัวเองครับ วัวแห่งความฉลาด
|
วัว ที่ Kitano Tenmanku |
ไปเกียวโตช่วง โคโย หรือดูใบไม้แดงนี่ที่หนึ่งที่เขามักจะไปคือ Arashiyama
หนึ่งในวัดดังที่นี่คือ Tenryuji ครับ เป็นวัดที่มีศาลาที่มีรูปวาดมังกรสลักบนหลังคา พอดีเขาไม่ให้ถ่ายรูป มังกรนี้ไม่ว่ามองจากตรงไหนของศาลา ตาของมังกรจะมองมาที่เราตลอด
|
Tenryuji |
โมมิจิ หรือใบไม้แดง เพิ่งเริ่มมาแค่นี้เอง ถ้ามาเยอะๆ จะสวยมาก
|
Momiji |
อาราชิยาม่า เป็นที่อนุรักษ์ ผู้คนที่มาที่นี่ มักพักผ่อนด้วยการเดินชมธรรมชาติครับ เท่านั้นจริงๆ
ที่นิยมอีกอย่างคือการนั่งรถไฟ Torokko บนรางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ชมใบไม้แดงที่อาราชิยาม่านี่ หรือจะล่องเรือก็ได้ครับ
|
Arashiyama |
ตรงนี้่มี unseen japan คือป่าไผ่ ระยะทางยาวพอควรเลยครับ
|
ป่าไผ่ |
แวะไปเยี่ยมโรงเรียน ตรงนี้คือ โตเกได แห่ง เกียวได
|
Kyoto Diakaku |
ที่นี้ก็ชอบมาก Gekkeikan Okura Sake Museum ครับ พิพิธภัณฑ์ สาเก เกกเกคัง เป็นสาเกที่ผมชอบมากที่สุดในบรรดาสาเกทั้งหมดครับ
|
Gekkeikan Sake Museum |
|
Gekkeikan Sake Museum |
เห็นถังๆ แบบนี้ เป็นถังสาเกที่เขาเอาไปบริจาคที่ศาลเจ้า แล้วเวลามีงานฉลองก็จะทุบเปิดครับ เหมือนเปิด Champagne เวลามีงานในวังเขาใช้สาเกจากที่นี่เท่านั้นครับ (เขาว่า)
|
Gekkeikan Sake Museum |
ค่าเข้า 300 เยน ได้ชิมสาเก และก็ได้สาเกกระป๋อง แบบนี้ติดมือกลับบ้าน ผมว่าโอเคนะครับที่นี่ และก็ได้ซื้อสาเกกลับมาบ้านด้วย
|
Gekkeikan Sake Museum |
ใกล้ๆ กับ Sake Museum อย่าพลาดศาลเจ้า Fushimi Inari ศาลที่สำคัญแห่งหนึ่งในการบูชาเทพ อินาริ เทพแห่งข้าว ซึ่งท่านอินาริ มีผู้ส่งศาลเป็นหมาจิ้งจอกครับ
มีที่เสกรถด้วย
|
ที่เสกรถ |
|
Fushimi Inari |
ที่โด่งดังจริงๆของที่นี่คือ Tori zenbon ครับ ที่สร้างจากเงินบริจาคให้กับศาลเจ้าแห่งนี้
|
Fushimi Inari |
|
Fushimi Inari |
ได้โทริ อันเล็กหรือใหญ่ ขึ้นกับความศรัทธา คือจำนวนเงินด้วยครับ หากจะเดินผ่านโทริพวกนี้ทั้งหมด ต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงทีเดียวนะ
|
Fushimi Inari |
|
Fushimi Inari |
แวะไปกินร้าน St. Marc ระลึกความหลัง สมัยเรียนถ้าได้กินร้านนี้ ถือว่าดีมากๆ แล้ว ที่ไปกินเพราะอาหารไม่แพงมาก และได้กินขนมปังอร่อยๆ ไม่อั้น ด้วยครับ เรียกว่าไม่ค่อยมีงบแต่อยากกินหรู ก็ไปร้านนี้ได้
|
สถานีเกียวโต |
ออกเดินทางต่อมาโอซาก้า มานอนโรงแรมที่ City walk หน้า Universal studio Japan และพบว่าโรงแรมคนเยอะ และก็ห้องไม่ค่อยงามมาก เลยไม่มีรมณ์จะถ่ายรูปเอามาลงนะครับ ผมว่าโรงแรมตรงนี้ เหมาะกับคนที่เที่ยว Universal รอบกลางคืนครับ เสร็จแล้วก็มานอนเลย แต่ ร้านใน City walk เอง ก็น่าสนใจอยู่ครับ
|
City walk |
Universal Studio Japan ไม่เหมือน Disney land ตรงที่ Fast pass หรือที่เขาเรียกว่า Express booklet นั้น ต้องใช้ซื้อเอา ไม่ใช่ไปต่อคิวเอาเหมือนใน Disney
|
Express Booklet |
|
City walk |
ผมไปที่นี่ครั้งสุดท้ายเมื่อตอนมันเปิดใหม่ๆ เผลอแป๊ปเดียว ตอนนี้เปิดมา 11 ปีแล้วครับ มีเครื่องเล่น Amazing Spiderman สนุกดีครับ
|
Spider man |
ผมว่า Universal ที่นี่สนุกกว่าที่ Singapore เยอะครับ
|
Universal Studio Japan |
ไปคันไซอย่าลืมทานโอโคโนมิยากิ นะครับ ของแท้ต้องคันไซ ร้านที่ทานครั้งนี้คือ
ร้าน Fugetsu ครับ
|
Fugetsu |
|
Okyonomi yaki |
รูปที่เหลือ ดูได้
ที่นี่ครับ Link ขอจบเรื่องราวการไปญี่ปุ่นรอบนี้ไว้เท่านี้ละครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น