วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รีวิว Bankara Ramen @ Sukumvit 39 (บังคาร่า ราเมง)

เก็บไว้หลายวันไม่ได้นำมาเขียน เพราะเคยเขียนรีวิวร้านแห่งนี้ไปแล้ว ครั้งหนึ่งเมื่อสองปีก่อน และเชื่อไหมครับ สองปีหลังจากวันนั้น จนถึงวันนี้ ผมยังไม่เจอร้านราเมงร้านไหนในเมืองไทยที่ผมคิดว่า อร่อยและเป็นราเมง แบบที่มันควรจะเป็นจริงๆ เท่าร้านบังคาร่า ราเมงแห่งนี้เลย อย่าไปยึดติดกับคำว่า Tv champion มากครับ ร้านมากมายที่ได้ TV Champion แล้วมันไม่อร่อย ไม่เชื่อลองไปทานเอง จิ  :P

ในที่สุด เราก็ "หากันจนเจอ" คือคำอุทานที่ผมใช้ในการเขียน รีวิวเกี่ยวกับร้านนี้ในครั้งก่อนนั้น และครั้งนี้ คงต้องใช้คำว่า " ฉันจะไม่เปลี่ยนใจจากเธอ"  ให้กับร้านบังคาร่าราเมงครับ  ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิทย์ 39 หากเข้ามาจากด้านเพชรบุรี ก็ไปตามทาง พอถึงไฟแดงตรงร้าน โลเปร่า ก็ตรงไปอีก ร้านจะอยู่ทางซ้าย ตรงเวิ้ง The Manor ครับ  เมื่อครั้งที่ผมไปครั้งก่อนเคยมีร้านอาหารไทยอยู่ที่เวิ้งนี้ด้วย แต่ตอนนี้ ร้านอาหารไทยร้านนั้น ไปซะแล้ว ในขณะที่ บังคาร่า ราเมงยังอยู่ และก็คนเยอะด้วย

ร้านราเมงอีกร้านที่ผมคิดว่าอร่อยคือร้าน ยามาโกย่า ราเมงครับ  เวลาทานราเมง ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ราเมงไม่ใช่ก๋วยเตี่ยว ราเมงเป็นอาหารจากจีนที่ญี่ปุ่น import เข้ามา จะเห็นจากที่การที่คำว่าราเมงนั้น เขาเขียนด้วยตัว คาตาคานะ  ซึ่งอักษร คาตาคานะเนี่ย เป็นอักษรที่ใช้เขียนสำครับ คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ  ดังนั้น ราเมงเอง ก็ไม่ใช่ของญี่ปุ่นโดยแท้



ภายในร้านบังคาร่าราเมง

ภายในร้านบังคาร่าราเมง

ด้านหน้าร้านบังคาร่าราเมง
ราเมงแต่ละเจ้า จะมีความแตกต่างกันหลักๆ ที่น้ำซุป ซึ่งซุปเนี่ย ก็มีหลากหลายแบบ ตามแต่ที่เจ้าของสูตรของแต่ละร้านจะสรรหามาได้  แต่ผมเข้าใจว่าส่วนใหญ่คงมีไม่กี่แบบ ได้แก่ น้ำซุปกระดูกหมู  น้ำซุปมิโซ น้ำซุปโชยุ น้ำซุปจากปลา อะไรพวกนี้นะครับ  แต่ความข้นของมันนี่แหละที่ทำให้มันอร่อย และความข้นนี้เองที่มันทำให้เลี่ยน และหลายๆคนก็พาล จะไม่ชอบเอาได้

อ่านตามชื่อที่เขียนอยู่หน้าปก เมนูเลย  เขาเขียนว่าบังคาร่าราเมง โตเกียวราเมง ซุปกระดูกหมูครับ ดังนั้นอย่าหวังจะมีน้ำซุปปลา  น้ำซุปราเมงของร้านนี้หลักๆมีน้ำซุปอยู่สามแบบ คือ แบบบังคาร่า ก็คือ แบบข้นๆ อะครับ ทำจากซุปกระดูกหมู ในหน้าเดียวกันนี้เขาให้เลือกได้ว่าจะเอาซุปแบบข้นปกติ หรือแบบข้นน้อยกว่าปกติ ( เรียกว่า อัสสาริ )

เปิดเมนูต่อมาอีกหน้า จะเป็นซุปหมูมันข้นขึ้นไปอีก เขาเรียกว่า มิโซบูตะ  คือ ซุปมิโซ กะมันหมู ในเมนูเขียนว่า กินแล้วมีคอลล่าเจน บำรุงให้ผิวพรรณงดงาม ซึ่งบางท่านอาจว่าทานแล้วจะอ้วนก็เป็นได้  ส่วนหน้าถัดไป เป็นราเมง แบบจิ้มจุ่ม คือมีซุปแยกออกมาจากเส้นเมง  เรียกว่า ซึเค เมง ไม่ว่าจะเป็นราเมงแบบไหน เราก็เลือกใส่ Topping ได้ 7 แบบครับ  ของขึ้นชื่อของร้านนี้คือ หมูสามชั้นต้มนั่นแหละ ลองเอามาใส่ดู  ส่วนไข่ก็มีสองแบบคือไข่มะตูม กับไข่ลวกครับ  แล้วแต่ชอบ

บังคาร่าราเมง

ข้าวหน้าหมูสามชั้น
ไข่ลวก

ไข่ยางมะตูม
ปัจจุบัน ร้านนี้มี wifi ให้ใช้ฟรีแล้ว และข้อควรระวังคือถ้าไปเที่ยงๆ จะต้องต่อคิวค่อนข้างแน่นอน ส่วนเรื่องสุดท้ายควรรู้ คือราเมง มีความข้นมันสูงมาก จะอาจเลี่ยนได้ หากไม่ชินลองเริ่มที่ อัสสาริ ก่อนนะครับ

สุดท้ายนี้ ในความเห็นของผมนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีร้านราเมงร้านไหนในกรุงเทพ ที่ผมให้คำนิยามว่า เป็นราเมงของญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่ใช่ราเมง แบบปรับสูตรให้เข้ากับเมืองไทย เหมือนกับร้านบังคาร่าราเมงแห่งนี้เลยครับ  ส่วนเรื่องความอร่อยหรือไม่นั้น คงต้องขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคลแล้วละ ผมคงไปคิดแทนคนอื่นไม่ได้   แต่สำหรับผมแล้ว  " อร่อยครับ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น