|
Shibuya, Tokyo |
สามรีวิวต่อจากนี้จะเป็นการรีวิว ทริปญี่ปุ่นสามอันต่อกันเลยครับ แม้ผมจะเป็นนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเที่ยวญี่ปุ่น หรือเชี่ยวชาญเรื่องประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด เหมือนกับที่ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้จักและเชี่ยวชาญในการเที่ยวในกรุงเทพฯ อย่างถูกต้อง อย่างไรก็อย่างนั้นครับ
ครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่นก็จะไปเองโดยไม่ได้ไปกับทัวร์ เพราะว่าเรารู้สึกดีกว่าที่จะเลือกไปผจญภัยเอาเองครับ ครั้งนี้ทริปเริ่มจากโตเกียว แล้วก็ไปเยี่ยมญาติที่เกียวโต หลังจากนั้นก็เดินทางไปโอซาก้า เพื่อเดินทางกลับ ผมขอเล่าจากที่ประสบมาก็แล้วกันนะครับ
ผมคิดเอาเองว่าการเดินทางจากนาริตะ มาที่ตัวเมืองโตเกียวนั้น วิธีที่สะดวกที่สุด หากเรามีกระเป๋าเยอะๆ ก็คือ การนั่งรถบัสครับ ซึ่งรถบัสจากนาริตะมาที่ชิบูย่า (มาส่งถึงโรงแรม) ก็ตกคนละ 3000 เยนครับ ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะสะดวกและราคา ok ที่สุด
ครั้งนี้พักที่
Shibuya excel Hotel Tokyo (
http://www.tokyuhotelsjapan.com/en/TE/TE_SHIBU/index.html ) ซึ่งผมไปพักที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว โรงแรมนี้อยู่ตรงสถานีชิบูย่าพอดี ที่ห้าแยกชิบูย่านี่ เป็นแยกที่คึกคักตลอดเวลาแม้ยามดึกดื่นครับ คงเหมาะกับคนที่ชอบแสงสียามราตรี และชอบดูหนุ่มสาวญี่ปุ่นเดินไปมากันควักไขว่ ที่ชิบูย่า นี่ห่างจากฮาราจูกุ นิดเดียวเอง ข้อเสียของที่นี่คือมันห่างจากสถานีรถไฟโตเกียวราว 20 นาทีรถไฟได้ หากขนของเยอะๆ ขึ้นรถไฟไปที่สถานีโตเกียว อาจทำให้เกิดความลำบากได้ครับ และผมคิดว่าครั้งหน้าถ้าผมไปอีกผมคงจะนอนแถวๆกินซ่า หรือที่สถานีโตเกียวไปเลย เพื่อความสะดวกในการเดินทางต่อ อ้อแล้วทำไมผมถึงเลือกนอนที่นี่ก็ตอบได้ง่ายมาก ก็คือราคามันไม่แพงมากครับ สำหรับโรงแรมระดับเดียวกันนี้ เดินทางก็ถือว่าสะดวกนะ แล้วร้านแถวนี้ก็เยอะมากๆด้วย มีปัญหาแค่ตอนต้องขนของเยอะๆขึ้นรถไป
|
Shibuya, Tokyo |
|
Shibuya, Tokyo |
มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นผู้คนเดินกันขวักไขว่
|
Shibuya excel hotel Tokyo |
ห้องน้ำแบบนี้ถือว่าใหญ่เหมือนกันสำหรับประเทศญี่ปุ่น
|
Shibuya excel hotel Tokyo |
ตู้กดมีทุกชั้น
|
Shibuya excel hotel Tokyo |
วิวจากหน้าต่าง เห็นคนเดินเหมือนมด
|
Shibuya excel hotel Tokyo |
อาหารเช้าของโรงแรมนี้ อยู่ชั้นที่ 25 ครับ เห็นวิวเมืองโตเกียวได้สวยงามทีเดียว ห้องอาหารมีสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องอาหารนานาชาติ ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นห้องอาหารญี่ปุ่น ซึ่งแขกสามารถเลือกไปห้องไหนก็ได้ ที่ห้องอาหารญี่ปุ่นอาหารจะมาเป็น set เลย เลือกไม่ได้
ชุดแรกเป็นรูปอาหารเช้าจากห้องอาหารญี่ปุ่น มาเป็น set เลย
|
อาหารเช้าจากห้องอาหารญี่ปุ่น |
ขาดไม่ได้ คือนัตโต แต่ไม่มีใน set อีก และคิดเงินเพิ่มด้วย
ไปญี่ปุ่นทานกับทุกวัน เพื่อนญี่ปุ่นบอกว่านัตโต มีวิตามินที่ทำให้สมองฉลาด เหตุผลที่คนญี่ปุ่นได้รับโนเบลก็คือเพราะทานนัตโต ผมเลยเชื่อเพื่อนมาตั้งแต่สมัยเรียน และก็ทานจนถึงปัจจุบันนี้ ผมว่ามันก็อร่อยดี
|
Natto |
ห้องอาหารนานาชาติ จะอยู่อีกด้านหนึ่งของตึก แต่ชั้นเดียวกัน คือจะเห็นวิวคนละด้าน ผมชอบห้องอาหารนานาชาติมากกว่า มันมีอาหารญี่ปุ่นด้วย และห้องนี้นัตโต ก็มีเรียงอยู่ในถาดให้หยิบได้อยู่แล้วด้วยครับ ไม่ต้องสั่งเพิ่ม
|
ห้องอาหารนานาชาติ |
|
ห้องอาหารนานาชาติ |
ที่แถวๆโรงแรมคือมันเป็นย่านชิบูย่าอยู่แล้ว ดังนั้นร้านอาหารเพียบครับ และครั้งนี้เราเลือกที่จะไปทานที่ร้านปู ร้าน Kanidouraku ซึ่งเป็นร้านที่ทำอาหารที่มาจากปูญี่ปุ่น ซึ่งเป็นปูน้ำเย็น โดยเฉพาะ ผมมีความหลังกับร้านปูนี้ เมื่อสมัยเรียนนั้น ไม่มีเงินพอที่จะกินอาหารเหล่านี้ได้ เคยไปทานร้านปูครั้งหนึ่งที่ฮอกไกโด สมัยเรียน ก็ต้องสั่งแต่ของถูกๆ และกินได้ไม่สมใจอยาก เพราะเราไม่มีเงินมากครับ ก็เลยตั้งใจตั้งแต่เมื่อก่อนว่า ถ้าเรามีตังค์บ้างแล้ว เราจะกลับมาแก้แค้น กินให้หายอยากกับร้านพวกนี้ให้ได้ ก็เลยเลือกร้านนี้เป็นร้านแรกครับ
คานิโดราคุ
(จริงๆ ร้านที่อยากจะแก้แค้นนั้นคือ
http://www.kani-honke.jp/e/ แต่มันไม่มีที่แถวนี้ครับ ต้องไปฮอกไกโด)
|
kanidouraku |
เมนูครับ
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
ช่วงนี้มีเทศกาลปูขนอยู่ด้วย
|
Kani douraku |
จัดไปให้หายอยาก ปูซูชิ ปูนึ่ง ปูเผา ปูซาชิมิ ปูเทปูระ ปูนาเปะ ครับ
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
ปูขน
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
ปูซาชิมิ
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
ผมชอบปูเผามากที่สุด
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
|
Kani douraku |
ถ้าไปญี่ปุ่น นี่ผมว่าน่าจะหาโอกาสไปลองทานร้านปูพวกนี้ดูนะครับ แล้วก็ราเมงแท้ๆ ที่ญี่ปุ่นมีที่อร่อยกว่าเมืองไทย หลายร้านเยอะแยะมากนะครับ อย่ามัวเสียเวลาไปทานโมโม่พาราไดซ์ หรือพวกอาหารบุฟเฟ่ต์ อยู่เลย ผมว่า อุตส่าห์บินไปตั้งไกลแล้วนา
อีกคืนพักที่เดิม แต่นั่งรถไฟไปหาซูชิกินครับ ที่ย่านตลาดปลา
Tsugiji ย่านตลาดปลานี่อยู่ใกล้ๆ กินซ่า ไปถึงแถวนั้นแล้ว ลองเลือกร้านเอา มีหลายร้านเลยครับ ผมว่ามันเหนือชั้นกว่าร้านที่เมืองไทยอยู่ดี คือที่เมืองไทยเรา เน้นหั่นปลาคำใหญ่ๆ ผมว่ามันเอาใจลูกค้ามากจนลืม ต้นกำเนิดของตัวเองไป ว่าทำไมแต่ละชิ้นถึงมีขนาด ขนาดนั้น
ซูชิซัมไม สาขาแรก ต้นตำหรับก็อยู่ย่าน Tsugiji (
http://www.sushizanmai.com/ )
|
ซูชิซัมไม |
|
Sushisanmai |
Sushi Ichiban Honmaguro ซูชิอิจิบัง สุดยอดแห่งปลามากูโร่ (จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ)
|
Sushi ichiban
|
ผมไม่ได้เชี่ยวชาญด้านซูชิ หรือด้านอาหารแต่อย่างใด แต่เมื่อผมได้ทานซูชิที่นี่ ผมว่ามันพอดีคำ มันสด และมันมีการเตรียมการเป็นอย่างดีก่อนจะออกมาถึงลูกค้าครับ ลองทานซูชิพวกปลาหมึกดูสิครับ ผมคิดว่ามันต่างกันลิบลับกับร้านธรรมดาๆ
ผมว่าความสุดยอดของซูชิ อยู่ที่ความเรียบง่ายของมัน อยู่ที่การทำอะไรซ้ำๆซากๆ เหมือนเดิม ไม่ต้อง ฟิวชั่นอะไร แต่อาหารออกมาทุกคำ สม่ำเสมอและสุดยอด ความอร่อยอย่างเรียบง่ายนั้นเกิดจากกระบวนการที่พิถีพิถันและตั้งใจทำทุกขั้นตอน มิใช่เพียงเอาแต่ว่าชิ้นใหญ่เท่านั้น
โอโทโร ชูโทโร อากามิ ที่นี่ราคาถูกกว่าที่กรุงเทพ ฯ เยอะครับ สั่งกันเถอะ (ขออภัยที่รูปถ่ายมาน้อยและไม่ชัดเลย )
|
Otoro |
ที่ Shibuya นี่เป็นที่ตายของ
Hachiko ด้วย (
http://www.youtube.com/watch?v=Y6U7mAnPtw4 )
|
Hachiko |
ไม่ค่อยชอบที่เขาเอา ที่ข้างๆ ฮาชิโกะ ไปทำที่สูบบุหรี่ไปซะแล้ว
|
Hachiko |
ขอจบบันทึกตอนแรกในทริปนี้แต่เพียงเท่านี้ครับ ไว้มาต่ออีกสองตอน
( ตอนที่สอง )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น