|
ยินดีต้อนรับสู่ฮอกไกโด |
อย่างที่ทราบกันว่า blog นี้ ไม่รับเขียนตามคำขอ ต้องอยากจะไปถึงจะเขียนให้ และผมก็ไม่ชอบไปกับทัวร์ด้วย เหตุว่าเพราะผมเป็นคนที่เข้ากับคนยาก และมักสร้างแต่ความยุ่งยากให้กับผู้คนเสมอๆ จึงไปเที่ยวเองดีสุด ไม่ต้องให้คนอื่นรำคาญใจครับ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่พิเศษกว่าปกติ คือเราตั้งใจจะไปดูลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด แต่ปรากฏว่า
JTB ได้จัดทัวร์ขับรถเองอันนี้ขึ้นมา เป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2556 ครับ ซึ่งเป็นช่วงเปิด hi season ของฮอกไกโด ( hi season เริ่มต้นเดือนพฤษภาคม ครับ ถ้าไม่นับ Yuki matsuri เดือนกุมภาพันธ์อะนะครับ )
ทัวร์นี้เป็นทัวร์ที่มีความพิเศษคือ เป็นทัวร์ที่ลูกทัวร์ ไม่ได้นั่งรถทัวร์แต่ต้องขับรถเอง ซึ่งเป็นการจัด คาราวานแบบนี้ครั้งแรกของคณะของคนไทย คือเคยมีจัดบ้างแล้วแต่เป็นคนจากประเทศอื่น และทริปนี้มีสื่อมวลชนทั้งจากของคนไทย และของญี่ปุ่นไปทำข่าว รวมถึงทำเป็น scoop และลงหนังสือด้วย ซึ่งคาดว่าคงจะได้ผ่านตากัน หลังจากที่เห็นบทความอันนี้ของผมไปแล้วอีกพอสมควร ที่เขียนมายาวนี่ไม่ได้ภูมิใจนะครับที่ได้ออกสื่อ เพราะปกติ blog นี้ไม่ชอบออกสื่อ คือผมไม่อยากให้ตัวตนในชีวิตของผม มาปะปนกับ "ตัวตน" ในอินเตอร์เนตของผม อยากให้อ่านบทความของผมไปโดยไม่ต้องมาสนใจตัวตนของผม จะได้ลด "อคติ" และลดจินตนาการที่ผู้อ่านเติมลงไปเองครับ
การไปครั้งนี้ของผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสื่ออื่นๆ ไม่ได้ถูกใครว่าจ้าง ผมจ่ายเงินไปร่วมทัวร์เอง จ่ายเต็มราคา และที่จริงพวกสื่อน่าจะต้องให้ค่าตัวผมในการที่ให้ผมออกสื่อเสียด้วยซ้ำไปนะครับ :D ส่วนที่เขียนบ่นอยู่นี่ก็เป็นการบ่นตามสไตล์ blog นี้อยู่แล้ว
|
ข่าวในหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น |
ที่ฮอกไกโด เขามีคนไทยที่มีจิตอาสาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ลองไปอ่านตรงนี้
ดู
เข้าใจว่าสนามบินชิโตเซะ แห่งนี้เพิ่งสร้างขึ้นแทนสนามบินเดิม ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมาการบินไทยมีบินตรงกรุงเทพฯ ฮอกไกโด ทำให้การไปฮอกไกโด นั้นสะดวกขึ้นมาก และราคาก็ลดลงด้วย เพราะการบินต่อเครื่องในประเทศญี่ปุ่นนั้นราคาไม่ถูกเลย
ดูจากเครื่องที่ผมนั่งไปนั้น ดูตรง immigration จะพบกว่าคนญี่ปุ่นน้อยมาก คนไทยราว 90% ฟังจากคำบอกเล่าบอกว่าตั้งแต่เปิด route นี้มาคนญี่ปุ่นหาตั๋วยากมาก คนไทยจองเต็มหมด และ route นี้เป็นหนึ่งใน route ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของการบินไทยทีเดียวครับ
|
สาเก |
มี free wifi ให้ใช้ได้ 14 วันด้วยครับ เห็นเด่นชัด และรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ จะได้ประหยัดค่า roaming
|
free wifi Hokkaido |
ไร้สาระนิดหน่อย แต่ผมชอบเที่ยวคอมบินิ ของญี่ปุ่นมาก มันมีของอร่อยเยอะ
|
ซูชิ |
|
สนามบินชิโตเซะ ฮอกไกโด |
จากสนามบินนั่งรถบัสไปเอารถที่ Toyota rental car นักข่าวมากันเพียบตั้งแต่ลงเครื่องมาแล้ว ในรูปด้านล่างคณะกำลังฟัง brief เรื่องการขับและวิธีการใช้รถ Prius กันอยู่ ผมเข้าใจว่า JTB ให้ความสำคัญกับงานนี้มาก เพราะมีระดับผู้จัดการมาให้การดูแลกันหลายท่าน ตลอดทั้ง trip และเผลอๆ Toyota ก็ subsidize ค่ารถให้ด้วย (มั้ง)
|
คาราวาน Prius |
รถของเราเป็นรถ Prius
|
คาราวาน Prius |
เนื่องจากการเดินทางเป็นคาราวานหลายคัน จึงใช้วิทยุสื่อสารในการติดต่อระหว่างกัน ในรถมีแผนที่ GPS ทำให้สะดวกในการเดินทาง และการกดหาสถานที่ใน GPS นี้ไม่ยาก เพราะกดแค่เบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ก็สามารถค้นหาสถานที่ได้เลยไม่ต้องสะกดชื่อภาษาญี่ปุ่น แต่ผมว่าแผนที่ใน GPS นี้ยังไม่มีภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์นัก อาจเพราะว่ายังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
รถที่เราขับกันครั้งนี้เป็นรถ Prius และ Prius Alpha ครับ
|
วิทยุสื่อสาร |
ทริปนี้ทั้ง trip เราขับรถกัน 4 วัน รวมระยะทาง ประมาณ 1100 กิโลเมตร สำหรับวันแรก วิ่งประมาณ 300 กิโลเมตร โดยวิ่งจากจุดที่ 1 คือวงกลมสีแดงๆ ที่มีเลข 1 ในภาพข้างล่าง ไปแวะทานอาหารกลางวัน ที่จุดที่สอง ในวงกลมสีแดงที่มีเลข 2 และขับไปพักที่ จุดที่สามครับ การขับรถครั้งนี้ขับเป็นวงกลมออกไปทางฮอกไกโดฝั่งตะวันออก
|
แผนที่ของการเดินทางในวันแรก |
ที่เหนื่อย และง่วงนิดหน่อยในวันแรก เพราะพวกเราเดินทางมาจากกรุงเทพในเวลากลางคืนและนอนบนเครื่องบินมา พอตื่นเช้ามาถึงก็ต้องขับรถกันเลย และที่สำคัญการขับรถเป็นแบบไปเรื่อยๆ ตามๆกันไป ชวนง่วงยิ่งนัก
การเดินทางวันแรกออกจาก ซับโบโร มุ่งไปทางตะวันออก ผ่าน Yubari เมืองที่ขึ้นชื่อมากเรื่องเมลอนญี่ปุ่น (ค่อนข้างแพงอยู่) และไปทาง Obihiro และแวะพักทานอาหารเที่ยงที่
Ikeda wine castle ซึ่งที่นี่อยู่ที่ Tokachi (คันจิเขียน "สิบชนะ" ) ที่ผลิตไวน์มาครบห้าสิบปี ที่ปีนี้เองครับ เมืองโทคาจิ มีประชากรไม่ถึงหมื่นคน รายได้ส่วนใหญ่ของเมืองมาจากการทำ wine
การขับรถช่วงแรก เป็น highway เป็นส่วนใหญ่
|
ระหว่างทาง |
เนื่องจากไปเป็นขบวนใหญ่ ก็ต้องจอดพักตรงที่ที่มีที่จอดรถเยอะๆ ผมชอบคณะทัวร์นี้มากอย่างนึง ตรงที่ทุกคนเป็นระเบียบ และรู้หน้าที่ เคารพสถานะของส่วนรวมกันมากๆครับ เวลาไปเป็นคณะสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือการเสียสละเรื่องของตัวเอง เพื่อรักษาส่วนรวมนี่แหละครับ
|
ระหว่างทาง |
บทความชุดนี้มีรูปรถเยอะมาก เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการขับรถ ถ้าคนไม่ชอบขับรถคงไม่มาทริปกันแบบนี้ ผมอะชอบ ยังนึกอยากเช่า convertible มาขับ อากาศเย็นสบายมากครับสำหรับวันแรก 5-15 องศาเซลเซียส
|
ระหว่างทาง |
ถึงละ Tokachi wine
|
Tokachi wine |
เห็นดอกซากุระ ที่บาน (ไปแล้ว) อยู่ทางซ้ายของแปลงองุ่นสาธิต
|
Tokachi wine |
|
Tokachi wine |
|
Tokachi wine |
อาหารเที่ยงเป็นเบนโต แบบนี้รสชาติธรรมดา
|
อาหารเที่ยง |
|
Tokachi wine |
ไม่ได้ชิม wine เพราะต้องขับรถครับ
|
Tokachi wine |
|
Tokachi wine |
|
Tokachi wine |
ออกเดินทางต่อจาก 2 ไป 3 ในแผนที่ด้านบน เราเริ่มวิ่งติดทะเลบ้างแล้ว และก็แวะที่จุดพักรถอีกจุด คือ Koi Toi kan ญี่ปุ่นดีอย่างนึงคือแต่ละท้องถิ่นจะมีการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีจุดเด่นของท้องถิ่นที่ต่างกันไป และหาซื้อไม่ได้ที่จุดอื่น อย่างตรงนี้ หมึกแห่งความรัก มิตรภาพ
|
Koi Toi kan |
|
ระหว่างทาง |
ขับไปเรื่อยๆ (เหนื่อยและง่วง ) จนถึง คุชิโระ (Kushiro เบอร์ 3 ในแผนที่ข้างบน ) ที่คุุชิโระ จริงๆมีสนามบิน สามารถขึ้นเครื่องจากชิโตเซะ มาลงก็ได้นะครับ
|
Japanese crane reserve |
ที่ศูนย์นี้ ไม่ใหญ่มาก และมีนกอยู่ประมาณไม่ถึง 20 ตัว ที่ให้ชมครับ นกกระเรียนญี่ปุ่นมีจุดเด่น ที่มันใส่หมวกแดง ( ที่หัวของมันมีขนสีแดง )
|
Japanese crane reserve |
คุชิโระเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาแต่อดีต เหตุเพราะที่ท่านี้ น้ำไม่แข็งเป็นน้ำแข็ง นั่นอาจเป็นอีกเหตุหนึ่งที่นกเหล่านี้ หนีหนาวมาอาศัยใน swamp ที่คุชิโระ แห่งนี้จนเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านมาจนเป็นศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์พวกมัน ในปัจจุบัน
|
Japanese crane reserve |
ถึงละ
Kushiro Prince Hotel เล่นเอา มืด
|
Kushiro prince hotel |
ในทริปนี้ทั้งทริป คืนที่พักที่ห้องเล็ก ที่สุด ก็เป็นที่นี่แหละครับ โรงแรมญี่ปุ่นมักจะห้องเล็กๆ แต่ว่าที่คุชิโระ น่าจะทำห้องได้ใหญ่กว่านี้นะครับพี่
|
Kushiro prince hotel |
สาเก คิตะโนะ โช ชัยชนะของภาคเหนือ ด้านขวา ส่วน ซันตอรี่ เบียร์ ทางซ้าย
|
สาเก |
ตื่นเช้ามาถ่ายรูปสักหน่อย จะเห็นความเป็นเมืองท่าของคุชิโระ ครับ เมืองนี้คนอยู่ เยอะเหมือนกัน
|
Kushiro Hokkaido |
|
Kushiro Hokkaido |
|
Kushiro Hokkaido |
|
Kushiro Hokkaido |
|
Kushiro Hokkaido |
|
Kushiro prince hotel |
เอาละ ตื่นเช้ามาก็ brief กันอีกที คราวนี้เราจะวิ่งขึ้นเหนือเลียบทะเลไป มุ่งหน้าสู่มรดกโลก ชิเรโตโกะ (
Shiretoko)
|
Brief |
ทริปนี้ ขับไปกินไป ซื้อ royce potato chip มาลอง มันคือมันฝรั่งเคลือบช๊อกโกแลต ที่ฮอกไกโด มีชื่อเรื่องมันฝรั่ง และก็มีชื่อเสียงเรื่องนม ซึ่งเอามาใช้ทำ ช๊อกโกแลตได้ดี แต่ผสมกันแล้วจะอร่อยหรือเปล่า ความเห็นส่วนตัวคือ อากาศระหว่างที่ไป อยู่ระหว่าง 1-19 องศาเซลเซียส อากาศในรถ ไม่น่าเกิน 25 องศา เซลเซียส แต่ก็ทำให้ช๊อกโกแลตที่เคลือบไว้ ละลายได้ครับ ถ้ามาเมืองไทยอาจเละตุ้มเป๊ะ ได้
|
ขนม |
จบสำหรับ ส่วนที่ 1 แล้วครับ
ยังมีต่อ ........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น