วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ขับรถยนต์เที่ยว ฮอกไกโด ตะวันออก ตอนที่ 1 Hokkaido self drive part 1

ยินดีต้อนรับสู่ฮอกไกโด
อย่างที่ทราบกันว่า blog นี้ ไม่รับเขียนตามคำขอ ต้องอยากจะไปถึงจะเขียนให้  และผมก็ไม่ชอบไปกับทัวร์ด้วย เหตุว่าเพราะผมเป็นคนที่เข้ากับคนยาก และมักสร้างแต่ความยุ่งยากให้กับผู้คนเสมอๆ จึงไปเที่ยวเองดีสุด ไม่ต้องให้คนอื่นรำคาญใจครับ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่พิเศษกว่าปกติ คือเราตั้งใจจะไปดูลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด แต่ปรากฏว่า JTB ได้จัดทัวร์ขับรถเองอันนี้ขึ้นมา เป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2556 ครับ  ซึ่งเป็นช่วงเปิด hi season ของฮอกไกโด  ( hi season เริ่มต้นเดือนพฤษภาคม ครับ ถ้าไม่นับ  Yuki matsuri เดือนกุมภาพันธ์อะนะครับ )

ทัวร์นี้เป็นทัวร์ที่มีความพิเศษคือ เป็นทัวร์ที่ลูกทัวร์ ไม่ได้นั่งรถทัวร์แต่ต้องขับรถเอง ซึ่งเป็นการจัด คาราวานแบบนี้ครั้งแรกของคณะของคนไทย  คือเคยมีจัดบ้างแล้วแต่เป็นคนจากประเทศอื่น  และทริปนี้มีสื่อมวลชนทั้งจากของคนไทย และของญี่ปุ่นไปทำข่าว รวมถึงทำเป็น scoop และลงหนังสือด้วย ซึ่งคาดว่าคงจะได้ผ่านตากัน หลังจากที่เห็นบทความอันนี้ของผมไปแล้วอีกพอสมควร   ที่เขียนมายาวนี่ไม่ได้ภูมิใจนะครับที่ได้ออกสื่อ เพราะปกติ blog นี้ไม่ชอบออกสื่อ คือผมไม่อยากให้ตัวตนในชีวิตของผม มาปะปนกับ "ตัวตน" ในอินเตอร์เนตของผม อยากให้อ่านบทความของผมไปโดยไม่ต้องมาสนใจตัวตนของผม จะได้ลด "อคติ" และลดจินตนาการที่ผู้อ่านเติมลงไปเองครับ

การไปครั้งนี้ของผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสื่ออื่นๆ ไม่ได้ถูกใครว่าจ้าง ผมจ่ายเงินไปร่วมทัวร์เอง จ่ายเต็มราคา และที่จริงพวกสื่อน่าจะต้องให้ค่าตัวผมในการที่ให้ผมออกสื่อเสียด้วยซ้ำไปนะครับ :D  ส่วนที่เขียนบ่นอยู่นี่ก็เป็นการบ่นตามสไตล์ blog นี้อยู่แล้ว

ข่าวในหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น
ที่ฮอกไกโด เขามีคนไทยที่มีจิตอาสาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ลองไปอ่านตรงนี้ดู 
เข้าใจว่าสนามบินชิโตเซะ แห่งนี้เพิ่งสร้างขึ้นแทนสนามบินเดิม ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมาการบินไทยมีบินตรงกรุงเทพฯ ฮอกไกโด ทำให้การไปฮอกไกโด นั้นสะดวกขึ้นมาก และราคาก็ลดลงด้วย เพราะการบินต่อเครื่องในประเทศญี่ปุ่นนั้นราคาไม่ถูกเลย 
ดูจากเครื่องที่ผมนั่งไปนั้น ดูตรง immigration จะพบกว่าคนญี่ปุ่นน้อยมาก คนไทยราว 90% ฟังจากคำบอกเล่าบอกว่าตั้งแต่เปิด route นี้มาคนญี่ปุ่นหาตั๋วยากมาก คนไทยจองเต็มหมด และ route นี้เป็นหนึ่งใน route ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของการบินไทยทีเดียวครับ

สาเก
มี free wifi ให้ใช้ได้ 14 วันด้วยครับ เห็นเด่นชัด และรายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ จะได้ประหยัดค่า roaming

free wifi Hokkaido
 ไร้สาระนิดหน่อย แต่ผมชอบเที่ยวคอมบินิ ของญี่ปุ่นมาก มันมีของอร่อยเยอะ

ซูชิ

สนามบินชิโตเซะ ฮอกไกโด
จากสนามบินนั่งรถบัสไปเอารถที่ Toyota rental car นักข่าวมากันเพียบตั้งแต่ลงเครื่องมาแล้ว  ในรูปด้านล่างคณะกำลังฟัง brief เรื่องการขับและวิธีการใช้รถ Prius กันอยู่ ผมเข้าใจว่า JTB ให้ความสำคัญกับงานนี้มาก เพราะมีระดับผู้จัดการมาให้การดูแลกันหลายท่าน ตลอดทั้ง trip และเผลอๆ Toyota ก็ subsidize ค่ารถให้ด้วย (มั้ง)

คาราวาน Prius
 รถของเราเป็นรถ Prius
คาราวาน Prius
 เนื่องจากการเดินทางเป็นคาราวานหลายคัน จึงใช้วิทยุสื่อสารในการติดต่อระหว่างกัน  ในรถมีแผนที่ GPS ทำให้สะดวกในการเดินทาง และการกดหาสถานที่ใน GPS นี้ไม่ยาก เพราะกดแค่เบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ก็สามารถค้นหาสถานที่ได้เลยไม่ต้องสะกดชื่อภาษาญี่ปุ่น  แต่ผมว่าแผนที่ใน GPS นี้ยังไม่มีภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์นัก อาจเพราะว่ายังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
รถที่เราขับกันครั้งนี้เป็นรถ Prius และ Prius Alpha ครับ

วิทยุสื่อสาร
ทริปนี้ทั้ง trip เราขับรถกัน 4 วัน รวมระยะทาง ประมาณ 1100 กิโลเมตร สำหรับวันแรก วิ่งประมาณ 300 กิโลเมตร โดยวิ่งจากจุดที่ 1 คือวงกลมสีแดงๆ ที่มีเลข 1  ในภาพข้างล่าง ไปแวะทานอาหารกลางวัน ที่จุดที่สอง ในวงกลมสีแดงที่มีเลข 2 และขับไปพักที่ จุดที่สามครับ  การขับรถครั้งนี้ขับเป็นวงกลมออกไปทางฮอกไกโดฝั่งตะวันออก

แผนที่ของการเดินทางในวันแรก
ที่เหนื่อย และง่วงนิดหน่อยในวันแรก เพราะพวกเราเดินทางมาจากกรุงเทพในเวลากลางคืนและนอนบนเครื่องบินมา พอตื่นเช้ามาถึงก็ต้องขับรถกันเลย  และที่สำคัญการขับรถเป็นแบบไปเรื่อยๆ ตามๆกันไป ชวนง่วงยิ่งนัก  

การเดินทางวันแรกออกจาก ซับโบโร มุ่งไปทางตะวันออก ผ่าน Yubari เมืองที่ขึ้นชื่อมากเรื่องเมลอนญี่ปุ่น  (ค่อนข้างแพงอยู่) และไปทาง Obihiro และแวะพักทานอาหารเที่ยงที่ Ikeda wine castle  ซึ่งที่นี่อยู่ที่ Tokachi (คันจิเขียน "สิบชนะ" ) ที่ผลิตไวน์มาครบห้าสิบปี ที่ปีนี้เองครับ  เมืองโทคาจิ มีประชากรไม่ถึงหมื่นคน รายได้ส่วนใหญ่ของเมืองมาจากการทำ wine 

การขับรถช่วงแรก เป็น highway เป็นส่วนใหญ่

ระหว่างทาง
 เนื่องจากไปเป็นขบวนใหญ่ ก็ต้องจอดพักตรงที่ที่มีที่จอดรถเยอะๆ  ผมชอบคณะทัวร์นี้มากอย่างนึง ตรงที่ทุกคนเป็นระเบียบ และรู้หน้าที่ เคารพสถานะของส่วนรวมกันมากๆครับ  เวลาไปเป็นคณะสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือการเสียสละเรื่องของตัวเอง เพื่อรักษาส่วนรวมนี่แหละครับ

ระหว่างทาง
บทความชุดนี้มีรูปรถเยอะมาก เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการขับรถ ถ้าคนไม่ชอบขับรถคงไม่มาทริปกันแบบนี้  ผมอะชอบ ยังนึกอยากเช่า convertible มาขับ อากาศเย็นสบายมากครับสำหรับวันแรก 5-15 องศาเซลเซียส

ระหว่างทาง
 ถึงละ Tokachi wine
Tokachi wine
 เห็นดอกซากุระ ที่บาน (ไปแล้ว) อยู่ทางซ้ายของแปลงองุ่นสาธิต
Tokachi wine

Tokachi wine

Tokachi wine
 อาหารเที่ยงเป็นเบนโต แบบนี้รสชาติธรรมดา
อาหารเที่ยง
Tokachi wine
 ไม่ได้ชิม wine เพราะต้องขับรถครับ

Tokachi wine

Tokachi wine


Tokachi wine
ออกเดินทางต่อจาก 2 ไป 3 ในแผนที่ด้านบน เราเริ่มวิ่งติดทะเลบ้างแล้ว และก็แวะที่จุดพักรถอีกจุด คือ Koi Toi kan  ญี่ปุ่นดีอย่างนึงคือแต่ละท้องถิ่นจะมีการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีจุดเด่นของท้องถิ่นที่ต่างกันไป และหาซื้อไม่ได้ที่จุดอื่น  อย่างตรงนี้ หมึกแห่งความรัก มิตรภาพ

Koi Toi kan

ระหว่างทาง
ขับไปเรื่อยๆ (เหนื่อยและง่วง ) จนถึง คุชิโระ (Kushiro เบอร์ 3 ในแผนที่ข้างบน ) ที่คุุชิโระ จริงๆมีสนามบิน สามารถขึ้นเครื่องจากชิโตเซะ มาลงก็ได้นะครับ  
เรามาดู ศูนย์อนุรักษ์ นกกระเรียน กันที่นี่ http://kushiro-tancho.jp/ โดยความร่วมมือกับสวนสัตว์คุชิโระ

Japanese crane reserve
ที่ศูนย์นี้ ไม่ใหญ่มาก และมีนกอยู่ประมาณไม่ถึง 20 ตัว ที่ให้ชมครับ นกกระเรียนญี่ปุ่นมีจุดเด่น ที่มันใส่หมวกแดง  ( ที่หัวของมันมีขนสีแดง )

Japanese crane reserve
 คุชิโระเป็นเมืองท่าที่สำคัญมาแต่อดีต เหตุเพราะที่ท่านี้ น้ำไม่แข็งเป็นน้ำแข็ง  นั่นอาจเป็นอีกเหตุหนึ่งที่นกเหล่านี้ หนีหนาวมาอาศัยใน swamp ที่คุชิโระ แห่งนี้จนเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านมาจนเป็นศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์พวกมัน ในปัจจุบัน

Japanese crane reserve
 ถึงละ Kushiro Prince Hotel เล่นเอา มืด

Kushiro prince hotel
ในทริปนี้ทั้งทริป คืนที่พักที่ห้องเล็ก ที่สุด ก็เป็นที่นี่แหละครับ  โรงแรมญี่ปุ่นมักจะห้องเล็กๆ แต่ว่าที่คุชิโระ น่าจะทำห้องได้ใหญ่กว่านี้นะครับพี่ 

Kushiro prince hotel
 สาเก คิตะโนะ โช  ชัยชนะของภาคเหนือ ด้านขวา ส่วน ซันตอรี่ เบียร์ ทางซ้าย

สาเก
 ตื่นเช้ามาถ่ายรูปสักหน่อย  จะเห็นความเป็นเมืองท่าของคุชิโระ ครับ  เมืองนี้คนอยู่ เยอะเหมือนกัน

Kushiro Hokkaido

Kushiro Hokkaido

Kushiro Hokkaido

Kushiro Hokkaido

Kushiro Hokkaido
Kushiro prince hotel
 เอาละ ตื่นเช้ามาก็ brief กันอีกที คราวนี้เราจะวิ่งขึ้นเหนือเลียบทะเลไป มุ่งหน้าสู่มรดกโลก ชิเรโตโกะ ( Shiretoko)

Brief
 ทริปนี้ ขับไปกินไป ซื้อ royce potato chip มาลอง มันคือมันฝรั่งเคลือบช๊อกโกแลต  ที่ฮอกไกโด มีชื่อเรื่องมันฝรั่ง และก็มีชื่อเสียงเรื่องนม ซึ่งเอามาใช้ทำ ช๊อกโกแลตได้ดี  แต่ผสมกันแล้วจะอร่อยหรือเปล่า ความเห็นส่วนตัวคือ อากาศระหว่างที่ไป อยู่ระหว่าง 1-19 องศาเซลเซียส  อากาศในรถ ไม่น่าเกิน 25 องศา เซลเซียส แต่ก็ทำให้ช๊อกโกแลตที่เคลือบไว้ ละลายได้ครับ  ถ้ามาเมืองไทยอาจเละตุ้มเป๊ะ ได้

ขนม
 จบสำหรับ ส่วนที่ 1 แล้วครับ ยังมีต่อ ........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น