สาเหตุที่ผมคิดจะซื้อกล้องติดรถมาก็เพราะว่า รถยนต์ของผมเกิดอุบัติเหตุ และไม่สามารถบันทึกคู่กรณีไว้ได้ ทำให้บริษัทประกันไม่จ่ายเงิน ให้เนื่องจากเป็นประกันชั้นสองบวก ที่ต้องมีคู่กรณีเท่านั้น (เพียงแค่มีเลขทะเบียนคู่กรณีก็พอแล้ว) ผมก็เลยไปหาซื้อกล้องติดรถ
พอไปเดินดูที่ร้านก็พบว่า หลากหลายแบบและเริ่มที่ราคาประมาณสองพันบาทก็มี ไม่รู้ว่ามีถูกกว่านี้ไหม แต่สุดท้ายอยากได้ Garmin คงเพราะยี่ห้อเขามั้งครับ
http://www.garmin.co.th/products/ontheroad/
อันนี้เป็นวีดีโอที่น้องๆจัดทำรีวิว Garmin GDR45 มาให้
เปิดดูเวป ก็พบว่ากล้องติดรถการ์มิน นี่มีหลายรุ่นแล้ว และรุ่นที่ออกใหม่คือ GDR45 และ GDR33 บอกตามตรงว่าอยากได้แค่ GDR 33 เพราะว่าไม่รู้จะเอาจอไปทำไม ก็เราอยากให้มันแค่บันทึกภาพเท่านั้นเอง เราไม่ได้จะถ่ายวีดีโอ แล้วอีกอย่างผมคิดว่ากล้องแบบมีจอนี่กินถ่านกว่าด้วย
แต่เอาเข้าจริงๆ ตั้งแต่ใช้กล้อง GDR45 ที่ซื้อมาก็ไม่เคยลองดูสักทีว่าแบตอยู่นานไหม เพราะปกติเวลาใช้ก็จะเสียบที่ชาร์ต ตลอด
ลืมบอกไปว่า ที่ไปได้ GDR45 มา ก็เพราะว่า วันที่ไปซื้อนั้น ไม่มี GDR 33 ในร้านที่ผมไปซื้อ แต่ความเห็นส่วนตัว ผมว่า ซื้อ GDR 33 ก็น่าจะพอ และมันก็ถูกกว่ากันเยอะเลย
Garmin รุ่นต่างๆ |
catalog ของ ยี่ห้ออื่น |
และในกรณีที่ต่อสายตรงไฟจาก Battery มา ถ้ามีเหตุผิดปกติ กล้องจะถ่ายเองได้ด้วย แม้ในกรณีรถจอดดับเครื่องอยู่ หรือในกรณีที่มีแรงสั่นสะเทือน เช่นเกิดอุบัติเหตุ
Garmin GDR45 |
ในเรื่องการ lock clip นั้นกล้อง Garmin GDR45 จะ lock clip อีกกรณี เมื่อมีแรงสั่นสะเทือนมากๆ กระทบกับตัวกล้อง มันจะคิดว่าเกิดอุบัติเหตุ และ lock clip ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
Garmin GDR45 |
Garmin GDR45 |
นอกจากนี้ เราสามารถ download โปรแกรม PC Tool ของ Garmin Driving recorder ได้จาก website เมื่อเปิด clip ที่ถ่ายไว้ในโปรแกรมดังกล่าว
Garmin Driving recorder PC Tool |
จุดที่ชอบ
1. Brand คุ้นเคย ใช้ อุปกรณ์ของ Garmin และเข้า ศูนย์ Garmin ได้
จุดที่ไม่ชอบ
1. ราคาสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
2. การถ่ายภาพในที่แสดงน้อย น่าจะทำได้ดีกว่านี้
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่าน Ichiro's blog ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น