Ichiro's Blog: ทริป รัสเซีย ตอนที่ 2, มอสโค Moscow

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทริป รัสเซีย ตอนที่ 2, มอสโค Moscow

St. Basil's Cathedral

ทริป รัสเซีย ตอนต่อจากตอนที่แล้วครับ ความเดิมตอนที่แล้วเราได้นั่งรถไฟ มาจากเซนต์ปีเตอร์สเบริ์ก มาที่สถานีรถไฟมอสโค สิ่งแรกหลังจากที่ออกจากสถานีรถไฟมาแล้วต้องเจอ ก็คือ การจราจรที่ติดขัดอย่างมาก ติดยิ่งกว่าที่เมืองหลวงของประเทศไทยเสียอีกครับอาจเกิดจากความไม่มีระเบียบของประชาชนด้วย คำว่า "วินัยจราจร สะท้อนวินัยชาติ" นั้นอาจจะมีมูลอยู่บ้างนะครับ

พอมาถึงเราก็เข้า Check in ที่โรงแรม Savoy เลยครับ ซึ่งข้อดีของโรงแรมนี้คืออยู่ในทำเลที่เดินไปยัง Red Square กับ พระราชวัง Kremlin ส่วนตัวแล้ว ผมมีความเห็นว่า การเข้าพักที่ โรงแรม Savoy นี้ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าจดจำมากๆอันนึงของการมาเยือนรัสเซียครั้งนี้ครับ

เริ่มด้วยบริเวณ Lobby และ Lobby lounge ครับ ตกแต่งได้งดงามจริงๆ ในความเห็นผม

The Savoy Hotel Moscow

โรงแรม Savoy เป็น Chain ของ The Great Hotels of The world http://www.savoy.ru/en/ ที่ถูก Renovate ขึ้นมาใหม่ในปี 2005 แต่เดิมโรงแรมนี้

The Great Hotels of the world

โรงแรมนี้ wifi ทั้งโรงแรมครับ ฟรีด้วย ส่วนห้องพักที่ไปพักนี่ก็เป็นห้องที่ถูกที่สุดของโรงแรมนี้ครับ

The Savoy Hotel Moscow

มี L'Occitane ให้ใช้ด้วย

The Savoy Hotel Moscow

จุดเด่นอีกจุดของที่นี่คือห้องอาหารครับ หรูหราอลังการมาก (สำหรับคนบ้านๆอย่างผม)

Restaurant at The Savoy Hotel Moscow

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ คือเรามีน้ำ Hiso ดื่มตลอด ทั้งในห้องและที่ห้องอาหาร

Restaurant at The Savoy Hotel Moscow

น้ำ

ข้างๆโรงแรม มีร้านอาหาร chain ชื่อ My My น่าจะอ่านว่า มอ มอ ครับ ( Cafe Mu Mu ) เป็นเสียงร้องของวัว ร้านนี้เป็นเหมือนโรงอาหาร

Cafe My My, Moscow

ร้านนี้เหมาะมากสำหรับ คนที่พูดภาษารัสเซียไม่รู้เรื่อง เราก็เดินไปหยิบถาดแล้ว ก็ไปชี้ๆ เอา แล้วก็ไปจ่ายเงินครับ เหมือนร้านใน Disney land นิดหน่อย

Cafe My My, Moscow

ราคาไม่แพง มี wi-fi free และมีหลายสาขาครับ

Cafe My My, Moscow

ผมว่า คนไปรัสเซีย แบบไม่ไปทัวร์ ก็น่าไปลองดูครับ

Cafe My My, Moscow

อาหารญี่ปุ่นก็ยังอุตส่าห์มี

Cafe My My, Moscow

ไอเดียของการเป็นประเทศ รัสเซีย เกิดมาราวศตวรรษที่ 14 หลังชาวรัสเซียรวมใจกันโค่นชาวมองโกลที่ปกครองดินแดนแถบนี้อยู่ตั้งแต่สมัยเจงกิสข่าน และก็เริ่มการ "นำเข้า" สถาปัตยกรรมของต่างชาติเข้ามาในสมัยนี้เองที่มอสโค ซึ่งส่วนมากจะมาจากสไตล์ของอิตาเลียน ครับ จะเห็นว่าจริงๆ แล้วเมืองหลวงของรัสเซียอยู่ตรงนี้มาแต่เดิม และกลับมาอยู่ตรงนี้อีกครั้งในสมัยสหภาพโซเวียต

Kremlin

สิ่งหนึ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับมอสโค คือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินครับ ที่สร้างขึ้นในสมัยของสหภาพโซเวียตเช่นกัน สถานีรถไฟฟ้าเหล่านี้ อยู่ใต้ดินที่ลึกมากๆ ประมาณว่าปลอดภัยจากระเบิดนิวเคลียร์กันทีเดียว แต่ที่ประทับใจอยู่ตรงที่ความสวยงามของสถานีเหล่านี้ครับ ที่แต่ละสถานี้ก็ตกแต่งต่างๆกันไป (แต่รถไฟบางขบวนก็เก่าจังครับ เหมือนมาจากสมัยสงครามเย็นทีเดียว)

Metro Decoration

สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับชาวรัสเซีย คือผมว่าผู้ชายที่นี่สุภาพบุรุษเหมือนกัน ส่วนผู้หญิงก็โอเคนะครับ ดูจากพฤติกรรมของการร่วมกันโดยสารรถไฟครับ ดีกว่าประสบการณ์ที่ไปเจอที่ญี่ปุ่นเยอะเลยครับ

Metro Decoration

ส่วนสถานที่เที่ยวผมค่อนข้างขึ้เกียจเขียนอธิบาย ก็เลยจะบอกแค่ที่เที่ยวที่ได้ไปมาเท่านั้นครับ แห่งแรกคือพระราชวังเครมลิน และวัดวาอาราม รวมถึงพิพิธภัณฑ์ภายในพระราชวัง

ตรงนี้เป็น "ไฟที่ไม่มีวันดับ" มีทหารสองนายผลัดเปลี่ยนเวรยามกันตรงนี้

Great Kremlin Palace

ที่รอบๆ มีแท่านที่จารึกชื่อรัฐต่างๆ ส่วนที่เห็นตรงกลางภาพไกลๆ คือกำแพงเก่าที่อนุรักษ์ไว้ให้ดูว่าเป็นเช่นไร ครั้งหนึ่งสมัยฝรั่งเศส โดยพระเจ้านโบเลียน บุกมาถึงที่วังแห่งนี้ แม้จะบุกเข้าไปได้ สุดท้ายก็ถูกปิดล้อม และพ่ายแพ้ไปในที่สุด

Great Kremlin Palace

รัสเซียนับถือคริสตร์นิกาย รัสเซียน ออโทรดอกซ์

Great Kremlin Palace

โบสถ์เหล่านี้ภายในบรรจุพระศพ ของราชวงศ์ในอดีต
รูปล่างด้านซ้ายคือ Cathedral of the Assumption ภายในของโบสถ์ในบริเวณของวังเครมลินนั้น ดูจากภายใน สวยกว่าดูจากด้านนอกมากมายหลายเท่านัก ถ้ามีเวลาควรใช้เวลาเข้าไปดูรูปภาพภายใน (ซึ่งห้ามถ่ายรูปครับ)

Cathedral of the Assumption

Great Kremlin Palace

Tsar Bell วางอยู่ใกล้ๆ Ivan the Great Bell Tower Tsar Bell อันนี้เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก เฉพาะชิ้นส่วนที่แตกออกมามีน้ำหนักราว 11.5 ตัน คาดการณ์ว่า มันแตกเพราะว่าในปี 1737 ที่วังเครมลินเกิดไฟไหม้ มีคนเอาน้ำเย็นไปราดบนระฆัง พอความร้อนปะทะความเย็น มันก็เลยแตกออก

Tsar Bell

ออกจากวัง แวะกินร้านอิตาเลียนแบบ Fast food ชื่อร้าน Sharro

Sharro

เป็นแบบเดินตักเอง เหมือนโรงอาหารแล้วก็ไปจ่ายตังค์อีกแล้ว

Sharro

เดินไปไม่ไกลจากวังเครมลิน ก็จะถึง Red Square ที่ที่ช่วงหนึ่งเคยใช้เป็นที่แสดงแสนยานุภาพทางทหาร

ด้านหนึ่งของ Red Square ติดกับกำแพงวัง เครมลิน ที่เห็นในรูปด้านล่างคือ Saviour's Tower ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทางเข้าหลักของวัง

Saviour's Tower

aviour's Tower

St. Basil's Cathedral แทบจะเป็นสัญลักษณ์ของการมารัสเซีย สร้างในราวศตวรรษที่ 16 โดยพระเจ้า Ivan the terrible สร้างเพื่อฉลองชัยชนะอย่างเด็ดขาดของรัสเซียต่อชาวมองโกล จากชัยชนะที่ศึกเมืองง Kazan ในปี คศ. 1552

ตำนานเล่าว่า โบสถ์นี้สวยงามมากจนกระทั้ง พระเจ้า Ivan ถึงกับทึ่่งในความงามยิ่งนัก ถึงกับทรงทำให้พระองค์เอง ตาบอดลง เพื่อที่จะไม่ต้องเห็นและสามารถออกแบบอะไรที่สวยงามได้เช่นนี้อีกเป็นแห่งที่สอง

ใกล้ๆกัน มีห้าง Gum ซึ่งเป็นห้างที่เก่าแก่และมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากๆของรัสเซีย ซึ่งสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 หากมาตรงนี้และมีเวลาก็ควรแวะเช่นกันครับ