เมื่อไปถึง สิ่งที่ผมทำคือการแลกเงิน แต่ปรากฎว่า เอาเข้าจริงๆ เงินไทย หรือเงิน US S$ หรือ ดอง เวียดนาม ก็สามารถใช้ได้ทั้งนั้น และเรื่องที่เพิ่งทราบ คือ 1 บาท มีค่าอยู่ประมาณ 650 ดอง ณ เวลาที่ผมไป ดังนั้น ถ้าแลกตังค์สัก 1500 บาท จะได้ กลับมาเป็น ล้าน ดอง ทีเดียว
เมื่อขึ้นรถ Guide ก็จะเริ่มพูดถึงแต่เรื่องของ ท่านโฮจิมิน ที่เป็นผู้กอบกู้ชาวเวียดนามให้พ้นจากการยึดครองของฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นผู้นำในการรบจนเวียดนามรวมกันได้ แม้ท่านจะเสียชีวิตไปก่อนก็ตาม ซึ่งดูเหมือน ชาวเวียดนามจะพูดถึงท่านโฮจิมิน ในฐานะ Hero ผู้ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
ในขณะที่เขียน เวียดนามมี GNP อยู่ในระดับพอๆกับไทยแล้ว และมีจำนวนประชากรมากกว่าไทย เพราะเขามีประมาณ 90 ล้านคน แต่หากดูสภาพบ้านเมืองโดยรวม จะพบว่าเมืองยังไม่เจริญเหมือนในเมืองไทย เป็นการผสมระหว่างตึกใหม่กับตึกเก่า ซึ่งตัวตึกใหม่ๆ ก็ยังสร้างได้ไม่สวย และเทคนิคการทำก็ยังคงหลังจากบ้านเราอยู่พอควร แต่ไม่ได้หมายความว่าจะตามไม่ทัน
สถานที่ที่ได้ไปในวันแรกคือ เมือง Ninh Bin ซึ่งห่างจาก Hanoi ไปประมาณ 100 กิโลเมตร จะพบสถานที่ที่คนไทยเรียกว่า ฮาลองบก หรือ เวียดนามเรียก แทมก๊ก จะเป็นลักษณะ บ่อน้ำใหญ่ๆใช้การท่องเที่ยวไปโดยใช้เรือพาย พายไปกลับ
เรื่องน่ารำคาญใจ คือคนที่นี่เขาบังคับขายของนักท่องเที่ยว หากเราไปล่องเรือ ก็จะพบกับคนไปตามถ่ายรูปเรา และก็เอามา(บังคับ)ขาย รวมทั้งมีการขายของอะไรกันบนเรือด้วย สุดท้ายยังทวงทิปอีก ซึ่งก็ทำให้เสียบรรยากาศไปพอสมควร แต่โดยรวมๆ ก็บรรยากาศดี อาากศเย็นสบายครับ แต่จะคุ้มกับการนั่งรถไปกลับ กว่า สามชั่วโมง ในถนนเส้นเล็กๆ หรือไม่นั้น แล้วแต่ท่านจะพิจารณา
ส่วนคืนวันแรกที่เราไปถึงนั้น เราก็ไปกินกันที่ ร้าน Quan An Noon ผมไม่สามารถระบุตำแหน่งได้แน่ชัด แต่อยู่ใกล้ๆ โรงแรมนั่นแหละ โรงแรมที่เราพัก เป็นโรงแรมของคนไทยมั้งครับ โรงแรม Melia Hanoi www.meliahanoi.com
สำหรับอาหารก็เป็นดังรูป ซึ่งผมว่าที่ในร้านในไทยอร่อยกว่านะครับ ที่นี่จะจืดๆหน่อยๆ แล้วได้ยินว่า ที่หนองคายที่บ้านเราที่มีทำพวกนี้เหมือนกัน เขาก็เป็นคนเวียดนามที่อบยพไปนี่แหละทำ แต่บ้านเรามีเครื่อง ครบกว่า ทำให้ได้รสชาติที่ดีกว่า อันนี้ก็ต้องลองพิสูจน์กันดูเอง
โปรดติดตามต่อไปในตอนที่สอง นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น